KAZZMAGAZINE
สำรวจ DNA ผู้นำ “เฌอปราง อารีย์กุล” กัปตันแห่ง BNK48
สมัยเรียนเป็นหัวหน้าห้องไหม ?
เอาง่ายๆ เป็นตั้งแต่ประถมค่ะ (ยิ้ม) จริงๆ เฌอไม่ได้มีความเป็นผู้นำ เฌอแค่ชอบการประสานงานมากกว่า เฌออยู่ในตำแหน่งที่เป็นคนประสานงานให้ได้ค่อนข้างจะ… มีการแมเนจ การจัดการค่อนข้างจะไว ไวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวนิดนึง เป็นคนสังเกต แล้วก็พูดรู้เรื่องกับผู้ใหญ่และกับเด็ก อะไรอย่างนี้มั้งคะ ถ้าจะพูดอย่างนั้น (หัวเราะ) เป็นคนที่โตแล้วในระดับนึง
แต่เฌอก็ผ่านการเป็นผู้นำที่ไม่ดีมาก่อน เจอมาเยอะ ถ้าเอาจริงๆ ก็คือ อยู่กับเพื่อนก็โดนเพื่อนด่ามาพอสมควร เพราะว่าเมื่อก่อนก็ไม่ได้เป็นคนที่ปล่อยวางขนาดนั้น เขาเรียกติด Perfectionist ด้วยซ้ำ เพื่อนๆ ก็จะแบบ ‘แกเยอะไปปะ ไม่ไหวแล้วนะ แกไม่ได้มีอำนาจเหนือเรา แต่เราเป็นคนทำงานด้วยกัน’ (ยิ้ม) แต่ว่าก็เหมือนประสบการณ์ เป็นการปรับตัวมาเยอะพอสมควรค่ะ พอมามหา’ลัยก็เป็นตัวกลาง ก็ไม่ถึงกับขั้นหัวหน้า แต่ว่าเราก็เป็นคนประสานงานกับทั้งรุ่น ช่วงแบ่งเบาหัวหน้าอีกที ทุกคนก็คุยกับเฌอ ทุกคนก็มีไลน์เฌอ (หัวเราะ)
เรียกว่าเฌอปรางนี่แหละ คือสมาชิกที่ถูกจับตามองมากที่สุด
ทุกคนคะ มันไม่ได้มีเฌอคนเดียว เอาจริงๆ ก็คือกดดัน เหมือนตัวเองเป็นภาพจำของวงไปแล้ว ว่า BNK จขะกลายเป็นรอบด้าน เก่ง เรียนเก่ง ทุกอย่างเก่งไปหมด โอ้โฮ ต้องเพอร์เฟกต์ ต้องอยู่ในกรอบ เฌอก็เกร็งนะคะเรื่องการโดนจับตามอง บางทีเราก็ยังไม่เข้าใจบ้างว่าต้องวางตัวยังไง แต่ว่าก็ค่อยๆ ปรับตัว เพราะเราก็ยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนคอยดูแลเราอยู่ด้วย เราปรับเอาคำสอนของพี่ๆ ศิลปินทุกคน พี่เอ๊ะ เป็นคนท่าเห็นพวกเรามาตั้งแต่แรกๆ ตั้งแต่พวกเราไม่มีอะไรเลย เขายังเชื่อมั่นในพวกเรา เออมันก็มีคนที่คอยดูพวกเราอยู่ เราไม่ได้โดดเดี่ยวและเผชิญกับมันลำพัง
เวลาออนสเตจแล้วมีศิลปินรุ่นพี่มานั่งดู VS โชว์ให้โอตะดู
ต่างนะ ศิลปินเกร็งกว่าค่ะ แน่นอนค่ะ เราเป็นอะไรก็ไม่รู้ เป็นวุ้นน้อยๆ อยู่ มาโชว์ต่อหน้าศิลปิน แต่อย่างที่ออกไปเราก็ได้พัฒนาตัวเอง พยายามพัฒนาการร้องการเต้น ในฐานะวง ในภาพรวมให้ถึงมาตรฐาน ให้เป็นที่ยอมรับ เวลาแสดงต่อหน้าศิลปินก็ (หัวเราะ) ใส่เต็ม ไป! เวลาอยู่กับแฟนๆ ก็จะรู้สึกว่าเรามาสนุก เรามาเฮฮากับเขาจริงๆ เขาช่วยเชียร์ เป็นพลังให้เรามากๆ
เริ่มมีรางวัลเป็นของตัวเองแล้ว ล่าสุดก็ Rising Star of The Year จาก Kazz Awards 2018
พวกเราเป็นใคร พวกเราโนเนมเข้ามา พวกเราแค่มีแบรนด์ที่ส่งเสริมเราทำได้อย่างทุกวันนี้อะ พอเราติดชื่อ BNK48 ที่มีแพลตฟอร์มไว้ให้ทุกอย่างแล้ว มันส่งผลให้เราได้มาถึงขนาดนี้อะ บวกด้วยความพยายามของพวกเราด้วยนะ เมมเบอร์ทุกคนพยายามมากจริงๆ ผลิตผลงาน ทำออกมาคือ ซ้อมเต้นซ้อมร้องกันมาก็เป็นปีๆ เหมือนกัน แล้วอยู่ๆ เพลงไม่กี่เพลง เราก็ได้รับเกียรติขนาดนี้อะ ตื้นตันมาก แล้วก็ช็อก ช็อกรายชื่อผู้เข้าชิง (หัวเราะ)
พยายามกันมาเยอะ ได้รางวัลแล้วหายเหนื่อยไหม
หายเหนื่อยบ้าง แต่ในความรู้สึกตรงนั้นคือเราต้องทำให้ยิ่งกว่านี้ เพราะว่าเป็นวุ้น เรายังได้ขนาดนี้ แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองขนาดนั้น เฌอว่าหลังจากนี้เราต้อง Keep ระดับให้มันมีโอกาสที่ต้องได้อีกให้ได้
คุ้มค่าหรือยัง การต้องเสียอะไรหลายๆ อย่างไปเพื่อมาเป็น BNK48
คุ้มไหมมันคุ้มแหละ จุดนึงเมื่อก่อน ก่อนที่จะเจอแฟนๆ มีจุดนึงที่เฌอก็ไม่รู้จะทำไปทำไม มันก็ไม่ใช่ความ… มันไม่จุดสูงสุดในชีวิตที่เฌอต้องการอะไรขนาดนั้น ถ้าพูดจริงๆ แล้ว แต่เฌอแค่แบบ มันเข้ามา เฌอทำ เฌอสนุก เฌอเต็มที่กับมัน ไม่ทิ้งโอกาสอะไรก็ตามในชีวิต
อยากอยู่ตรงนี้ไปนานแค่ไหน
ถ้ามีโอกาสยื่นมาให้เฌอ เฌอก็อยากที่จะทำค่ะ เฌอเป็นพวกลุยเต็มที่ ถ้าเขามองเห็นโอกาสว่าเฌอทำได้ แล้วมอบโอกาสให้เฌอทำ เฌอทำเต็มที่…
เราจะได้เห็นอะไรจากเฌอปรางในอนาคตอันใกล้นี้
มิถุนาฯ นี้ได้ไปอังกฤษด้วย ได้มีโอกาสได้ไปทำนู่นทำนี่ ค่อนข้างตกใจ ว่าได้ไปได้ไง (หัวเราะ) แต่ด้วยความที่มองเห็น Potential ว่าเฌอทำได้ ให้เฌอทำ เขามอบให้ เฌอก็ไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ก็อยากจะสนองความไว้วางใจที่มอบให้เฌอ เฌอก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ เฌอเป็นพวกทำอย่างเดียวไม่ได้ ตอนเรียนอยู่ถ้าไม่เรียนกับคอสเพลย์ ก็ไปเรียนกับทำงานวิจัย ตอนนี้ก็เรียนกับทำงาน BNK เพราะฉะนั้นถ้าเกิดทำ BNK อย่างเดียว เฌอก็จะตงิดๆ บางอย่างละ ต้องบาลานซ์สองอย่าง เป็นพวกขี้เบื่อ เฌอขี้เบื่อ ต้องปรับตัวเองไปเรื่อยๆ นิดนึง
เฌอปรางคือคนที่กล้าก้าวออกมาจากเซฟโซน อยากฝากอะไรถึงคนที่ยังไม่กล้า…
ถึงคนที่ยังไม่อยากออกไปลุย รู้สึกยังไม่พร้อม โอกาสมันมาครั้งเดียวนะคะทุกคน เวลาวินาทีนี้ มันผ่านไปแล้ว ผ่านไปเลย เฌอไม่อยากมาเสียใจทีหลัง ก่อนที่จะอายุมากกว่านี้ไปแล้ว ‘ทำไมตอนนั้นฉันไม่ทำอย่างนี้ว้า ทำไมตอนนั้นฉันไม่ตัดสินใจทำมันลงไป’ คือบางอย่างมันเหนื่อย แต่มันก็จะแลกมาด้วยประสบการณ์บางอย่าง ที่เราก็จะจดจำมันไปตลอดชีวิต เป็นอะไรที่เราก็จะไม่ลืมไปเลย เป็นความรู้สึก ความรู้สึกมันจะเกิดขึ้นได้ถ้าเราเผชิญกับมัน ไปเจอกับมัน เราก็จะรู้สึก Bright ขึ้น เราจะมีความสุข เราจะเหนื่อย เราจะอะไร มันก็เป็นความรู้สึกที่เกิดจากการลงมือทำ ถ้าคุณอยู่เฉยๆ คุณก็จะเจอความน่าเบื่อ (ยิ้ม) เป็นคนขี้เบื่อไง ไม่อยากเจอความน่าเบื่อ อยากให้คิด พูดได้ แต่ก็หาโอกาสด้วยที่จะลงมือทำ ไม่ว่าอะไรบ้างที่จะมีผลมากน้อยกับเรา กับทุก ๆคน แต่ว่า มันก็เป็นแค่ปัจจัย สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าเราจะทำจริงๆ หรือเปล่าค่ะ