
ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีคาแรคเตอร์ และน่าติดตามสุด ๆ สำหรับสาวน้อยเสียงทรงพลัง ‘POOKAN (พู่กัน กันฏ์ระพี พิริยพูล)‘ ที่พร้อมปล่อยเพลงแรกมาให้ทุกคนได้ฟังกันแล้ว กับซิงเกิลล่าสุด “ทนไปเพื่อ (So This Is Goodbye)” เพลงเศร้าสุดทิ่มแทง กับประโยคที่เขาว่ากันว่า คนที่ใช่ ไม่ต้องพยายาม ยังคงเป็นประโยคสุดเจ็บปวดที่จริงเสมอ เพลงแนวป๊อบร็อก (POP ROCK) ที่เข้มข้นมากขึ้นทั้งในด้านดนตรีและตัวเพลง รวมไปถึงลุกส์ที่โตขึ้น ซึ่ง POOKAN ตั้งใจเดินทางสายร็อกอย่างเต็มตัว โดยเพลงมีเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย ติดหู และโดนใจ ผ่านปลายปากกาของ ปู๋ HENS ซึ่ง ฮาย PAPER PLANES โปรดิวเซอร์คู่ใจก็มาช่วยทั้ง แต่งเนื้อร้อง-ทำนอง และเรียบเรียงดนตรีอีกเช่นเคย ซึ่งทาง KAZZ ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ และเก็บภาพของ ‘POOKAN (พู่กัน กันฏ์ระพี พิริยพูล)’ มาฝากให้ทุกคนด้วย
Q : พูดถึงเพลง “ทนไปเพื่อ” หน่อยว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับอะไร
พู่กัน : เพลง ทนไปเพื่อ (so this is goodbye) จะเป็นเพลงเกี่ยวกับ toxic relationship แล้วกันค่ะ จะเป็นเพลงที่อยากให้ความหมายมันเข้าถึงง่ายสำหรับหลายๆคนนะคะ เป็นการให้กำลังใจแล้วกัน สำหรับใครที่อยู่ใน relationship ที่มันรู้สึกเหมือนรักเขาข้างเดียว ก็คือให้กำลังว่า ถ้าเกิดว่ามันไม่ดีก็ควรจะเดินออกมา จะทนไปทำไม อะไรอย่างนี้ค่ะ
Q : จุดเริ่มต้นของเพลง “ทนไปเพื่อ” เกิดขึ้นได้ยังไง
พู่กัน : คล้ายๆว่าอยากเปลี่ยนจากเพลงก่อนหน้านี้ค่ะ แล้วก็เหมือนแบบว่าอยากให้มันมีความ strong มากขึ้นจากเพลงก่อนๆนะคะ แล้วก็มันเหมือนเป็นการทดแทนความรู้สึกของใครๆก็ตามที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แล้วก็เหมือนไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตัวเองออกมายังไงค่ะ ก็ อยากให้เพลงนี้เป็นตัวแทนค่ะ
Q : ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็น “สายร็อก” แบบเต็มตัวกับซิงเกิลนี้
พู่กัน : จริงๆแล้วเป็นสายร็อกอยู่แล้ว ชอบฟังเพลงร็อกแบบหนักๆ ที่แบบดนตรีหนักๆค่ะ แต่ว่าแค่เพลงก่อนๆกำลังค้นหาตัวเองมากกว่าค่ะ แล้วแบบว่าพอปล่อยเพลงไปเรื่อยๆก็รู้สึกแบบ เออ เราอยากทำเพลงแนวนี้บ้างอะไรอย่างนี้ค่ะ เพราะว่าเพลงก่อนๆก็จะแบบว่าตามกระแสอะไรอย่างนี้ค่ะ
Q : เพลง “ทนไปเพื่อ” ถ่ายทอดความสัมพันธ์ toxic แบบไหน
พู่กัน : ก็น่าจะ toxic แบบเหมือนเขาแค่ต้องการเราตอนที่เขาไม่มีใครมากกว่าค่ะ แต่ว่าพอเราต้องการเขาเนี่ย เขาก็ไม่ได้อยู่กับเราแบบว่าเขาก็ไปใช้ชีวิตตามความสะดวกของตัวเอง แต่ว่าพอเขาไม่มีใคร เขาก็กลับมาหาเราค่ะ
Q : สถานการณ์แบบไหนที่จะทำให้พู่กันรู้สึกว่าจะ “ทนไปเพื่อ”
พู่กัน : คิดว่าก็มีหลายๆเรื่องค่ะ ทั้งแบบว่าอาจจะเป็นความสัมพันธ์แบบการเป็นเพื่อน ความสัมพันธ์โรแมนติกอะไรอย่างนี้ ก็ถ้าเกิดเรารู้สึกว่า ถ้าเกิดเราคบกับคนนี้ในเชิงแบบเพื่อนหรืออะไรก็ตามใช่มั้ยคะ แล้วมันไม่ได้ดีขึ้น หรือว่าเขาทำให้เรารู้สึกแย่ ทำให้จิตใจเราแบบว่าไม่ดีก็คิดว่าไม่ควรจะทนค่ะ เพราะว่าถ้าเราทนไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ได้อะไรกลับมาค่ะ
Q : ถ้าตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบ “ได้เป็นคนที่ยืนใกล้ๆ แต่ไม่เคยได้ยืนในใจ” พู่กันจะมีวิธีรับมือยังไง
พู่กัน : ก็คิดว่า ถ้าเกิดเราไม่ได้แบบคาดหวังว่าเราจะเป็นอะไรมากกว่านั้น ถ้าเกิดเรามีความสุขในการทำ ในการที่จะอยู่ข้างๆคนๆนั้น ก็ทำไปเถอะ เพราะว่าเดี๋ยวมันก็จะถึงวันที่เราอาจจะรู้สึกแบบ เออ เรากลับมารักตัวเองดีกว่า



Q : อยากบอกอะไรกับคนที่กำลังเจอกับสถานการณ์แบบนี้
พู่กัน : จริงๆก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะว่ายังไม่เคยเจอเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวค่ะ แต่ว่าก็มีเพื่อนบางคนมาเล่าให้ฟัง ก็อยากบอกว่า “เดินออกมาเถอะ ถ้าเกิดเราทำไปแล้วเราไม่ได้มีความสุขอะค่ะ” เหมือนแบบว่าเราอาจจะทำไปเพราะว่าเรารักเขา แต่พอเขาไม่ต้องการเราแล้วอะ เราก็ไม่มีความสุขค่ะ มันเหมือนแบบว่ามันอาจจะไม่ใช่ความรักที่จริงใจ มันเหมือนเป็นความ adjustment มากกว่า มันเหมือนแบบเรารู้สึกว่าเรารักเขาอะค่ะ เหมือนว่าเรา move on จากเขาไม่ได้
Q : ขอ 3 เช็คลิสต์ “อาการของคนไม่มีใจ” สำหรับพู่กัน
พู่กัน : น่าจะเป็น หนึ่งเลยก็คือถ้าเกิดเขาไม่พยายามที่จะหาเวลาให้เราค่ะ คือคิดว่าถ้าเกิดเราสำคัญกับเขาจริงๆ เขาก็ควรจะมีเวลาให้เราเจอกันบ้าง หรืออาจจะโทรหากันอะไรอย่างนี้ อย่างที่สองเลยก็น่าจะแบบว่า ถ้าเกิดเค้าแค่โทรมาหาเรา หรือแค่ต้องการเราในตอนที่เขาไม่มีใคร คือมันก็ทำให้อีกคนรู้สึกแย่ได้ แล้วก็อย่างที่สามเลยก็คือ ถ้าเกิดเขาไม่ได้ให้ความรัก เท่ากับที่เราให้เขาไป แบบว่าถ้าเกิดเราให้เขาร้อย แต่เขาให้กลับมาแค่ยี่สิบ สามสิบ ก็ไม่ควรไปต่อ เพราะว่าถ้ามันไปเรื่อยๆมันอาจจะลดลงด้วยซ้ำ
Q : ขอ How to say “GOOD BYE” สำหรับคนที่อยากหัน “กลับมารักตัวเอง”
พู่กัน : คิดว่าควรจะบอกกับคนนั้นไปตรงๆเลย ว่าแบบเราไม่โอเคนะ เราขอเดินออกมา แต่ว่าถ้าเกิดอันนี้เป็นหลายครั้งแล้ว แต่เรายัง move on ไม่ได้อะค่ะ แล้วเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เราก็ควรจะตัดเขาออกไปเลย แบบว่าพยายามที่จะลบทุกๆอย่างออกไป เพราะว่าคิดว่าการตัดออกไปเลยจะดีกว่าการที่เราจะต้องกลับมาเจอหน้าเขา กลับมาสนใจเขา แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
Q : ใครคือคนที่พู่กันจะ “โทรหาทุกที” ที่มีเรื่อง
พู่กัน : อาจจะคุณแม่ค่ะ เพราะว่าก็เป็นคนที่คุยกับคุณแม่เกือบจะทุกๆอย่าง พูดว่าเกือบแล้วกัน เพราะก็เป็นคนที่ชอบเก็บไว้กับตัวเองมากกว่าด้วยค่ะ แต่ว่าถ้าเกิดเราไม่ไหวจริงๆก็จะคุยกับคุณแม่ค่ะ
Q : เม้าท์บรรยากาศการถ่ายทำ MV หน่อย
พู่กัน : ตอนแรกตื่นเต้นมากๆค่ะ เพราะว่าพอเข้าไปก็จะเห็นพี่คลอดีนกับพี่บาร์โค้ดยืนอยู่เลยตรงนั้นแบบว่าเขากำลังรอเข้าซีนอะค่ะ แล้วเราก็แบบเดินเข้าไปใช่มั้ยคะ ก็เจอพี่ๆเขาแล้วแบบออร่ามากๆ แล้วตอนแรกก็ตื่นเต้น เพราะตอนนั้นแบบหน้าสดด้วย (หัวเราะ) แต่ว่าพอได้เริ่มคุยกันก็ flow มากๆเลยค่ะ พี่ๆเขาก็ใจดี แล้วก็มีความ chill แล้วก็ enjoy ในการทำงานด้วยกัน แล้วก็แบบว่ามีความสนใจในด้านดนตรีเหมือนกัน ก็เลยได้ปรึกษากันในหลายๆอย่างค่ะ
Q : ทำไมถึงต้องเป็น “บาร์โค้ด ตฤณสิษฐ์” กับ “คลอดีน อทิตยา” ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเลือกมั้ย
พู่กัน : มีส่วนในการช่วยเลือกนะคะ เพราะว่าได้คุยกับทางทีม MV แล้วก็ทางทีมของตัวเองด้วย แล้วก็คิดว่าอยากให้ MV นี้มันมีความแบบอเมริกันนิดๆ ก็เลยอยากให้พี่คลอดีนมาเล่น เพราะว่าพี่เขาจะมีลุคความอเมริกัน ความสากลอะค่ะ แล้วก็คิดว่าถ้าพี่คลอดีนเล่นกับพี่บาร์โค้ดก็น่าจะเคมีเข้ากันดีมากๆค่ะ หลังได้ร่วมงานกันแล้วก็รู้สึกว่าจูนกันติดเร็วมากๆค่ะ เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาจะเป็นยังไงกัน แบบว่าจะคุยกันเป็นยังไง แต่ว่าพอเริ่มก็คือดีมากๆเลยค่ะ เพราะว่าพี่ๆเขาก็พยายามจะชวนคุยค่ะ เพราะว่าเป็นคนชวนใครคุยไม่ค่อยเก่งค่ะ แล้วเขาก็น่าจะเห็น เพราะว่าเป็นคนแบบ ไม่รู้อะ ชอบอยู่กับตัวเองมั้ง แล้วพี่คลอดีนก็บอกว่าเพลงนี้ดีมากๆ เพราะว่ามัน relate กับพี่เขามากๆ เราเลยรู้สึกดีใจที่พี่ๆทั้งสองชอบเพลง ดีใจที่มันเป็นเพลงที่สามารถสื่อสารความรู้สึกของใครสักคนหนึ่งออกมาได้อะค่ะ แล้วพี่เขาก็บอกว่ามันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจมากๆ เราก็แบบดีใจที่เราได้เป็นตัวแทนความรู้สึกของหลายๆคนแล้วกันค่ะ แล้วพอจูนติดก็คือคุยทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนใช้ภาษาอังกฤษคุยกันด้วยมันก็เลย chill ด้วยค่ะ


Q : เอกลักษณ์ของพู่กันที่อยากให้แฟนๆได้รู้จักเพิ่มขึ้น
พู่กัน : อาจจะนิสัยมั้งค่ะ หลายๆคนอาจจะเห็นว่าเป็นคนนิ่งๆใช่มั้ยคะ พอทำหน้านิ่งใช่มั้ยค่ะ มันอาจจะดูน่ากลัวนิดหนึ่ง บางคนก็บอกว่าเป็นคนหน้าหยิ่ง แต่ว่าจริงๆไม่หยิ่งนะคะ จริงๆเป็นคน friendly มากๆเลย เป็นคนยิ้มเยอะค่ะ ก็อยากเป็นคนที่พอคนได้เห็นโชว์หรือได้ฟังเพลงก็รู้สึกยิ้มได้ค่ะ อยากเป็นความสุขของแฟนๆค่ะ
Q : เป้าหมายการทำงานในอนาคต หรือ สิ่งที่อยากลองทำในปีนี้
พู่กัน : จริงๆมี 2 อย่างค่ะ อย่างแรกเลย อยากทำเพลงสากลออกมา หรือว่าช่วยกันเขียนในแต่ละเพลงที่เป็นเพลงสากล เพราะว่าคิดเนื้อเพลงภาษาไทยไม่ค่อยออกค่ะ แล้วอีกอย่างก็แบบว่ามีเพลงที่เป็น fusion ระหว่างเพลงสากลหรือเพลง pop กับเครื่องดนตรีไทยอะไรอย่างนี้อะค่ะ มันก็จะแปลกใหม่ดี แล้วก็คิดว่ามันน่าจะเป็นประสบการณ์ที่สนุกแล้วก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองค่ะ แล้วก็มีหลายคนมากๆที่อยาก collabs ด้วย ก็ชอบมิลลิค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าเราน่าจะจูนเข้ากันได้มั้ง เพราะว่าเขาก็มีความสายฝอด้วย แล้วก็เป็นแนวแบบว่าร็อก เพลงหนักๆ แล้วเขาก็ rap เดือดมาก
Q : สปอยผลงานในอนาคตหน่อย
พู่กัน : เพลง ทนไปเพื่อ ก็จะมี version ภาษาอังกฤษออกมาค่ะ เพราะว่าหลายๆคนมา comment ใน YouTube หรือว่าหลายๆคนที่เป็นแฟนๆของพี่บาร์โค้ด ของพู่กันเอง แล้วก็พี่คลอดีนนะคะ ก็จะมีต่างชาติเยอะพอสมควร ก็เลยอยากทำ version ภาษาอังกฤษออกมา เขาจะได้เข้าใจค่ะ ส่วนผลงานต่อๆไปก็อาจจะมีแนวเพลงที่ไม่ได้เกี่ยวกับความรักแล้วกัน เพราะว่าเราคิดว่าอยากมีเพลงที่มันสื่อสารตัวตนของตัวเองมากขึ้นค่ะ แต่ว่าผลงานต่อๆไปหลังจากนั้นก็ต้องรอดูแล้วกัน ก็อาจจะเร็วๆนี้ แต่ก็ยังไม่รู้ (หัวเราะ) ต้องรอติดตามค่ะ
Q : ฝากเพลง “ทนไปเพื่อ”
พู่กัน : ฝากเพลง ทนไปเพื่อ หรือ so this is goodbye นะคะ ผ่านทางสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มทุกๆแพลตฟอร์มเลยค่ะ หรือว่าถ้าใครอยากดู MV นะคะ ว่าพี่บาร์โค้ดกับพี่คลอดีน เขาจะแสดงออกมาได้อินขนาดไหนก็ดูได้ผ่านช่อง YouTube Pookan Official ค่ะ แล้วก็ถ้าใครอยากติดตามผลงานนะคะ ก็ติดตามได้ผ่านทาง Facebook, TikTok แล้วก็ Instagram นะคะ ชื่อ pookan_ktpy ค่ะ