“บัว นลินทิพย์” ปลื้ม “ร้อยเล่ห์มารยา” กระแสดี – อ้อนแฟนๆรอชม “พราวมุก”

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่แฟนๆ คอยติดตามผลงานอย่างเหนียวแน่นสำหรับสาวคิ้วท์ “บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ” ล่าสุดกับการพลิกคาแรกเตอร์รับบทเป็น “มินตรา” สาวแซ่บพร้อมลุยในละครเรื่อง “ร้อยเล่ห์มารยา” ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจากแฟนละครเป็นอย่างดี ได้มาจับเข่าคุยกันในครั้งนี้สาวบัวจะมีข่าวดีอะไรเกี่ยวกับผลงานใหม่มาฝากให้แฟนๆ ชาว KAZZ ได้ติดตามกันบ้าง…ไปฟังจากปากเจ้าตัวกันเลย

รับบท “มินตรา” พลิกคาแรกเตอร์ในละคร “ร้อยเล่ห์มารยา”

“เรื่องนี้จะต่างจากคาแรกเตอร์เรื่องอื่นๆ ที่บังเคยเล่น แต่จริงๆ ด้วยลุคข้างนอกก็ยังจะดูเป็นคุณหนู ดูเรียบร้อยอยู่ แต่จริงๆ คาแรกเตอร์จะเป็นแบบคนแมนๆ ลุยๆ หน่อย เป็นคนตรงๆ พูดจาโพงพาง ถ้ามีเรื่องฉันก็พร้อมสู้ ฉันไม่ได้ยอมคน ก็จะมีบทพูดที่ไม่ใช่ตัวเรา คือตัวเราก็เป็นคนเรียบร้อยนะในชีวิตจริง แต่ในเรื่องต้องไปด่าคน ต้องไปลุย ก็อาจจะมีว่าเอ…ฉันจะเล่นยังไงดีนะ ก็มีเขินๆ อยู่นิดหนึ่งเพราะบทพูดของมินต์ก็จะมีแรงๆ ด้วย คนก็ชอบนะคะ กระแสตอบรับโอเคเลย ก็บอกว่าแสบดี ไม่เคยเห็นบัวที่เป็นคาแรกเตอร์แบบนี้ ก็ถือว่ากระแสโอเคเลยค่ะ”

ความสนุกที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพ เบลล่า-ราณี พี่โป๊ป-ธนวรรธน์ และหลุยส์ สก็อต

“เรื่อง “ร้อยเล่ห์มารยา” นักแสดงดีมากทุกคน ต้องชมก่อนว่าเล่นง่ายมากๆ เทคเดียวผ่านก็มี ทุกคนทำการบ้านมาดี แล้วก็เก่งด้วย คืออย่างเบลกับพี่โป๊ปเขาเล่นด้วยกัน เขาก็มีความเข้าขากันที่ดูแล้วเฮ้ย…น่ารักจังเลย มีความเป็นธรรมชาติบางอย่างที่เรียกว่าเป็นเคมีที่เข้ากันได้ดีจริงๆ ส่วนพี่หลุยส์คือหนูชื่นชมพี่หลุยส์มาก หนูเจอพี่หลุยส์มาสามเรื่องแล้ว เขาเป็นคนที่น่ารัก คือด้วยนิสัยเขาเป็นคนที่เฟรนด์รี่แล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากๆ เล่นดีมากๆ อย่างเรื่องนี้หนูรอดูพี่หลุยส์เลย เพราะว่าเขามีการพลิกคาแรกเตอร์ เขาต้องถูกรถชนแล้วก็เล่นเป็นอัมพฤกษ์ด้วย อยากรู้ว่าพี่หลุยส์จะเล่นยังไงทุกวันที่ต้องเข้าซีนด้วยกัน อย่างซีนที่เขาจะถูกรถชนแล้วเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก รอดูเลยว่าเขาจะเล่นยังไง แล้วเขาเล่นออกมาได้ดีทีเดียว เล่นแล้วอิน เล่นเป็นมืออาชีพมากเลย แล้วในกองจะเฮฮามากทุกคน เวลาอยู่ด้วยกันแล้วสนุก อย่างเบลกับพี่โป๊ปก็จะเป็นคู่ที่ห้ามขำเพราะถ้าขำแล้วคนต่อไปก็จะขำกันไม่หยุดค่ะ เขาแกล้งกันตลอด กับพี่หลุยส์หนูประทับใจเขามาก อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังมากเพราะพี่หลุยส์เขาเป็นคนที่น่ารักมาก มีอยู่วันหนึ่งหนูลืมเอาเก้าอี้ของตัวเองไป ปกตินักแสดงจะมีเก้าอี้ของตัวเองใช่ไหมคะ แล้ววันนั้นหนูลืมเอาเก้าอี้ไป เราก็ไม่ได้อะไรเรานั่งเสื่อนั่งเก้าอี้ก็ได้ แต่นั่งเก้าอี้มันไม่สบายก็เลยนั่งเสื่อมันเอนได้ พี่หลุยส์ก็เรียกมานี่ๆ ยกเก้าอี้ของตัวเองมาให้ แล้วก็บอกว่าพี่นั่งนานแล้ว พี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างแล้วก็ให้เรานั่งเก้าอี้เขา แล้วเขาก็มานั่งพื้นแทนเรา เป็นสุภาพบุรุษมาก น่ารักมากเลยค่ะ”

บทบาทที่บัวหลงรัก

“จริงๆ แล้วตัวละครทุกตัวที่เล่นมาบัวก็ชอบหมดเลยนะคะ เพราะว่ามันก็มีความแตกต่างกันไป อย่างเรื่องที่บัวชอบตอนเล่นละครเรื่องคุณแม่สวมรอย ได้เล่นเป็นแฝดก็ชอบรู้สึกว่ามันท้าทายดีได้เล่นเป็นสองตัว ก็ได้ทำอะไรที่เราไม่เคยได้ทำ ได้ดำน้ำ ได้ขึ้นสลิง ต้องไปปีนผ้า ได้ทำหลายอย่างที่เราไม่เคยได้ทำ แล้วคนดูดูแล้วก็บอกว่าแยกออกเลยนะว่าคนนี้เป็นใคร เราก็รู้สึกว่าเราก็ภูมิใจนะ สิ่งที่เราตั้งใจทำออกมาแล้วคนดูเห็น ส่วนเรื่อง “ตราบาปสีชมพู” บัวก็ชอบค่ะเรื่องนั้นก็ถือว่ายากมาก เพราะว่าดราม่าเยอะมาก แล้วก็ทำให้คนรู้จักบัวเยอะขึ้น แต่ละตัวละครมันก็มีมิติของมัน ส่วนเรื่องล่าสุดที่เพิ่งถ่ายไปก็ชอบคือเรื่อง “พราวมุก” ก็จะพลิกคาแรกเตอร์เหมือนกัน เพราะจะไม่ได้เป็นสาวหวานแล้ว คาแรกเตอร์จะฮ้าวๆ เปรี้ยวๆ แล้วต้องเป็นฝ่ายรุกผู้ชายหนักมาก ตัวละครตัวนั้นบัวก็อยู่กับมันมานาน รู้สึกว่าบัวหลงรักมันนะ เราคิดว่าเราเป็นตัวนั้นจริงๆ ตอนเล่น พอปิดกล้องรู้สึกใจหายเหมือนกันค่ะ ก็น่าจะออนแอร์ประมาณปีหน้าค่ะทุกคนจะได้ดูกัน ช่วงนี้ก็กำลังตัดต่ออยู่ แล้วก็จะมีไปออนแอร์พร้อมจีนด้วยค่ะ”

โลเคชันสวยๆ ใน “พราวมุก”

“ตัวบัวเหมือนได้ไปเกาหลีบ่อยมาก เพราะตอนถ่ายเรื่องตราบาปสีชมพูก็ไปถ่ายที่เกาหลี เรื่องพราวมุกก็ได้ไปถ่ายที่เกาหลีเหมือนกัน แล้วก็เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีพอดี โลเคชันสวย อากาศดี ก็จะได้เห็นบรรยากาศสวยๆ โรแมนติกนิดหนึ่งด้วย แต่ว่ามีซีนที่ถ่านในไทยแต่เหมือนหลอกว่ากำลังอยู่ที่เกาหลีด้วยค่ะ ก็ยกกองไปถ่ายที่เชียงรายก็สวยเหมือนกัน”

มีแฟนละครหลายคนคิดถึงคู่จิ้น “ภณ-บัว”

“คนก็รอนานมากตั้งแต่ตราบาปสีชมพูจบไป ก็ต้องขอบคุณเขานะคะ ก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะ แต่เขาก็ยังรอละครเรื่องพราวมุกด้วย สำหรับภณก็ทำงานด้วยง่ายค่ะ เพราะว่าเขาเป็นคนตั้งใจอยู่แล้วก็เลยไม่ยากเวลาเข้าซีนด้วยกัน แล้วภณเขาโตขึ้นนะคะ จากตอนนั้นที่ถ่ายตราบาปสีชมพูเจอกันอายุ 21 เอง ได้กลับมาเจอกันใหม่ เขาก็โตขึันแล้วก็เห็นถึงความตั้งใจของเขานะคะ เหมือนเขาเป็นคนตั้งใจแล้วก็มีวินัย ถ้าต้องควบคุมหุ่นจริงๆ เขาก็จะไม่กินอาการที่มีแคลอรี่ ไขมันหรืออะไรเลย คือเป็นคนตั้งใจมาก จะเข้าซีนถอดเสื้อก็คือออกกำลังกายจริงจัง เราก็เห็นถึงความตั้งใจของเขาก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีวินัยค่ะ ต้องฝากติดตาม ต้องรอดูค่ะ” (ยิ้มหวาน)

ไลฟ์สไตล์ของบัว

“จริงๆ ไม่ได้ชอบไปคาเฟ่เพราะชอบถ่ายรูปแล้วค่ะในช่วงหลังๆ จะเป็นคนชอบกินกาแฟแบบจริงจัง ก็เลยเหมือนชอบหาร้านกาแฟที่เขาแนะนำว่ากาแฟดี รสชาติดีอะไรอย่างนี้มากกว่า อย่างใครแนะนำว่ากาแฟร้านนี้ดี เราก็จะไปลองว่ารสชาติโอเคไหม แล้วเป็นคนชอบถ่ายรูป อย่างรูปวิว ทิวทัศน์เราชอบถ่าย ก็รู้สึกว่าเราก็ถ่ายรูปโอเคประมาณหนึ่ง แต่ถ่ายรูปคนเราไม่โอเคนะ ให้คนอื่นถ่ายรูปเราได้ แต่พอเราไปถ่ายรูปกับคนอื่นเราก็จะรู้สึกว่าเราถ่ายสวยรึเปล่านะ คิดว่าตัวเองเป็นคนถ่ายรูปคนไม่สวย เวลาไปไหนก็จะพกกล้องถ่ายรูปอันใหญ่ไปเพื่อไปถ่ายรูป”

เพื่อนสนิทในวงการ

“จริงๆ มีหลายคนเลยนะ ก็ไม่คิดว่าการที่เรามีผู้จัดการคนเดียวกันจะทำให้เรามีเพื่อนที่เป็นแก๊งเดียวกัน เป็นแก๊งที่เป็นพี่เป็นน้องกันจริงๆ อยู่กับผู้จัดการมาเหมือนเรามีครอบครัวที่สองนอกจากครอบครัวจริงๆ ของเรา เป็นเหมือนครอบครัวในการทำงานที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ไปกินข้าวหรือไปเที่ยวกัน ถ้าสมมติว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะเป็นกลุ่มเพื่อนที่คิดถึงอันดับแรกว่าเราอยากไปกับคนกลุ่มนี้ ที่สนิทก็จะมีน้องพรีม-รณิดา, โม-มนชนก,พัดพัด-รัตน์ฟ้า แล้วก็มีแพรวที่เป็นช่างแต่งหน้าประจำบ้าน แล้วก็มีเปรี้ยว-ทัศนียา มีหลายคนที่อยู่ด้วยกันแล้วเราก็ไปแฮงค์เอ้าท์ด้วยกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง”

โมเมนต์ความสุขในการทำงาน

“จริงๆ บัวชอบอาชีพนักแสดงนะ บัวรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ที่เราจะเริ่มทำงาน พอเรียนจบมาบัวรู้ตัวเองเลยว่าเราไม่ชอบทำงานประจำ เพราะเราไม่ชอบการทำอะไรซ้ำๆ วนลูปในทุกๆ วัน พอการได้มาเป็นนักแสดงมันทำให้เรารู้ว่า เราได้เจออะไรใหม่ๆ ในทุกๆ วัน บทที่เราจะไปเล่นในแต่ละวันไม่เหมือนกันเลย เราสามารถเป็นใครที่เราไม่สามารถเป็นได้ในชีวิตจริง คาแรกเตอร์แต่ละตัวก็ไม่เหมือนกันเลย ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่พอเรามาอยู่ตรงนี้แล้วเรามีความสุขในการทำงาน ดีใจที่ได้ทำงานตรงนี้ ทุกๆ วันตื่นมาจะรู้สึกว่าเราไปทำงานที่เรารักเถอะ เพราะในแต่ละวันเราชอบมากที่จะได้ไปเจออะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา”

เป้าหมายที่ตั้งในปี 2021

“จริงๆ อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ค่ะ ก็จะทำทุกผลงานที่ออกมาให้ได้ดีที่สุด มีอะไรที่เรายังไม่ได้ไปเรียน เราก็อยากไปเรียนเพิ่มเติม อยากไปเรียนทำขนม เหมือนดูเป็นแม่บ้านแม่เรือนนะคะ (หัวเราะ) เพราะว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทุกคนก็เข้าครัวมีกิจกรรมเป็นของตัวเอง ช่วงนี้หนูก็ยังปลูกต้นไม้อยู่นะ แต่แบบว่าทำอาหารเราก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เราก็เป็นสายแมนๆ หน่อย ซื้อเฟอร์นิเจอร์มาต่อเอง มันก็สนุกดีในแบบพาร์ทที่ดูเป็นผู้หญิงหน่อย ทำอาหาร ทำขนม ยังไม่ค่อยถนัดเราก็เลยอยากไปเรียนเพิ่มเติม”

แฟนไทยและแฟนอินเตอร์ให้การต้อนรับผลงานอย่างอบอุ่น

“ก็ไม่คาดคิดนะคะว่าเราจะมีคนมีคนรู้จักในหลายประเทศมากๆ ก็ต้องขอบคุณละครเรื่อง “ตราบาปสีชมพู” จริงๆ ที่ทำให้คนดูไม่ใช่แค่คนไทย แต่ว่ามีแฟนอินเตอร์ที่ไปแล้วเขาจำเราได้ อย่างเคยไปเกาหลีแล้วเขาก็มาทักว่าเคยดูละครจำได้นะ ตอนนั้นไปฮ่องกงก็คือมีแฟนจีนดูคุณแม่สวมรอย ดูคุณแม่สิณา เขาจำได้ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะดูละครไทยด้วย ก็ต้องขอบคุณที่เขาคอยติดตามมาตลอด พอรู้ว่าจะมีละครเรื่องใหม่ออนแอร์เขาก็จะรอดู ก็ต้องขอบคุณมากๆ คือถ้าไม่มีแฟนคลับก็คงไม่มีบัวที่ทำให้ทุกคนรู้จักมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เหมือนกับเป็นแรงผลักดันให้เราด้วย เพราะว่าทุกครั้งที่เราทำงานเราก็คิดถึงว่าใครที่เขาอยากดูละครของเรา เราก็ตั้งใจอยากทำออกมาให้ดีเพื่อให้สมกับที่เขารอดูงานของเราเหมือนกัน”

ฝากผลงานใหม่ในปี 2021

“ผลงานในปีหน้าที่จะออนแอร์ก็มีละครเรื่อง “พราวมุก” ค่ะ แล้วก็มีเรื่องที่กำลังถ่ายอยู่ “แค้นรักสลับชะตา” เรื่องนี้รับบทเป็นคุณหมอค่ะ ก็มีความยากนิดหนึ่งแต่ว่าก็ถือว่าไม่ได้ไกลคาแรกเตอร์มาก เพราะว่าตอนที่บัวไปคุยกับพี่ผู้กำกับบอกว่าเขาซื้อในความเป็นบัว ชอบในคาแรกเตอร์ของบัว ก็คือให้เล่นเป็นบัวแต่ว่าเป็นคุณหมอนะ แต่ว่าในเรื่องนั้นไม่ได้เป็นคุณหมอธรรมดาแต่เป็นคุณหมอผ่าศพด้วย เหมือนคนหมอพรทิพย์ เพิ่งไปถ่ายมาเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะเป็นซีนผ่าศพ ก็ตื่นเต้นมาก เขาจะมีคุณหมอที่เป็นโค้ชให้เขาก็จะบอกว่าวิธีการต้องทำยังไงบ้าง ก็แอบหลอนตื่นเต้นจนมือสั่นเลยค่ะ เพราะว่าไม่เคยทำ แล้วสถานที่ที่ไปถ่ายก็เป็นสถานที่จริงด้วย ก็จะมีความขนลุกนิดหนึ่ง จริงๆ ก็เป็นคนที่กลัวผีนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่เจออะไรที่หลอนๆ เพราะว่าเป็นคนที่ไม่มีเซ้นส์ในเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็โอเคแหละถ้าเจอก็ไม่ไหวเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ทุกคนบอกว่าคาแรกเตอร์เราได้เลย มีคนถามด้วยนะว่าสนใจไปเรียนหมอเพิ่มไหมเพราะว่าลุคดูเป็นหมอมาก ดูเป็นคนมีความรู้ เราก็อุ๋ย…เหรอคะ เรื่องนั้นก็สนุกดีค่ะ ก็เป็นคาแรกเตอร์อีกแบบหนึ่งที่ไม่เคยเล่นเหมือนกันเพราะว่าตั้งแต่ที่เล่นมาก็ยังไม่เคยเล่นเป็นหมอ ก็มีสองเรื่องส่วนปีหน้า ส่วนงานแสดงภาพยนตร์ ยังค่ะ อยากเล่นมาก แต่ถ้ามีคนสนใจก็ติดต่อมาได้นะคะ บทที่อยากเล่นที่ท้าทายความสามารถที่อยากเล่น หนูว่าจริงๆ มันก็ยากทุกบทบาทนะคะ อยู่ที่ว่าเราชอบอยากจะเล่นแบบไหนแค่นั้น คือเราดูหนังเราก็มีความอยากเล่นโรแมนติกคอมเมดี้ค่ะ”

สั่งซื้อ Kazz Magazine ได้ที่