ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดง และศิลปินสาวสวยมากความสามารถ สุดๆ เพราะหลังจากสาว ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ ได้ผันตัวมาเข้าสู่การเป็นศิลปินแบบเต็มตัว และมีซิงเกิลออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอย่างหลายเพลงเลยทีเดียว ก็ทำเอาฮอตเวอร์ ๆ และล่าสุด สาวเกรซได้ออกเพลงซิงเกิลใหม่ออกมา เอาเป็นว่าซิงเกิลนี้เกรซขอเบรกความแซ่บเข้าโหมดดีว่าท่านหนึ่งในเพลง “กดไลค์ย้อน”ซึ่งเพลงนี้มาในรูปแบบของเพลงช้ามีกรู๊ฟพอโยกตามได้เบา ๆ เนื้อหาของเพลงจะเกี่ยวกับเรื่องราวของคนที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึก กดไลค์ย้อนกลับมาสักนิดก็ยังดี โดยเพลงนี้ เกรซ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อร้องร่วมกับ แจ๊บ The Richman Toy โปรดิวซ์เซอร์คนเดิมอีกด้วย เรียกได้ว่าตัวแม่ ตัวมารดา มาให้หมด เพราะเพลงดีสุด ๆ ทาง KAZZ เลยพลาดไม่ได้ ขอพา เกรซ กาญจน์เกล้า มาสัมภาษณ์ที่มาที่ไป และถามความรู้สึกของการปล่อยซิงเกิลล่าสุดนี้กันหน่อย
- 1. พูดถึงเพลง “กดไลค์ย้อน” หน่อย
เกรซ : ซิงเกิ้ลนี้เป็นซิงเกิ้ลที่ 3 ค่ะ “กดไลค์ย้อน” เป็นเพลงช้าบ้างแล้วหลังจากที่บ้า ๆ บอ ๆ เต้นแร้งเต้นกามาสองเพลง ก็เป็นเพลงช้าบ้าง เพราะหลาย ๆ อาจจะคนชินกับที่เกรซร้องเพลง cover ในช่อง Youtube ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงช้า พอออกเพลงแรกเพลงที่สองเป็นเพลงเร็วทั้งสองเพลงเลย คนก็จะรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะออกเพลงช้าสักที ตอนนี้ก็ออกมาแล้วนะคะ ก็ฟังกันได้นะคะ เป็นเพลงช้าที่เป็นเพลงฟังจริง ๆ ชื่อเพลง “กดไลค์ย้อน” ไม่ใช่กรดไหลย้อน ไม่ใช่โกรธไหลย้อนนะจ๊ะ อันนั้นของพี่ปอ อรรณพ นะคะ คนละเพลงกัน
2. จุดเริ่มต้นในการทำเพลงนี้ / ทำไมต้องเป็น ‘กดไลค์ย้อน’
เกรซ : จุดเริ่มต้นมาจากชั้นปวดท้อง จบ มาจากเป็นกรดไหลย้อน ง่ายมาก แล้วก็นำมาเล่นคำ พูดผิดบ้างไรบ้าง แล้วก็รู้สึกว่าเอาตรงนี้มาแต่งเป็นเพลงเลยดีกว่า รู้สึกว่าน่าจะเป็นอะไรที่อาจจะอินกับชีวิตของใครบางคน หลาย ๆ คนเลยแหละ จริง ๆ แล้วการกดไลค์ มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนทำในทุก ๆ วัน เหมือนเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราต้องทำทุกวัน ตอนตื่นมาก็กดเนาะ เปิดดูโซเชีลยมีเดียต่าง ๆ Instagram, TikTok, Facebook การกดไลค์มันเป็นเรื่องจำเป็น มันเป็นเรื่องที่ทุกคนทำอยู่แล้ว แล้วก็‘กดไลค์ย้อน’ ในที่นี้จริง ๆ meaning ของมันคือเรากดไลค์เขาไปแล้ว กดเยอะมาก แต่เมื่อไหร่เขาจะกดไลค์ย้อนกลับมาให้เราสักทีนึง ‘ชั้นน่ะกดไลค์เธอไปเยอะมากเลย เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ไม่รู้จักหลับจักนอน แสบท้องไปหมด ปวดท้องไปหมด แต่เธอก็ไม่กดไลค์ย้อนมา ก็เลยแสบร้อนกลางอกจนถึงหัวใจ’
3. มีส่วนร่วมอะไรในการทำเพลงบ้าง
เกรซ : เพลงนี้แต่งกับพี่แจ็ค The Rich Man Toy ค่ะ ก็ไอเดียมาจากเรานั่นแหละ ก็เลยรู้สึกว่าอยากทำ แล้วก็ทำงานกับพี่แจ็คในเพลงที่แล้วก็รู้สึกแฮปปี้ ก็เลยเพลงนี้มาทำด้วยกันอีก ก็จะเป็นการเล่นคำ แล้วเกรซก็ชอบในภาษาของเขา คือดนตรีเนี่ยจะทำให้เป็นดนตรีแนวฟัง ไม่ได้เป็นดนตรีที่ทำ serve แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ Instagram, TikTok อะไรแบบนี้ อยากทำเป็นเพลงฟังจริง ๆ เราก็โตมายุคแบบ 90 2000 เนอะ จะชอบการเรียบเรียง melody ทำนองในลักษณะแบบนั้นนะคะ บวกกับเนื้อหาที่มันทันสมัยมากขึ้นอะไรแบบนี้ ภาษาที่มันเป็นภาษาปัจจุบัน การกดไลค์สตอรี่เหมือนเป็นการเล่าเรื่องราวที่ไม่ได้ประดิษให้มันสวยงาม เป็นเรื่องราวจริง ๆ หลายคนฟังแล้วอาจจะจี๊ด ๆ โดน ๆ กันบ้าง เรากดไลค์เขาสุด ๆ แต่เขาไม่กดไลค์มา นั่นแหละค่ะ คุณเป็นโรคกดไลค์ย้อน
4. ความยากและความท้าทายในการทำเพลง
เกรซ : เรื่องเยอะมากเลย มันไม่เสร็จซักที ความเรื่องเยอะคือเกรซนี่แหละ พอเราได้ร่วมแต่งแล้ว ดนตรงดนตรี แม้กระทั่งเมโลดี้ของกีต้าร์โซโล่อะ ก็คือเป็นคนเลือกเองว่าอะไรยังไง ทิศทางไหน หลายเป็นเรื่องเยอะไปหมด กลายเป็นออกเป็นเพลงที่ 3 มันยากตรงตัวเรานี่แหละที่จะให้ถูกใจเราจริง ๆ
5. ถ้าไม่ใช่ ‘กดไลค์ย้อน’ จะเป็นอะไร
เกรซ : ไม่แล้ว ก็เป็นเพลงนี้แหละ เพราะเริ่มต้นจากชื่อเพลง ทุกอย่างมันมาตามจากตรงนั้น เนื้อเพลงก็จะเป็นแบบแสบร้อนกลางอกจนถึงหัวใจ เอาแต่เรอแค่ทัก ก็รักแค่เธอ ก็จะเป็นอาการของโรคกรดไหลย้อนที่นำมาบิด เล่นคำกับอาการกรดไลค์ย้อน
6. เหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราอยากจะ ‘กดไลค์ย้อน’ เพราะอะไร
เกรซ : ถ้าจะเลือกย้อนในแง่นั้น อาจจะเป็นย้อนเวลา แต่ในแง่ของอันนี้มันคือการกดไลค์ที่เรารอการกดไลค์ย้อนคืนมามากกว่า
7. ชอบท่อนไหนที่สุดในเพลง เพราะอะไร
เกรซ : ชอบ pre-hook ค่ะ ‘หากว่ากดไลค์ แปลว่าคิดถึง อยากให้นับจำนวนครั้งที่กดไป แล้วจะรู้ว่าคิดถึงเธอเท่าไร’ เป็นจำนวนความคิดถึงที่มากมายจริง ๆ มันก็สำหรับคนที่แอบชอบใคร อาจจะใช้การกดไลค์ เป็นการแสดงออกว่าเราคิดถึงเขา
8. อยากมอบเพลงนี้ให้กับใคร เพราะอะไร
เกรซ : ทุกคนบนโลกที่กดไลค์ได้ และมีความรัก เพลงมันค่อนข้างที่จะปลายเปิด ไม่ได้จะต้องเป็นความรักที่สมหวังหรือผิดหวัง มันเป็นเรื่องที่เราทุกคนกดไลค์กันอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ก็อยากจะมอบเพลงนี้ให้กับทุก ๆ คน หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคกรดไลค์ย้อนอยู่ก็ได้นะจ๊ะ
9. ถ้าเปรียบชีวิตกับดนตรีสำหรับเรา
เกรซ : ดนตรีเหมือนเป็นเครื่องเยียวยามากกว่า เวลาที่เราทำงานเครียด ๆ บางวันที่เราเจอเรื่องมาเยอะมาก เราอยากจะฟังเพลงที่เราไม่ต้องรู้ความหมาย เช่นเพลงเกาหลี แน่นอนเราไม่ได้รู้ทุกคำของเขา ก็เพลงเกาหลีหรือเพลงอะไรที่เราไม่ต้องคิดตาม meaning ของมันอะ แค่เสพดนตรี เสพเมโลดี้ เสพความเพราะของมัน เสพสิ่งที่เขาสร้างมาให้ รู้สึกว่าแค่นั้นก็เป็นความสุขแล้ว บางวันเราทำงานเยอะมาก ๆ เรื่องเยอะมาก ๆ อาจจะฟังเพลงบรรเลงก็ได้ ไม่ต้องมีเนื้อหาเลย รู้สึกว่าดนตรีเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจของใครหลาย ๆ อย่างของเกรซก็ฟังเวลาเครียด ๆ บางคนอกหักก็ทำให้เขามูฟออนได้ เพลงเราอาจจะไปเป็น inspiration ให้ใครหลาย ๆ คนในแง่การใช้ชีวิตต่าง ๆ ให้มีความสุขขึ้น ให้คิดบวกขึ้น ให้เข้าใจโลกมากขึ้น เพลงเป็นเหมือนตัวสื่อสาร ตัวกลาง ที่ทำให้มนุษย์เชื่อมกันได้มากขึ้นค่ะ
10. นิยามของ ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’
เกรซ : เยอะมาก คือคำนิยาม เพราะเยอะมากจริง ๆ ทุกเรื่อง กินก็ต้องกินให้ตรงเวลา นอนก็ต้องนอนให้เยอะให้ตรงเวลา ทำงานก็ต้องเป๊ะ ๆ จะขาดไปสักนิดนึงไม่ได้เลยนะ คำนิยาม
‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ ก็คือ ‘เยอะ’ จบ ถ้าสมมุติว่ามีคนเม้าท์ว่าฉันเยอะจริงไหม ก็คือจริง ให้รู้ไว้เลย จบ (หัวเราะ)
11. การแสดงกับการร้องเพลง คิดว่ามันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เกรซ : ต่างกันเลยค่ะ การแสดงเราเป็นคนอื่น ร้องเพลงเราเป็นตัวเอง ไม่มีใครมาห้ามเราได้ เราอยากจะร้องอะไร อยากจะทำอะไร เพลงที่เรามีส่วนร่วมที่มันนานขนาดนี้ก็เพราะว่าเราทำให้มันออกมาเป็นตัวเองที่สุด เราไม่ได้เอาแค่ไอเดียของนักแต่งเพลง เราอยากจะเข้าไปร่วมแม้กระทั่งไลน์โซโล่กีต้าร์อย่างที่เล่าให้ฟัง เกรซรู้สึกว่าอะไรที่มันเป็นตัวเราเองจริง ๆ ในโลกปัจจุบันน่าจะเป็นอะไรที่คนเก็ทได้ง่ายกว่า แต่เสน่ห์ของละครก็คือการเป็นนักแสดง เราไปเป็นคนอื่น เราไปเป็นตัวละครนั้น บทมันอาจจะดี บทมันอาจจะขึ้น-ลง ร้องไห้ มีความสุข สนุกมากเกินกว่าชีวิตของเราจะเป็น ก็เป็นการท้าทายอีกอย่าง ซึ่งทำมานานมากแล้ว อยู่กับมัน ก็รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ของมันอีกแบบนึง เคยคิดว่าจะหยุดเล่นละคร แต่สุดท้ายก็เลิกไม่ได้ ก็ต้องกลับมารับ เพราะเป็นเหมือนอะไรที่เราเคยชินไปแล้ว
12. ตอนนี้เห็นมาทำงานเพลง ยังมีผลงานการแสดงให้แฟนได้ติดตามอยู่ไหม
เกรซ : มีค่ะ มีให้ได้งงกันอีก อาจจะมีช่วงปลายปีที่คุยไว้ แต่อย่างที่บอกไว้ว่าปีนี้ตั้งใจว่าจะลุยเพลงค่อนข้างที่จะเต็มที่มาก ๆ นะคะ ถ้าเป็นละครก็อาจจะเป็นปลายปี หรือปีหน้า ก็น่าจะได้ดูกัน
13. ในอนาคตเราวางแผนการทำงานหรืออยากทำเพลงแนวไหน ออกมาให้แฟนๆได้ฟังอีก
เกรซ : อาจจะลุยออนไลน์มากขึ้น เพราะตอนนี้เกรซทำรายการออนไลน์ของตัวเอง ชื่อ รถทาเลนท์ เป็นรถแห่งความสามารถพิเศษ แห่งสวรรค์สร้างที่เอาแขกรับเชิญมาทำความสามารถพิเศษที่ทั้ง talent, ทะเล้น และ challenge รวมไปด้วยกัน อยากให้เป็นรายการที่คนดู ดูแล้วได้ว๊าวกับความสามารถของแขกรับเชิญ จริง ๆ คือเหมือนทำรายการเอาสะใจ จริง ๆ แล้วเราชื่นชอบคนที่มีความสามารถมากมาย ทำอะไรได้หลากหลายอย่าง เพราะปัจจุบันดาราคนนึงหรือศิลปินนักร้องคนนึง ไม่ได้จำเป็นที่จะย่ำอยู่กับที่ หรือสามารถทำอะไรได้อย่างเดียว เค้าอาจจะมีความสามารถอะไรพิเศษ ที่แบบว่าเราอาจไม่เคยรู้มาก่อน แนวเพลงจริง ๆ แล้วอยากจะลองไปเรื่อย อย่างอันนี้ก็เป็น R&B Soul เป็น Pop ซิงเกิ้ลนี้ก็เป็นเพลงในแบบที่เราชอบ ก็อาจจะมีเพลงน่ารัก ๆ บ้าง อาจจะเป็นเพลงแบบ medium กลาง ๆ ในสิ่งที่ยังไม่เคยทำ หรือจะช้า ballad ไปเลยก็ได้ พยายามหาตัวตนว่าความจริงแล้วเราชอบอะไร แต่จริง ๆ แล้วคนดูเค้าอยากเห็นอะไรด้วยเหมือนกัน
14. ขอ 3 คำให้กับเพลง ‘กดไลค์ย้อน’
เกรซ : ‘กด ไลค์ ย้อน’ อยากให้กดไลค์ กดแชร์ ย้อนมาให้นะคะ ถ้าเห็นว่าใครกดไลค์ กดแชร์มา ก็จะกดไลค์ย้อนให้กลับ
15. ฝากผลงาน
เกรซ : ฝากด้วยนะคะ สำหรับ ‘กดไลค์ย้อน’ นะคะ ตอนนี้ mv ก็ปล่อยไปแล้วในช่องทาง youtube : Spicydisc เป็นค่ายเกรซเอง ตอนนี้เพลงออนไปทุกสตรีมมิ่งแล้ว วันนี้ก็มีโอกาสได้มาโปรโมทที่ kazz ก็ฝากด้วยนะคะ ฝากไปเสิร์ชกันด้วยนะคะ ฝากไปเล่นแผ่นเสียงกันด้วยนะคะใน TikTok, Reels, Facebook ฝากด้วยนะคะ ‘กดไลค์ย้อน’ ไม่ใช่ กรดไหลย้อนนะจ๊ะ