โคจรมาพบกันครั้งแรกของ “กัน ณภัทร” ประกบ “โบ๊ท ธารา” สองนักแสดงหน้าใสมากฝีมือในมินิซีรีส์ “Golden Blood รักมันมหาศาล” ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “สกาย” ที่ต้องมาใช้ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ในกรุงเทพฯ พร้อมกับบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อหน้านิ่งอย่าง “ซัน” ที่ “ภูผา” มาเฟียสายขาวผู้เป็นพ่อส่งมาประกบเพื่อรักษาความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากคู่อริตลอดกาลอย่าง “สักขี”
งานนี้มีทั้งดราม่าหนักหน่วงถึงขั้นปาดน้ำตา บทบู๊ดุเดือด และแง่มุมความรักลึกซึ้งของ“สกาย” กับ “ซัน” ที่หนุ่มกันกับโบ๊ทบอกว่าเป็นสองตัวละครที่แฟน ๆ ดูแล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน!
กัน : ผมพูดได้เลยว่า “สกาย” นี่น่ารักมากจริง ๆ ครับผม เป็นเด็กดื้อแต่ว่าไม่ได้ดื้อแบบที่คนดูจะรำคาญเขาว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงเอาแต่ใจขนาดนี้ แต่ในความดื้อของเขานี่มันมีเหตุผลที่น่ารักแล้วเวลาที่เขาแสดงออกบางอย่างผมเห็นความน่ารักในตัวเขา แต่พูดเองไม่ได้หรอกเพราะว่าผมเป็นคนเล่น แต่ผมคิดว่าเขาน่ารักจริง ๆ ครับผมเลยเลือกรับบทนี้
โบ๊ท : ส่วนตัวละคร “ซัน” ผมว่าเขาน่ารักตรงที่เขาเป็นคนที่จริงใจมากครับ จริงจัง เป็นคนที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ด้วยความคิดเขาด้วยสิ่งที่เขาทำ Mildest จุดมุ่งหมายของเขามันชัดเจนมาก แล้วก็มีแค่ไม่กี่อย่าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำจะค่อนข้างตรง ๆ ชัด ๆ แล้วคนดูก็จะเห็นเลยว่านี่คนหรือหุ่นยนต์ แต่ว่าด้วยการที่มาเจอกับสกายมันก็ค่อย ๆ ทำให้ตัวของซันค่อนข้างที่จะมีความเป็นมนุษย์มนากับชาวบ้านเขามากขึ้น มันก็จะมีความน่ารักในอีกแบบหนึ่ง
ในเรื่องก็มีบทดราม่าด้วยใช่ไหมคะ
โบ๊ท : ก็มีดราม่าหนักหน่วงพอสมควรครับ แล้วด้วยความที่มันมีแอ็คชันเข้ามา มันก็จะแสดงถึงความลำบากฝ่าฟันไปด้วยกัน ที่บอกไปก่อนหน้านี้ที่เป็นรสชาติใหม่ที่เป็น ดราม่า โรแมนติก แอ็คชันครับผม ก็คือด้วยความที่เป็นบอร์ดี้การ์ดต้องคอยปกป้องเขามันก็ต้องมีการปะทะกันเรื่อย ๆ อยู่แล้ว แล้วเราก็ไม่ได้บู๊กันเล่น ๆ อยู่แล้ว เราบู๊กันแบบจริงจังมาก ๆ ก็เลยบอกว่ามันเป็นรสชาติใหม่ กลมกล่อม ทำออกมาสนุก
กัน : วันที่เข้าไปถ่ายฉากยาก ๆ เราไม่เคยเห็นว่าซีรีส์วายทำขนาดนี้มาก่อน ถึงขั้นขั้นสลิงบู๊ แล้วก็ถ่ายโกดัง ยิงปืน ซึ่งมันว้าวมากครับสำหรับผม
ในเรื่องโบ๊ทรับบทเป็นบอดี้การ์ด แล้วในชีวิตจริงถ้าเลือกได้อยากเป็นบอดี้การ์ดให้ใคร?
โบ๊ท : เขาก็อยากเป็นบอดี้การ์ดปกป้องพ่อแม่ครับ แต่ถ้าเป็นคนดังถ้าเลือกได้ผมอยากเป็นบอดี้การ์ดให้พี่ใบเฟิร์น พิมชนก ครับ ด้วยความที่เราติดตามเขามาตั้งแต่หนังเรื่อง “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” ถ้าได้เป็นบอร์ดี้การ์ดก็จะได้ใกล้ชิดกับพี่เขาด้วยครับ
กัน : คุณหวังอย่างอื่น ไม่ได้หวังปกป้อง (หัวเราะ)
โบ๊ท : หวังปกป้องสิ แต่เป็นการปกป้องที่ได้อยู่ใกล้ ๆ แบบไม่หวังอะไร แค่ได้ซับพอร์ทพี่เขาก็ดีใจแล้ว เป็นติ่งแหละ (หัวเราะ)
แล้วกันละคะ ถ้าเลือกได้ในชีวิตจริงอยากให้ใครมาเป็นบอดี้การ์ดในชีวิตจริง?
กัน : คือถ้าตอบว่าเอาผู้หญิงมาเป็นบอดี้การ์ดก็ไม่เหมาะอีก เพราะจริง ๆ เราควรปกป้องเขาเนอะ เราแข็งแรงกว่า ถ้าตอบผู้ชายชีวิตผมเอาจริง ๆ ที่ไม่ใช่สกายมันน่าจะมีบอร์ดี้การ์ดมาปกป้องขนาดนั้นเลยเหรอ แต่จริงก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเป็นบอร์ดี้การ์ดหรอกครับ อยากได้เป็นพวกบัตเลอร์เวลาไปชอปปิ้งก็มีคนถือให้
ในซีรีส์ “Golden Blood รักมันมหาศาล” เป็นเรื่องของคนที่อยากแหกกฏอย่าง “สกาย” และคนที่ต้องรักษากฏอย่างเคร่งครัดอย่าง “ซัน” มาเจอกัน โดยส่วนตัวแล้วทั้งสองคนมี “กฎที่ตัวเองต้องรักษา” กับ “กฎที่ตัวเองอยากแหก” บ้างไหม?
กัน : จริง ๆ การบ้านที่ผมต้องทำกับคาแรกเตอร์สกายบ่อยมากก็คือทำไมเขาถึงดื้อแล้วทำไมเขาถึงแสดงออกได้แบบไปสุดทางขนาดนั้น คือจริง ๆ แล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างอยู่ในกฏนิดหนึ่งนะ เพราะว่าตั้งแต่เด็กพ่อแม่อยากให้ทำอะไร อยากให้เรียนแบบไหนก็จะค่อนข้างอยู่ในกฎไม่ค่อยได้หนีออกไปไหน แต่ตัวสกายจะดื้อมากเพราะฉะนั้นถามว่ากฎที่รักษาอยู่ตลอดแล้วทุกวันนี้ก็ยังรักษากฎที่ให้กับพ่อแม่อยู่ครับ
โบ๊ท : เป็นเด็กดีจังเลย (มีแซว)
กัน : อันนี้จริง ๆ แฟนคลับเห็นอาจจะคิดว่าเป็นคนที่ขี้เล่น ดื้อ แต่ว่าจริง ๆ แล้วค่อนข้างที่จะเป็นคนเข้มงวดกับบทบาทที่ได้รับในแต่ละงานแต่ละวัน ส่วนกฎที่อยากแหกก็คือเรื่องรองเท้าของตัวเองนิดหนึ่งครับ คือทุกวันนี้แฟนคลับมองหรือพ่อแม่มองก็จะบอกว่ามันเยอะมากพอแล้ว แต่จริง ๆ แล้วผมอยากให้มันเยอะกว่านี้ไปอีก คือตอนนี้ผนังของห้องผมส่วนหนุ่งฝั่งที่ใหญ่ที่สุดมันเป็นรองเท้าไปหมดแล้ว ก็แค่อยากจะมีอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นรองเท้าด้วยเหมือนกัน แต่พ่อแม่ไม่ค่อยอนุญาตแล้วตอนหลัง ๆ ก็แอบซื้อเอา (มีกี่คู่แล้วตอนนี้) โห้! ไม่ได้นับเลยครับน่าจะมีเกินสองร้อยคู่ครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรองเท้าแฟชั่นครับ แล้วแต่ช่วงว่าจะมีอะไรออกมา เราติดตามข่าวด้วยไงอันไหนซื้อได้เราก็ซื้ออันไหนซื้อไม่ได้เราก็ซื้ออยู่ดี
โบ๊ท : เมื่อก่อนผมเป็นนักกีฬา เวลาต่าง ๆ ค่อนข้างฟิกซ์มากแล้วพอเราหลุดออกมาจากตรงนั้นเราก็เป็นอีกคนหนึ่งเลย ชีวิตเหมือนมีสองพาร์ทคืออยู่ในตารางจ๋า ๆ กับตอนนี้ก็เหมือนกับหลุดไปเลย ช่วงนี้ก็เลยอยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในตาราง ตบ ๆ ตัวเองเข้าไปอยู่ในร่องในรอยบ้างเพราะช่วงนี้ก็แบบชิลล์มาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองชิลล์เกินไปครับให้กลับมารักษากฎบ้าง แต่เชื่อไหมผมแทบจะไม่รักษากฎเลยดีกว่าที่ตัวเองเคนตั้ง ๆ ไว้ วินัยก็จะพังหมด
ข้อคิดดี ๆ ในแง่มุมของความรัก
กัน : ทุกครั้งที่ผมรับเล่นซีรีส์วาย ผมชอบเหตุผลของการที่ตัวละครหนึ่งที่เขาเป็นผู้ชายทั้งสองคน เหตุผลที่ทำให้เขามารักกัน มันต้องสตรอง มันต้องมีเหตุผล แล้วเรื่องนี้ผมพูดเลยว่ามันพิเศษมาก ๆ หลาย ๆ คนที่ดูซีรีส์วายบางเรื่องเขาอาจจะมารักกันเลยตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ EP.1 หรือว่าเขาค่อย ๆ มีจุดที่ทำให้มารักกันมีอะไรหวานซึ้งกัน แต่ผมรู้สึกว่าสำหรับ “Golden Blood รักมันมหาศาล” มันเป็นอะไรที่เขาต้องฝ่าฟัน เรื่องราวของเขามันไม่ใช่คลิกเดียวแล้วมันใช่ มันต้องค่อย ๆ ผ่าน แล้วแต่ละเหตุการณ์ที่เขาเจอมันหนักหนามากจริง ๆ ถ้าเราเป็นคนธรรมดาแล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้นะ จนการตัดสินใจของเขาที่ทำให้คนสองคนมารักกันแล้วเลือกที่จะรอ เลือกที่จะมั่นคงด้วยกันสำหรับเรื่องนี้ผมพูดได้เลยว่ามันเป็นเรื่องราวที่พิเศษมาก ๆ ครับ ก็เป็นข้อคิดที่ทำให้คนดูว่าความรักของคนมันไม่ได้มีขอบเขตอะไรขนาดนั้นครับ
โบ๊ท : ถ้าเป็นของ “Golden Blood รักมันมหาศาล” ผมว่าในเรื่องของความรักมันเป็นความรักของซันที่มีให้กับสกาย หรือว่าของสกายที่มีให้กับซัน แต่อิงของซันเป็นหลักก็ได้ เพราะว่าตัวละครของเขาค่อนข้างที่จะบริสุทธิ์ครับ ความคิดต่าง ๆ การผ่านโลกที่ไม่เคยมีความรักมาก่อนเลย นี่คือครั้งแรก มันทำให้เห็นว่าความรักจริง ๆ คนเรามันไม่ได้ต้องการอะไรเยอะ ไม่ได้ต้องการสิ่งปรุงแต่ง ไม่ได้ต้องการข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นทางเพศ ทางฐานะ ทางสังคมไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้น สุดท้ายแล้วมันก็คือความรู้สึกของคนสองคนที่มีให้กันและกัน แล้วถ้ามันรู้สึกดีต่อกันมันก็คือจบ
ถ้าไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ผู้ชมจะพลาดอะไรไปบ้าง
กัน : มิติใหม่ของซีรีส์วาย กันพูดในมุมมองที่คนที่ดูซีรีส์ของเราส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นคนที่ดูซีรีส์วายมาก่อน เรื่องนี้โดยส่วนตัวที่กันรับก็เพราะว่าเนื้อเรื่องมันน่าสนใจมาก ๆ ส่วนหนึ่งก่อน ไม่ใช่เพราะโปรดักชั่นของช่อง 3 แต่ว่าเนื้อเรื่องและเส้นเรื่องของมันของมันมีความน่าสนใจมาก ๆ เหมือนกับการเปิดมิติใหม่ คุณจะได้เห็นมุมมองหลาย ๆ มุมมองของซีรีส์วายที่มันเปลี่ยนไป กันอยากให้คนมาดูมากจริง ๆ คนอาจจะเบื่อบ้างนิดหน่อยกับเส้นเรื่องในปัจจุบัน แต่อันนี้มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก อย่างตัวกันเองยังสนใจเลยตั้งแต่ได้อ่านบทมา อยากให้ลองดูครับ 8 ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผู้ชมจะมีความสุขแล้วก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการดูซีรีส์วายครับผม
โบ๊ท : เหมือนกันเลยครับ พอมันเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับซีรีส์วายปุ๊บ ผมว่ามันก็ใหม่สำหรับทุก ๆ แบบเลยไม่ว่าจะเป็นละครผมว่ามันเป็นรสชาติใหม่สำหรับคนที่ดูซีรีส์วายอยู่แล้ว ผมขอฝากสำหรับคนที่ยังไม่เคยดูซีรีส์วายด้วยมันจะเป็นรสชาติหนึ่งที่กลมกล่อมและน่าสนใจมากจริง ๆ ในฐานะที่ดูมาแล้วก็เล่นมาพอสมควร เรื่องนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ อยากให้ทุกคนมาดูกันสำหรับ “Golden Blood รักมันมหาศาล” รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แล้วก็ด้วยความที่เป็นมินิซีรีส์ 8 ตอน ก็จะค่อนข้างสั้นนิดหนึ่งเพราะฉะนั้นความเข้มข้นต่าง ๆ มันจัดเต็มแน่นอน เรียกได้ว่าห้ามพลาดสักตอนเดียว
ในช่วงครึ่งปีแรกชีวิตของทั้งสองคนเป็นยังไงบ้างรีวิวให้ฟังหน่อย
โบ๊ท : ผมก็มีโอกาสได้ทำงานคุณภาพดี ๆ ได้ทำงานใหม่ ๆ ก็คือซีรีส์เรื่อง “Golden Blood รักมันมหาศาล” ในพาทชีวิตส่วนตัวของตัวเองก็ได้โตขึ้นอีกระดับหนึ่งครับ ได้ใช้ชีวิตพอเราได้ลองออกจากบท ได้ทำตามใจตัวเองได้มาค้นหาอะไรหลาย ๆ อย่าง อะไรที่มันไม่เคยลองหรือว่าเคยไม่ชอบมันก็เปลี่ยนไป พอเราโตขึ้นทุกอย่างมันเปลี่ยนไปในเรื่องของมุมมอง หนังเรื่องเก่าที่เราเคยดูไปแล้ว พอเรามาดูเรื่องนี้มันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ทุกอย่างมันเหมือนได้ใช้ชีวิตรอบสองที่มันไม่เหมือนเดิม รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น
กัน : เพราะว่าตอนนั้นดูหนังในโรงครับ ตอนนี้ดูหนังที่บ้าน (แซวเก่งงงง!) สำหรับกันก็เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่มีค่ามากเลยก็คือกันเรียนจบ แล้วพอเรียนจบมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง เราโตขึ้นแล้ว ยิ่งกันจบในรุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นโควิดรุ่นหนึ่ง ไม่รู้ว่าตัวเองจบตอนไหน ไม่รู้ว่าวันสุดท้ายที่ไปคณะคือเมื่อไหร่ แล้วไม่รู้ว่าวันไหนที่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วนะ จริง ๆ ก่อนหน้านี้เราก็ทำงานพร้อม ๆ กับเรียนไปด้วย แล้วพอวันหนึ่งที่เราไม่มีเรื่องการเรียนเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว มันก็จะเป็นสิ่งที่เราได้ศึกษาได้เรียนรู้มา เอามาใช้กับชีวิตประจำวัน แล้วอีกเรื่องหนึ่งในเรื่องของความรับผิดชอบซึ่งตอนนี้หน้าที่ของเราก็ชัดเจนแล้วว่าเราเลือกมาเส้นทางนี้แล้ว ต้องทำให้พ่อแม่ไว้ใจว่าเราจะเอาจริงเอาจังกับด้านนี้จริง ๆ แล้วทุกวันก็ต้องมาโฟกัสกับงานที่ทำมากขึ้น ผมเป็นคนที่ทำตามที่พ่อแม่พูดอยู่แล้ว เราก็ต้องมีกฎของเราในการทำให้การทำงานในแต่ละวันของเรามันดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ แล้วยิ่งพอมาได้รับโปรเจกต์แรกของครึ่งปีนี้ก็คือ “Golden Blood รักมันมหาศาล” ก็ตั้งใจที่จะคว้าแล้วก็ทำมันออกมาให้ดีที่สุดครับ
ของขวัญชิ้นพิเศษที่ตั้งใจอยากมอบให้ตัวเองและครอบครัวบ
กัน : จริง ๆ กันให้ไปแล้วครับที่กันรับปริญญา เพราะเป็นหนทางที่ทั้งผมและพ่อแม่เห็นตรงกันว่าอยากจะมาทางนี้ แล้วเราก็ทำให้เขาเห็น แล้ววันนั้นผมมีความสุขมาก ๆ แล้วก็มั่นใจว่าเขาก็มีความสุขมาก ๆ เช่นกัน เพราะนี่คือสิ่งที่เขาหวังกับเรามาตั้งแต่ต้น เราก็ทำให้เขาได้แล้วเราก็ทำให้ตัวเราเองได้เช่นกัน
โบ๊ท : ของผมนึกไม่ค่อยออกเพราะว่าจริง ๆ แล้ว ด้วยความที่กับคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว ค่อนข้างที่จะเลี้ยงกันมาแบบสนิท สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง มีอะไรก็จะแชร์กันตลอด คือสิ่งที่พิเศษมันเกิดขึ้นในทุก ๆ วันอยู่แล้ว พอมานึกว่าอยากให้อะไรมันก็เลยยาก ทุกวันนี้ก็จะพยายามตั้งใจทำสิ่งที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ให้ดี ให้มันมั่นคงให้มันโอเคเรื่อย ๆ ครับ
อยากจะบอกอะไรตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า
โบ๊ท : นายต้องขอบคุณเรานะที่ใช้ชีวิตชิลล์ขนาดนี้ เพราะถึงตอนนั้นก็น่าจะเป็นแบบอะไรที่ผมคิดว่าตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปมันก็ไม่ค่อยดี ของผมมันจะหนักไปทางชิลล์ ๆ มากกว่า ทำอะไรที่เราชอบ เราโอเคกับตรงนี้แล้วพอเจอตัวเราเองในอนาคตเราก็ขิงแล้วที่ทำให้นายในอีก 10 ปีข้างหน้าแฮปปี้และมีความสุขขนาดนี้
กัน : ก็อยากจะบอกตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้าตอนนั้นก็น่าจะอายุ 33 แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะใช้ชีวิตยังไง ยังอยากจะทำงานเส้นทางนี้อยู่ไหม จะมีคนรักเท่าไหร่ หรือว่าจะใช้ชีวิตยังไงแต่ว่า แต่ว่าจะให้ตัวเองถือคติมาตั้งแต่เด็กเหมือนที่นักปราชญ์ชาวอังกฤษบอกไว้ว่า What is it? This is a book. มันคืออะไร มันคือหนังสือเท่านั้นแหละครับ
ฝากผลงานกับแฟน ๆ ที่น่ารักทุกคน
โบ๊ท : ก็ขอฝาก “Golden Blood รักมันมหาศาล” ด้วยครับ ออนแอร์ทางช่อง 3 เวลา 23.00 น. แล้วก็มีอีกช่องทางหนึ่งสามารถรับชมได้ทาง WeTV ก็จะเป็นแบบอันคัทครับ
กัน : ซีรีส์เรื่องนี้ทั้งกัน พี่โบ๊ทแล้วก็ทีมงานทุกคนตั้งใจกับมันมาก ๆ จริง ๆ ต่อให้เป็นช่วงโควิดที่ถ่ายทำลำบาก แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าพวกเรารักษาสุขภาพกัน แล้วก็มีมาตรการที่เข้มงวดตลอดเพื่อให้มีผลงานที่ดีที่สุด ออกมาให้ทุกคนดูนะครับเพราะฉะนั้น ฝากติดตามซีรีส์ “Golden Blood รักมันมหาศาล” ด้วยครับ แล้วก็ฝากติดตามผลงานของพี่โบ๊ทกับของกันต่อจากนี้ด้วยขอบคุณมาก ๆ ครับ