วัยรุ่นจ๊ะลองเช็คดู…เป็นโรคนี้อยู่รึเปล่า! “โรคขาดมือถือไม่ได้” และ “โรคซึมเศร้า”

   วัยรุ่นจ๊ะลองเช็คดู…เป็นโรคนี้อยู่รึเปล่า!

“โรคขาดมือถือไม่ได้” และ “โรคซึมเศร้า”

ทุกวันนี้เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “Social Media” ได้เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน  ทั้งใช้เพื่ออัปสเตตัสส่วนตัว ศึกษาค้นคว้าข้อมูลความรู้ต่างๆ ไปจนกระทั่งถึงติดตามความเคลื่อนไหวของผู้คนในสังคม

แต่การใช้สื่อโซเชียลหรือสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ facebook Instagram และ Twitter มากจนเกินความพอดีหรือเล่นตลอดเวลาจนรู้สึกติดนั้น มีสาเหตุเกิดจากอะไรและจะส่งผลกระทบร้ายแรงกับเราอย่างไรบ้างนั้้นมาดูกัน…

อาการของคนที่ติดโซเชียลมีเดีย

  • ใช้โซเชียลมีเดียมากกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน
  • รู้สึกอยากจะตรวจสอบโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตหรือตลอดเวลา
  • รู้สึกกังวลกระวนกระวายใจเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย
  • เล่นมือถือตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนที่นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อน
  • แชร์หรืออัปสเตตัสบ่อยๆ วันละหลายครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจหรืออยากได้รับการยอมรับ
  • ใช้เวลาเล่นมือถือมากจนการเรียนหรือประสิทธิภาพในการทำงานลดต่ำลง
  • นอนดึกเพราะมัวแต่เสียเวลาหมดไปกับการสไลด์โทรศัพท์

ติดโซเชียลมากๆ ส่งผลทำให้เป็น “โรคซึมเศร้า และ “โรคขาดมือถือไม่ได้”

กลุ่มคนที่ติดโซเชียลแบบติดหนึบต้องการยอมรับจากโลกออนไลน์ เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองที่พอใจก็เกิดความทุกข์นั้นอาจเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” จากการเล่นเฟซบุ๊ค และ “โรคขาดมือถือไม่ได้” หรือ “โรคโมโนโฟเบีย” จัดอยู่ในกลุ่มโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง อาการที่พบก็อย่างเช่น ถ้าหากเราอยู่ในที่ปราศจากสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็รู้สึกหงุดหงิดกระวนกระวาย ซึ่งในบางคนที่มีอาการมากๆ อาจถึงขั้นมีอาการเครียดขึ้นมา นอกจากนี้การติดโซเชียลยังส่งผลต่อพฤติกรรมด้านลบในเชิงต่อต้านด้วย อาทิ ความต้องการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆ ในสังคม และมีอาการ ”เสพติด” กล่าวคือรู้สึกกังวลหรือไม่สบายใจเมื่อไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์

วิธีบำบัดให้หายจากอาการติดโซเชียลมีเดีย

  • กำหนดเวลาในการใช้งาน โดยเริ่มจากการจับเวลาพฤติกรรมการใช้งาน Social Media ในแต่ละวันก่อน ว่าใช้เวลาเท่าไร หลังจากนั้นค่อยตั้งเป้าหมายในการใช้เวลาแต่ละครั้งให้ลดลง ก่อนใช้งานลองชำเลืองเวลาที่ใช้จดลงกระดาษ
  • ให้คนรอบข้างเป็นคนช่วยประกาศบอกออกไปให้คนอื่นๆ ได้รู้ว่ากำลังจะลดการใช้งาน Social Media
  •  กำหนดบทลงโทษเอาไว้ หากละเลยหรือใช้งานเกินที่กำหนดจะได้ลงโทษตัวเอง
  • ปิดระบบเตือน หลายครั้งที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะมีระบบเตือน ดังนั้นการปิดระบบเตือน หรือตั้งเวลาเปิดปิดโทรศัพท์ จะช่วยลดการเข้าถึงอุปกรณ์พกพาได้ดีขึ้น
  • หากิจกรรมอย่างอื่นทำทดแทน เช่น ไปออกกำลังกาย ฝึกเล่นเครื่องดนตรี หรือหางานอดิเรกที่ชอบอย่างอื่นทำ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองใช้ Social Media มากเกินไป

ข้อมูลจาก : scalar.usc.edu, fastcompany.com

รูปจาก : unsplash.com

 

สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 149 ฉบับเดือน พฤศจิกายน

หรือดาวน์โหลด E-Book