ถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ซีรีส์สุดปังที่ตีแผ่วงการซีรีส์วาย ที่กว่าจะกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง แน่นอนว่ามันมีครบทุกรส ทั้งการทรยศหักหลัง แก่งแย่งชิงดี ไปจนถึงเรื่องที่ว่าใครรันวงการกันแน่ แบบอย่างจัดเต็ม สำหรับวีรีส์เรื่อง “War Of Y” ที่ทางบริษัทโปรดักชั่น Copy A Bangkok ได้จัดทำขึ้น โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็น 4 เรื่องราว คู่จิ้นใหม่ , สงครามผู้จัดการ , วายไอดอล และ เมีย ซึ่งวันนี้ทาง KAZZ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์น้อง ๆ นักแสดงจากซีรีส์เรื่อง War Of Y ตอน Y Idol ตอนที่จะเสนอเรื่องราวของเรียลิตี้ค้นหานักแสดงหน้าใหม่ที่ต้องพร้อมทั้งร้อง เต้น เล่นละคร และเรื่องวุ่นๆ ในแคมป์ไอดอล ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปรับชมกัน ต้องบอกเลยว่าสนุก และมันส์สุด ๆ ไม่ดูไม่ได้แล้ว เห็นแบบนี้ทาง KAZZ ก็พลาดไม่ได้ เลยไม่รอช้าเก็บภาพ และแอบสัมภาษณ์ความรู้สึกของหนุ่มทั้ง 4 คน “มาร์คพูม-มิ้ล-วิน-วินเนอร์” แบบล้วงลึกจัดเต็มมาให้ทุกคนได้ชมกันแบบเล็กๆน้อยๆ เอาเป็นว่าห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ
1.) รับบทเป็นใคร / พูดถึงซีรีส์หน่อย
มิ้ล : ผมรับบทเป็น พีค ใน War Of Y ตอน Y idol ครับ
มาร์คพูม : ผมรับบทเป็น กล้า ครับ
วินเนอร์ : ผมรับบทเป็น เอิร์ธ ครับ
วิน : ผมรับบทเป็น กร ครับ
มาร์คพูม : สำหรับซีรีส์ War Of Y ตอน Y idol จะเป็นตอนที่เกี่ยวกับเซอร์ไวเวอร์เกมครับ เป็นรายการประกวดที่มีการแข่งขันตลอด 24 ชม. และในบ้านก็จะมีทั้งเรื่องราวที่เป็นมิตรภาพ การแข่งขัน หรือการชิงดีชิงเด่นกัน แต่ก็อาจจะมีการเกิดโมเมนต์อะไรที่มีความน่ารักความฟินอยู่ด้วยครับ รวมถึงทุกคนในเรื่องก็ล้วนมีเป้าหมาย คือ การเป็นผู้ชนะ ของรายการนี้ทุกคนครับ
- 2.) คาแรคเตอร์ที่ได้รับมีความเหมือน หรือ แตกต่างกับเราตรงไหนบ้าง
มิ้ล : ของมิ้ลที่รู้สึกว่าคาแรคเตอร์เหมือนกับตัวพีคในเรื่อง ก็คือ พีค เขาจะเป็นคนที่โดนแรงกดดันจากสิ่งรอบ ๆ ตัวเหมือนกัน พีคกับมิ้ลจะมีจุดที่คล้ายกันตรงที่เราจะไม่สามารถรับมือกับความกดดันได้ดีเท่าไหร่ครับ
มาร์คพูม : ตัวมาร์คพูม กับตัวละครกล้า ก็ค่อนข้างมีความคล้ายกันเยอะมาก ๆ ครับ อย่างเช่นนิสัย แบบกวน ขี้แกล้ง หรือความห้าว ๆ อะไรประมาณนี้ครับ ก็จะมีความคล้ายกันครับ รวมถึงชอบร้อง ชอบเต้นเหมือนกับตัวผมครับ
วินเนอร์ : โดยส่วนตัวแล้ว สิ่งที่วินเนอร์กับตัวละครเอิร์ธเหมือนกัน ก็คือเป็นคนที่ชิล ๆ สบาย ๆ และไม่คิดร้ายกับใคร รวมถึงมุ่งมั่น และตั้งใจครับ พอได้รับงานมา เราก็แค่ทำงานนั้นให้ดีที่สุดครับ ส่วนสิ่งที่ต่างคือ ในเรื่องนี้ เอิร์ธเป็นลูกครึ่งฝรั่ง ก็จะมีพูดไทยปนอังกฤษบ้าง แต่ชีวิตจริงผมพูดแค่ภาษาไทย หรือไม่ก็พูดอังกฤษกับเพื่อนไปเลย ไม่มาพูดไทยคำอังกฤษคำผสมแบบนี้ครับ
วิน : ผมวินรับบทเป็นกรครับ ซึ่งกรจะเป็นเด็กจากอุบล ที่เข้ามาตามหาความฝันในกรุงเทพฯ ซึ่งเขาเป็นพี่ใหญ่ของบ้าน คอยดูแลน้อง ๆ สร้างเสียงหัวเราะให้น้อง ๆ หรือคอยไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นกับน้อง ๆ ครับ ส่วนตัวผมก็จะมีความเหมือนกับตัวละครกร ตรงที่เป็นคนจริงจัง จริงใจ ครับ
3.) รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมเล่นเป็นส่วนหนึ่งในซีรีส์เรื่องนี้
มิ้ล : สำหรับผมนี่ก็คือซีรีส์เรื่องแรกของผมด้วย ก็รู้สึกดีใจมาก และรู้สึกมีความสุขกับโมเมนต์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน ก็มีความสุขมาก ๆ ครับ
มาร์คพูม : ผมก็อยากจะขอบคุณทางพี่ชีวิน และ Copy A มาก ๆ ที่ให้โอกาสผม ให้ได้เข้ามาเล่น และเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ รวมถึงความรู้สึกจริง ๆ คือ ตื่นเต้นมาก ๆ ครับ และถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของผม ที่ได้มีโอกาสมาทำงานในวงการบันเทิง และเรื่องนี้ก็ถือเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของผมด้วย มันก็จะมีความชาเลจนิดหน่อย ก็หวังว่าแฟน ๆ ที่ได้รับชมจะคอยซัพพอร์พวกเรา เพราะว่ากว่าที่จะถ่ายทำ เราก็ผ่านการเวิร์คช้อปกันมาเยอะมาก ๆ ร่วมปีเลยครับ พวกเราตั้งใจ และเต็มที่มาก ๆ ยังไงก็ฝากด้วยครับ
วินเนอร์ : สำหรับผมก็ต้องขอขอบคุณทาง Copy A พี่ชีวิน และทีมงานทุก ๆ คน ที่ได้มอบโอกาสที่กับผม และผมก็รู้สึกว่ามันเป็นความท้าทาย มาก ๆ เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่การแสดงอย่างเดียว ยังมีทั้งการร้อง การเต้น ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านนี้มาก่อนเลย และพอได้มาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ ตอนวายไอดอล ก็ทำให้ผมได้เรียนร้อง รวมถึงเต้น ทำให้ผมได้เจอบางสิ่งที่ชอบเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการแสดง แถมยังทำให้ได้ทักษะ และประสบการณ์ไปในตัวด้วยครับ
วิน : ผมก็อยากขอบคุณทาง Copy A และพี่ชีวิน เหมือนกันครับ เพราะนี่ก้เป็นซีรีส์เรื่องแรกของผม ก็ถือเป็นการก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงครั้งแรก และได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเต้น หรือ ร้องเพลง มันก็ทำให้เราได้สกิลติดตัวกลับไป เหมือนที่วินเนอร์ได้บอกไปครับ