พร้อมเขย่าวงการซีรีส์ไทยให้ฮือฮาด้วยการสร้างซีรีส์ในรูปแบบ O2O (ออนไลน์ ทู อ๊อฟไลน์) กับปรากฎการณ์ของซีรีส์กินได้ครั้งแรกของเมืองไทยในซีรีส์วาย “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ซีรีส์กินได้กับเรื่องราวความผูกพันระหว่าง “เอก” ไรเดอร์ส่งอาหารที่มีความฝันอยากเป็นเชฟ และ “เชฟเอื้อ” จากร้าน “อิ่มเอื้อ”…. ซีรีส์ที่พร้อมจะพาคนดูได้มีประสบการณ์ร่วมจริงกับการสั่งอาหารจากร้านอิ่มเอื้อมาชิมได้จริงหน้าจอในรูปแบบ คลาวด์ คิทเช่น (Cloud Kitchen) เรียกว่า อิ่มจริง ฟินจริง เป็นครั้งแรก ซึ่งถูกสร้างโดยบริษัท เดอะ ดรีม แอนด์ เดสทินี จำกัด (THE DND) บริษัทคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ (Content creator) ภายใต้การบริหารของ “นิธิวัฒน์ เจนเจษฎา” และ “สมสมร ด่วนดี” ที่พร้อมเสิร์ฟความฟินจากเมนูอาหารสูตรเฉพาะของร้านอิ่มเอื้อให้แฟนๆที่รอชมได้กดสั่งมากินและฟินพร้อมกันทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE31
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายของ SAMMON กำกับโดย “เดวิด บีแกนเดอร์” ภายใต้เรื่องราว เมื่อ “เอก” (มาร์ค-ศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่จังหวัดกรุงเทพ คณะบัญชี หาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน มีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก ส่วน “เชฟเอื้อ” (ซุง-กิดาการ ฉัตรแก้วมณี) เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร “อิ่มเอื้อ” ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจาก ‘พรสวรรค์’ โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของ ‘เอก’ เด็กส่งอาหาร เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับ หนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน … ความมหัศจรรย์ของ ‘อาหาร’ ชวนให้ ‘ท้อง’ หิว จึงเริ่มขึ้น …
สำหรับซีรีส์กินได้ “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” นำแสดงโดย “ซุง” กิดาการ ฉัตรแก้วมณี รับบท เชฟเอื้อ, “มาร์ค” ศิวัช จำลองกุล รับบท “เอก” พร้อมด้วย “แป๊ม” เสฏฐนันท์ มนุญปิจุ , “ตูน” อติรุจ แสงเทียน , “มีนา” ริณา ฉัตรอมรชัย, “ตี๋” วิวิศน์ บวรกีรติขจร , “ซานิ” นิภาภรณ์ ฐิติธนการ, “บอย” ตรัย ภูมิรัตน, “เปรม” ธนอรรณพ ป่าตุ้ม, “นุ่น” สุทธิภา คงแนวดี, “ปิง” สุรกิจ เข็มแก้ว , “ต๊งเหน่ง” รัดเกล้า อามาระดิษ และ คาร่า พลสิทธิ์ เป็นต้น
เป็นกำลังใจให้ความสัมพันธ์ระหว่าง “เอก” และ “เชฟเอื้อ” พร้อมฟินกับเมนูเด็ดจากร้าน “อิ่มเอื้อ” สั่งจริง ส่งจริง อิ่มจริง ฟินไปกับซีรีส์กินได้ “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ได้ผ่านเพจร้าน “อิ่มเอื้อ” และทางไลน์แมน ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE31 และทาง Viu ได้วันเดียวกันเวลา 23.15 น. พร้อมกับผู้ชมจากทั่วโลก 162 ประเทศ ผ่านทางสตรีมมิ่งแพลทฟอร์มต่างๆ … ติดตามความเคลื่อนไหวของซีรีส์กินได้ที่ FB ; Twitter ; IG ; Youtube ;Tiktok ; Weibo ของ THEDNDTH และสำหรับ ร้านอิ่มเอื้อ ได้ที่ FB ; IG imaue.eatery , Twitter : ImaueE
แนะนำตัว เรื่องนี้รับบทอะไร คาแรคเตอร์เป็นยังไง ?
มาร์ค : มาร์คนะครับ รับบทเป็นเอกครับ คาแรคเตอร์ก็เป็นเด็กหนุ่มภาคเหนือ อายุ 20 ต้น ๆ มาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ หาเงินเลี้ยงตัวเองโดยการขับรถส่งอาหาร จนได้มาร้านอิ่มเอื้อ มารับอาหารที่ร้านอิ่มเอื้อ เราก็ได้มาเจอกันครับ
ซุง : ซุงนะครับรับบทเป็นเชฟเอื้อครับ หล่อรวยสะพรึงครับ เป็นเจ้าของร้านอิ่มเอื้อครับ คาแรคเตอร์ของเชฟเอื้อเป็นเชฟที่เรียนมาโดยตรง เรียนจบมาทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟ ไต่เต้าขึ้นมาจนวันนึงเปิดร้าน ได้เป็นเชฟโดยตรง และเรื่องราวทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเค้าไม่อยากจะแข่งรายการทำอาหารเหมือนที่เราดูในทีวี พอเค้าไปแข่งซึ่งฝีมือเค้าหมายถึงความรู้ความสามารถที่เรียนมามันไม่พอ ก็เลยต้องมีตัวช่วย นั่นก็คือเอก
ยากง่ายยังไง ?
มาร์ค : สำหรับบทตัวเอกนั้นก็ถือว่ายากอยู่เหมือนกันครับ ซึ่งทุกบทบาทในเรื่องนี้ก็น่าจะยากเหมือนกันทั้งนั้นครับ เพราะต้องมาเริ่มเรียนทำกอาหาร การหั่น การผัด การจับมีด ทุกอย่างต้องเริ่มเรียนใหม่หมด
ซุง : สำหรับเอื้อผมถือว่ายากนะ ด้วยความที่เอื้อเป็นตัวละครที่เป็นผู้ชายค่อนข้างมีความเพอร์เฟคประมาณหนึ่ง ปุถุชนคนธรรมดาอย่างผมมาเล่นเป็นคนเพอร์เฟค ก็ต้องทำการบ้านเยอะ ถ้าเกิดว่าเล่นเพอร์เฟคเกินมันก็จะดูเก๊กไป ต้องเพอร์เฟคแบบธรรมชาติครับ
ชีวิตจริงทำอาหารกันไหม เมนูที่ชอบทำ ?
มาร์ค : ในชีวิตจริงสำหรับมาร์คเป็นคนที่ทำอาหารอยู่แล้ว ทำอาหารกินเอง เมนูที่ชอบทำเมนูที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือไข่เจียว ซื้อวัตถุดิบมาทำเอง แล้วก็มีเมนูอื่น ๆ บ้าง ไข่เจียวของผมนี่จะใส่หมูใส่ต้นหอม และเครื่องปรุงต่าง ๆ หลังจากที่พอเล่นเรื่องนี้แล้ว ก็ได้เทคนิคการทำอาหารมาอีกเยอะเลย อย่างไข่เจียวต้องใส่น้ำมันเยอะมาก ๆ ไข่ถึงจะฟู ไข่ต้องใส่มะนาวด้วยนิดนึง การเทไข่ลงกระทะก็ต้องเทสูงกว่าปกติ เชฟปิงเป็นคนสอนมากับมือ
ซุง : สำหรับซุงปกติไม่เคยเข้าครัวเลย ไม่ทำเลย พอมาเล่นซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ก็ยิ่งรู้ตัวมากไปอีกว่า ว่าไม่ทำดีกว่า สั่งกินเหมือนเดิมดีกว่า (หัวเราะ) แต่พวกเมนูไข่จงไข่เจียวก็ทำได้นะ เอาเทคนิคของเชฟปิงไปใช้เหมือนกันครับ
ถ้าให้เลือก ส่งอาหาร กับ ทำอาหาร เลือกอันไหน ?
มาร์ค : ถ้าให้เลือกทำอาหาร กับส่งอาหาร ขอเลือกทำอาหารครับ ได้กินฝีมือตัวเองด้วย ทำอาหารดีกว่า
ซุง : สำหรับผมเลือกส่งครับ เพราะว่าส่งบ่อย ค่อนข้างรู้จักเส้นทางด้วย
ถ้าให้นิยามตัวเอง เป็นอาหาร จะเป็นอะไร รสชาติยังไง ?
มาร์ค : ถ้าให้นิยามตัวเองเป็นอาหาร สำหรับผมขอเป็นเมนูที่ผมชอบ ขอเป็นไข่เจียวที่นุ่มฟู ดูแล้วนุ่มนวล รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนิ่ง ๆ ง่าย ๆ เป็นคนที่ไม่ได้จัดจ้าน ไม่ได้เผ็ดร้อน อาจจะมีเผ็ดร้อนบางอารมณ์ แต่ส่วนใหญ่จะนิ่ง ๆ มากกว่า
ซุง : สำหรับผมชอบแบบขม ๆ เช่นต้มมะระ ถ้าคนกินไม่เป็นจะไม่ชอบ ต้องกินเป็นถึงจะชอบอาหารประเภทนี้ ต้องมีรถสนิยมถึงจะชอบรสชาติความขมแบบนี้ อาจจะกินยากหน่อย แต่ถ้าชอบแล้วก็ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่เป็นยังไงบ้าง ?
ซุง : ร่วมงานกับรุ่นใหญ่ กับพี่คาร่าที่รับบทเป็นแม่ รวมไปถึงพี่ซานิที่เป็นพี่ในครัว มีพี่ตี๋ พี่เจสันเป็นพี่ชาย และอีกมากมาย เวลาที่เล่นกับนักแสดงรุ่นพี่เหมือนทุกอย่างในซีนมันเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ เกิดขึ้นโดยเราไม่ต้องทำอะไรเลย เหมือนเค้าพาลอยไป เหมือนเป็นแม่น้ำแล้วเรากระโดดลงไปในแม่น้ำแล้วเราไหลไปเอง มีความประทับใจหลายอย่าง บางอย่างก็เพราะด้วยการแสดงด้วยครับ มันทำให้เรารู้สึก มันเรียล มันธรรมชาติ
มาร์ค : สำหรับผมก็เล่นกับพี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้า เป็นครั้งแรก ตอนแรกรู้สึกมีความกดดัน เพราะว่าเราเห็นฝีมือพี่ต๊งเหน่งมาอยู่แล้ว ตัวเราก็เลยแอบเกร็ง ๆ ว่าจะทำได้ดีไหม พอได้มาเวิร์กช็อปจริง ๆ มาเล่นกันจริง ๆ พี่ต๊งเหน่งเป็นคนกันเองมาก ๆ เป็นคุณแม่ที่อบอุ่นมาก รู้สึกว่าชอบมาก และทุกคนก็คือเก่งกันจริง ๆ
ซุง : จริง ๆ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก ที่เราได้มาร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ได้เวิร์กช็อปทั้งการแสดง เวิร์กช็อปทั้งการทำอาหาร ถ้าย้อนกลับไปก่อนที่เราจะได้แสดง ตัวเราจะไม่รู้เลยถ้าไม่ได้มาเล่นตรงนี้ว่าเรามีสกิลด้านอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งการแสดงแล้วก็การทำอาหาร
ซีรีส์จะบอกอะไรกับคนดู ?
มาร์ค : ซีรีส์เรื่องนี้บอกอะไรกับคนดูได้หลายอย่างมาก ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องการทำอาหาร เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก มันเยอะมาก ๆ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย อาหารไทย คือเรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์ มันไม่ใช่แค่มีเรื่องความรักเท่านั้น แต่มีอีกหลายหลายมุม
ซุง : อย่างอาหารไทยก็เป็นอาหารขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของโลก วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เป็นของไทยจริง ๆ อาหารต่างประเทศบางทียังเอาไปฟิวชั่นเลย ซีรีส์เรื่องนี้จึงนำมาพรีเซนต์เรื่องการพัฒนาอาหารไทยให้มันมีคลาสมากขึ้น จับต้องได้มากขึ้น ขนมไทยบางชนิดผมยังไม่เคยกินมาก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำขนมไทยหลายหลายชนิดให้ผมได้ลองทาน ทั้งเมนูที่เรารู้จัก หรือเมนูที่เราไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่แล้ว เป็นของดีที่มีอยู่กับบ้านกับเมืองอยู่แล้ว พวกเราเอามาขยายให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
มาร์ค : อีกเรื่องหนึ่งคือตัวเอกเขาจะมีความพยายามให้ฝันของตัวเองที่จะเป็นเชฟระดับโลกให้เป็นจริง จะเดินทางตามความฝันของตัวเอง ทำทุกอย่างให้ได้ความฝันนั้นขึ้นมาครับ
ซุง : ชีวิตของแต่ละคนที่มีความสุขคล้ายกัน มีความชอบเหมือนกัน มันจะคุยกันรู้เรื่องพอดี เราทำคนเดียวอาจจะได้ประมาณหนึ่ง แต่พอเราทำหลายคน หรือทำเป็นทีม มันจะมีการแชร์กัน มันจะไปได้ไกลกว่าที่จะเป็น จึงเป็นประเด็นที่แบบว่าทำไมตัวละครสองตัวนี้ความสัมพันธ์ถึงพัฒนาได้ เพราะอาจจะมีความฝันเดียวกัน
ฝากซีรีส์ “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ซีรีส์กินได้กันด้วยนะครับ ทุกคืนวันอาทิตย์ ทางช่อง one 31 เวลา 22.15 น. และทาง Viu ได้ในวันเดียวกัน เวลา 23.15 น. พร้อมกับผู้ชมจากทั่วโลก 162 ประเทศ ผ่านทางสตรีมมิ่งแพลทฟอร์มต่างๆ