Kazz Selected : ตัวตน, จีน่า และ “Desouza”

Kazz Selected : ตัวตน, จีน่า และ “Desouza”

  • Gena Desouza หรือที่รู้จักอย่างแพร่หลายในชื่อ “Gena D.” มีชื่อจริงว่า “ณัฐชา เดอซูซ่า” และกำลังจะเข้าสู่วัย 21 ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
  • เพราะไปไต้หวันบ่อยมากกก จีน่าจึงได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมเอเชียนสไตล์แถบนั้นมาบ้าง จะเห็นได้ชัดจากการแต่งตัวของเธอที่สตรีทจ๋ามาแต่ไหนแต่ไร
  • จีน่าบอกว่านิยามความรักของเธอคือความไว้ใจและความซื่อสัตย์ ถ้ามีสองอย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป ถือเป็นความคิดที่น่าชื่นใจเมื่อมองว่าเธอเพิ่งเข้าสู่วัย 20 เป็นปีแรกๆ
  • หลังจากซิงเกิลแรก “จริงๆ มันก็ดี” (Drunk) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างงาม จีน่าก็เข็นซิงเกิลที่สอง “เรื่องของเธอ” (M.Y.B) ตามมาอย่างรวดเร็ว และมีแผนจะปล่อยซิงเกิลถัดไปเร็วๆ นี้
  • เธอมีความหวังจะเปลี่ยนวงการเพลงไทยให้ดีขึ้น และสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

 

        

“ความหวังสุดท้ายของวงการ T-Pop”

“นี่แหละ T-Pop ของเรา”

“จีน่าจะเข้ามาเปลี่ยนวงการเพลงไทยให้ดีขึ้น”

คำพูดสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ที่เด็กสาววัย 20 ปีต้องแบกรับในฐานะ “ศิลปินหญิงเดี่ยว” ที่เป็นความหวังของวงการ คงไม่น่าแปลกใจกับสมญานามนั้น หรือกับความคาดหวังที่เธอได้รับไปพร้อมกับเสียงชื่นชม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ฟังเสียงของเธอ เพลงของเธอ และได้เห็นตัวตนของเธอที่เธอเองก็เต็มใจนำเสนอแม้จะมีความกังวลเล็กๆ ว่าวงการเพลงไทยอาจจะไม่ยอมรับเด็กผู้หญิงผมแดงจัด มีรอยสัก และดูจะห้าวๆ มากกว่าภาพจำของศิลปินหญิงเดี่ยวในวงการเพลงไทย

 

14 กันยายน 2560

วงการเพลงรู้จักจีน่า ดี อย่างเป็นทางการเป็นครั้ง หลังจาก MBO Official ปล่อยมิวสิควิดีโอ “จริงๆ มันก็ดี” (Drunk) ซิงเกิลเปิดตัวของเธอ ปัจจุบัน ซิงเกิลนี้เลยสิบล้านวิวไปไกล และกำลังจะทะลุ 20 ล้านวิวในไม่ช้า

 

14 ธันวาคม 2560

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม Music Video ตัวที่สองของ Ketchup Girl “เรื่องของชั้น” (M.Y.B) ก็เปิดตัวอย่างร้อนแรง และในเวลาเพียง 1 เดือน เธอก็ถือครองยอดวิว 5 ล้านเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว

           

สมฐานะผู้แบกรับความหวังของวงการเพลงไทย

 

แต่สำหรับจีน่าแล้วล่ะ คำพูดที่ว่านี้ส่งผลอย่างไรต่อเธอ

           

“โอ้โฮ คนพูดแบบนี้เยอะมาก”

จีน่าทำหน้าตาตื่นเมื่อได้ยิน แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ชื่อของเธอถูกแทนด้วยคำว่าความหวังของวงการ แต่เธอก็แสดงออกว่าคำพูดที่ว่ากระทบความรู้สึกเธอมากพอดู

“คนชอบมาคอมเมนต์ว่าเพลงของน่าคือแนวของทีป็อป แล้วน่าเป็นความหวังสุดท้าย หรือเป็นความหวังแรกที่คิดว่าจะสามารถเปลี่ยนวงการเพลงป็อปได้”

ก็แล้วเราเป็นความหวังของวงการนี้จริงๆ หรือเปล่า ?

“มันก็ตื่นเต้นนะพี่ (หัวเราะ) แต่ก็กดดันอะ ว่าถ้าเราทำไม่ดีขึ้นมา แล้วทุกคนเค้าจะผิดหวังหรือเปล่า เพราะเค้าก็ดูคาดหวังกับเรามาก แต่ว่าสุดท้ายแล้วน่าก็ทำเต็มที่ คือถ้าเค้าชอบเราไปแล้วอะ เราทำอะไรที่เป็นตัวเองเค้าก็น่าจะซัพพอร์ตต่อ เพราะเราก็ยังเป็นเรา”

 

“ตอนนี้เพลงน่าก็น่าจะเป็นฮิปฮอป…” เธอตอบอย่างลังเลเล็กๆ

“ไม่เอาดีกว่า”

และรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม

“เป็นป็อปที่มีดนตรีแทรป (Trap) ไม่แน่ในอนาคต ถ้าเกิดว่ามันอยู่ตัวเมื่อไรนะ น่าอาจจะทำเพลงที่เป็นตัวเอง 100% ทำมาเป็นเพลงฮิปฮอปเลย”

 

 

“จริงๆ แล้วน่าชอบฮิปฮอป”

ฟังฮิปฮอป ?

“ใช่ ชอบมาก แต่ว่าถ้าทำออกมา คนคงจะแบบ หืม (หัวเราะ) นี่มันอะไรกัน ต้องค่อยๆ เปลี่ยนอะ ค่อยๆ เปลี่ยนวงการ เพราะถ้าเกิดไปตูมแรกแล้วฟื่บ หายเลย เราจะไม่สามารถเปลี่ยนมันได้อีก (หัวเราะ) คือมันหายไปแล้ว”

 

 

ซิงเกิลปัจจุบัน เรียกให้เพราะก็ต้องซิงเกิลใหม่ “เรื่องของชั้น” (M.Y.B.)

“เรื่องของชั้นนะ… ไม่ใช่เรื่องของฉัน ชั้นมันคือเรื่องของชั้นเชิงอะ เป็นชั้นเชิงในด้านความรักของน่า อธิบายเพิ่มเติมอีก เป็นชั้นเชิงในการมองมุมความรักของจีน่า เพราะว่าน่ากะจะทำเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ในมุมมองของตัวเอง ในทุกเพลงที่ออกมาเลย”

“อย่างเพลงแรกก็จะเป็นมุมมองในการมองเรื่องของความรักในเวลาที่เพิ่งโดนทิ้งหรืออกหัก แต่อันนี้ก็จะเป็นมุมมองความรักในการที่เราแอบชอบใครสักคนหนึ่งขึ้นมา มันก็ต้องเป็นอะไรที่ดูมีชั้นเชิงหน่อย แล้วมันก็ไปตรงกับเสียงในภาษาพูดพอดี น่าอยากได้เพลงรักที่มันดูไม่หวานเกินไป มีความเท่ๆ ความมั่นใจ หรือความเป็นตัวเรา”

 

 

แล้วเพลงนี้มันใช่แล้วหรือยัง เพลงที่เป็นตัวเอง 100%

“จริงๆ น่ากำลังจะมีซิงเกิลใหม่ เป็นเพลงที่อาจจะเป็นตัวน่ามากที่สุด ปล่อยเมื่อไรเดี๋ยวค่อยว่ากัน ยังไม่เสร็จหรอก แต่ดนตรีมาแล้ว”

จีน่ายิ้มกว้าง และเธอดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษเมื่อพูดถึงเพลงที่ยังไม่เสร็จของเธอ

“มันโอ้โห เป็นอย่างที่รอคอย ชอบที่สุดเลยเพลงนี้”

           

“น่าคิดว่า ทุกคนอะ มันไม่ได้มีใครที่มั่นใจในตัวเองหรือว่าแข็งแกร่งตลอดเวลา มันต้องมีมุมที่ ‘เฮ้ย กูเสียใจ เสียใจจริงๆ อะ’ ไม่ใช่เสียใจแล้วต้องเท่ ‘กูเสียใจอะ แต่ไม่เป็นไร’ แต่ว่าเพลงนี้มันจะเป็นแบบ ‘เฮ้ย เสียใจจริงๆ นะ กูก็เสียใจได้’ ก็จะเป็นเพลงแบบนั้น ซึ่งปกติน่าเป็นคนร้องเพลงช้าอยู่แล้ว แต่น่าไม่รู้ว่าเค้าจะให้น่าทำอย่างที่อยากทำหรือเปล่านะ (หัวเราะ)”

           

ไม่เคยร้องเพลงเร็วมาก่อน แต่ 2 เพลงแรกในชีวิตเป็นเพลงเร็ว ?

“ใช่ ไม่เคยร้องเพลงเร็วมาก่อนเลย สองซิงเกิลแรกเป็นเพลงเร็ว 2 เพลงในชีวิตที่น่าร้อง เพราะปกติเป็นคนชอบร้องแนวดีว่า หรืออาร์แอนด์บีที่มันช้าๆ พอซิงเกิลสามเป็นเพลงช้า แล้วเราก็ได้ดูเรื่องซาวนด์กับเมโลดีเองด้วย (ยิ้ม) พี่เค้าก็แต่งมาให้แหละ แต่เราบอกเค้าไปว่าเราชอบประมาณไหน”

           

 

เอาล่ะ จีน่า เดอซูซ่า เราขอถามคุณเรื่องรอยสักได้หรือไม่ ไม่ต้องละเอียดมากนะ เอาเท่าที่เล่าได้ก็พอแล้ว

“เรื่องรอยสักนี่ยาวมาก ยาวมากกก (หัวเราะ)”

จีน่าเต็มใจตอบเป็นอย่างยิ่ง และเสียงตอนบอกว่ายาวมากของเธอ ทำให้เราคิดว่าอาจต้องนัดเธอเพิ่มในวันหลังเพื่อคุยเรื่องรอยสักโดยเฉพาะ

“อันนี้ดีกว่าค่ะ เป็นคำว่า Desouza”

เธอชี้ไปที่ไหล่ขวา พยายามแหวกชุดคอนเซปต์ให้เราเห็น และเล่ายาวอย่างที่เธอเตือนไว้

“ที่มันเป็นฟอนต์ภาษาญี่ปุ่นเพราะว่า ที่ผ่านมา ตลอดชีวิต ทุกคนจะทักว่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ที่จริงแล้วเป็นลูกครึ่งโปรตุเกส (ยิ้ม)”

“คนจะทักว่าเป็นญี่ปุ่น เราก็เลยสักภาษาโปรตุเกส แต่ว่าเป็นฟอนต์ญี่ปุ่น มันก็เลยเป็นเดอซูซ่าที่ดูญี่ปุ่นๆ นิดหนึ่ง แล้วก็ที่สักนามสกุลตัวเองเพราะตอนเด็กๆ น่าก็ค่อนข้างเกเรนิดนึงพี่ เป็นเด็กดื้ออะ แล้วก็ติดเพื่อน ก็มีเรื่องราวมากมายในชีวิต วนมาทั้งดีทั้งไม่ดี แต่มันไม่ดีเยอะกว่า แต่ว่าพอเราโตขึ้นมาอีกระดับหนึ่งอะ เราก็คิดว่า เฮ้ย ถ้าย้อนเวลากลับไป แก้ไขตรงนู้นตรงนี้ให้ดีได้ จะย้อนกลับไปไหม ถ้าเกิดเราย้อนกลับไปได้แล้วเราจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นอะ เราจะย้อนไหม แต่คำตอบที่ได้คือไม่อยากย้อนอะไรเลยอะ เพราะน่าคิดว่าถ้าน่ากลับไปแก้ น่าจะเป็นคนที่ยังคิดไม่ได้อยู่ตอนนี้ นึกออกไหม คือมันต้องมีเรื่องผิด แล้วเราถึงจะคิดออกอะ เราก็เลยสักนามสกุลตัวเอง ก็คือ ดีแล้วที่เจอเรื่องแย่ๆ เพราะถ้าไม่เจอ วันนี้ก็คงเป็นคนที่ไม่ฟังคนอื่น ขี้โมโห ระเบิดตลอดเวลา แล้วก็ไม่คุยกับใครเลย”

 

 

ถ้างั้นถามต่ออีกนิดเดียว เราคิดว่าตัวเราในวันนี้ เป็นสีอะไร ขอเดา น่าจะตอบว่าสี…

“ชมพูนีออนได้ไหม”

บ้าจริง เราเดาถูก

“มันดูเป็นอะไรที่มันไม่หวานอะ ถ้าเกิดเป็นคนหวานๆ แล้วบอกว่าชอบสีชมพูนีออน มันก็จะ ‘ฮะ ทำไมวะ ทำไมไม่ชอบชมพูช็อกกิงพิงค์ ทำไมไม่ชอบพาสเทล’ น่าว่าสีชมพูนีออนเป็นสีที่ค่อนข้างมีเรื่องราวของมันชัดเจนอะ มันดูซ่า มันดูแสบๆ อะ มันดูแบบ ดิ้นๆ อะ แล้วมันก็ดูไม่หวาน แล้วก็เท่ได้ ไม่รู้เหมือนกัน ชอบสีนีออน (หัวเราะ)”

 

 

ก่อนจากกัน ความหวังแห่งวงการทีป็อป ฝากอะไรถึงแฟนๆ จำนวนมากของเราหน่อย

“น่าดีใจนะที่เพลงของเราก็มีผู้ใหญ่ฟัง ทั้งวัยเรียน มัธยมฯ ปลาย มหา’ลัย น่าจะเพราะเพลงมันหลอนหูอะ (หัวเราะ)”

น่าจะติดหูมากกว่า เราแก้ให้ เธอยิ้ม

“หลายๆ คนจะคิดว่าพี่จีน่ามองไม่เห็นสิ่งที่เค้าทักมา ที่จริงเห็นทุกอันนะ แต่ตอบได้ไม่หมดทุกอัน บางทีเราก็เห็นเด้งขึ้นมา พอว่างจะมานั่งตอบก็เอ้า หายไปไหนแล้วไม่รู้อะ เราก็เลยได้ตอบแค่บางอัน แต่ถ้าถามว่าเห็นหมดไหม เห็นหมด คือรู้สึกดีใจมาก แล้วไม่ต้องเลิกส่งมา ส่งมาอะดีแล้ว มันทำให้เรามีแรงในการทำงาน เหมือนมันมีไฟตลอด พอมันมีคนซัพพอร์ต และมีคนชื่นชอบในอะไรที่เป็นเรา”

“เพราะตอนแรกน่าก็กลัวเหมือนกัน ที่เราเป็นลุคแบบนี้ เป็นคนที่มี Attitude แบบนี้ แล้วขึ้นมาเป็นนักร้องหญิง มันจะดูแรงเกินไปไหม หรือสังคมเค้าจะคิดยังไงกับภาพลักษณ์ของเรา แถมเรายังมีรอยสักอีก น่าก็เลยกลัวว่ามันจะลบ”

จีน่ายิ้มให้เราอีกครั้ง คิดว่าถึงตรงนี้ จีน่าน่าจะยิ้มให้แฟนคลับของเธอมากกว่า

“แต่ก็ขอบคุณที่ทุกคนชอบ น่าก็จะเต็มที่อย่างที่ทำแหละ”

 

 

ความหวังใหม่ของวงการ T-Pop ว่าแบบนั้น และเราเชื่อสุดใจว่าเธอจะทำเต็มที่อย่างที่ว่า

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก Instagram : @jeenagena