Whal & Dolph
Kritsaran Jongsuwan (Dolph)
Namvon Kullwatpaisith (Whal)
- “ปลาโลมาและปลาวาฬเป็นเพื่อนกัน” คือ About ในเพจเฟซบุ๊กของวงดนตรีที่ออกตัวว่าพวกเราน่ารัก แต่ไม่ได้หล่อ น้ำวน และปอ แห่ง Whal & Dolph
- ทะเล คือกลิ่นอายที่ Whal & Dolph บอกว่ามักจะผสมผสานอยู่ในผลงานของพวกเขา วาฬบอกเราว่ามันอาจจะเป็นแค่กิมมิก ส่วนโลมาบอกว่าใครๆ ก็รู้สึกเช่นนั้น เราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคอสตูมของพวกเขาที่มักจะทะเล๊ทะเลอยู่เสมอ
- อัลบัมแรกอย่างเป็นทางการของทั้งสองหนุ่มมีชื่อว่า ‘Rayon’ (เรยอน) คุณสามารถหาฟังได้ทุกสตรีมมิง และเราขอบอกว่ามันควรค่ามากสำหรับหูของคุณ โดยเฉพาะเมื่อลองหลับตาแล้วจินตนาการถึงเกาะสมุย ใช่แล้ว มันชิลล์ถึงขนาดนั้นเลยล่ะ
- วันนี้วาฬและโลมาใจดี เล่นซิงเกิลล่าสุดของเขาให้เราฟังด้วย ไม่ว่าคุณจะเคยฟังเพลงนี้มาก่อนหรือไม่ เราขอแนะนำให้คุณลองฟังเวอร์ชันนี้ดูสักครั้ง (คลิกตรงนี้)
- เบื้องหลังผลงานชิลล์ๆ ของ Whal & Dolph ไม่ได้ชิลล์อย่างที่เราคิด แต่มันจะเป็นแบบไหน เราคงไม่แย่งซีนเฉลย อยากให้อ่านเอาเองมากกว่า และเริ่มอ่านได้เลยตอนนี้ น้ำวนและปอ รอคุณอยู่แล้ว
อะไรคือวาฬ (Whal) อะไรคือโลมา (Dolph)
Dolph : ตอนแรกเราทำวงนี้ขึ้นมา คิดว่าเป็น Side Project ครับ ทำเล่นๆ สนุกสนาน แล้วก็คิดว่า เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ก็อยากเอาสัตว์ทั้งสองตัวที่เป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนกัน (ยิ้ม) ดูคล้ายเป็นเพื่อนสนิทกันมาเป็นตัวแทน ก็คือวาฬกับโลมา
วาฬและโลมารู้จักกันมานานแล้วหรือยัง
Dolph : เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนครับ แต่ว่าอยู่กันคนละมหา’ลัย
Whal : รู้จักกันเพราะว่าเราชอบดนตรีเหมือนกันครับ
อะไรคือแนวทางของวาฬและโลมา
Dolph : เป็นแนวหลากหลายครับ (หัวเราะ) แต่หลักๆ แล้วมันจะเป็นป็อปแหละครับ แต่ละเพลงก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป เอาแนวโน้นแนวนี้มาผสมกัน
วาฬและโลมา ผู้โตมาด้วยวัฒนธรรมริมทะเล (เสื้อฮาวาย)
Whal : ผมอะ ชอบใส่เสื้อ… เขาเรียกกันว่าเสื้อฮาวายเนาะ ไอ้ลายๆ แบบเนี้ยะ (ยิ้ม) คือผมชอบใส่เสื้อฮาวายมาตั้งแต่เรียนมหา’ลัยละ มันสบาย ก็ใส่ ใส่ ใส่ ตอนแรกเจ้านี่ก็ยังไม่ใส่ เห็นผมใส่แล้วชิลล์ ก็เลยใส่มั่งดิ
Dolph : จริงๆ เราใส่มานานแล้วนะ
Whal : ใช่ ใส่ก่อนมาทำ Whal & Dolph อีก ผมชอบใส่ ซื้อเรื่อยๆ เลยครับ มันเป็นความชอบส่วนตัวด้วย แล้วไอ้ความชอบนี้อะ พอมันเข้ามาอยู่ในวงแล้วมันก็ส่งเสริมกัน ผมก็ใส่ต่อไป เพราะผมชอบใส่อยู่แล้ว (หัวเราะ)
วาฬและโลมาก็ใส่เสื้อฮาวายมาตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการเพลง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน ถ้าเป็นมุมมองต่อวงการเพลงล่ะ วาฬและโลมามองมันต่างออกไปยังไงบ้าง ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
Dolph : มุมมองก็เปลี่ยนไปบ้างนะ อย่างเราเมื่อก่อนก็เป็นคนฟังเพลง ตอนนี้ก็เป็นคนฟังนะ แต่เมื่อก่อนก็จะอยากรู้ ว่า ‘เฮ้ย ทำไมคนนี้เก่งจัง คนนู้นเก่งจัง’ แต่พอวันนึงเราได้เข้ามาทำตรงนี้ แล้วเราก็ได้รู้จักกับคนเหล่านั้นจริงๆ ศิลปินที่เราชอบ เราก็จะได้เรียนรู้เขาโดยตรงอะ ได้รู้จักเขาว่า ‘เฮ้ย ทำไมเขาถึงเก่งขนาดนี้นะ’ แล้วก็รู้เลยว่าแต่ละคนที่เขาประสบความสำเร็จเนี่ย เขาขยันครับ
Whal : ใช่ครับ เขาไม่ได้ฟลุก มันไม่ได้ง่าย เขาเก่งด้วย ใช่ แต่การทีจะรักษามาตรฐานตรงนั้น เขาก็ต้องขยันด้วย
ศิลปินที่ Whal & Dolph ชอบล่ะ คนที่เราบอกว่าได้เรียนรู้จากเขา คนเหล่านั้นคือใคร
Dolph : จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ เราก็ชอบไปเรื่อย (หัวเราะ)
Whal : ส่วนใหญ่เราจะชอบศิลปินยุคที่พวกเราเด็กๆ ครับ ยุคเบเกอรีเฟื่องฟู เราก็จะชอบ เจ้านี่ก็จะได้อิทธิพลค่อนข้างเยอะ พวกภาษาในการเขียนเนื้อเพลง
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ Whal & Dolph ได้รับการจดจำ ถือว่าในจุดนี้ เราก็ประสบความสำเร็จนะ
Whal : อันดับแรกเลยต้องฝึกฝนก่อนครับ (ยิ้ม) สมมติคุณจะมาอยู่ตรงจุดนี้ คุณน่าจะต้องมีมาตรฐานในระดับหนึ่ง เดี๋ยวนี้โลกออนไลน์มันก็กว้างน่ะครับ เราก็สามารถศึกษางานคนอื่นได้ คนนี้เขาทำเพลงยังไง เขาเล่าเรื่องยังไงบ้าง ทำไมถึงมีคนติดตามเขาเยอะขนาดนี้ มันเปิดกว้างมากเลยครับ ต้องเอาจริงเอาจัง
Dolph : อย่างผมเอง เป็นคนที่ค่อนข้างไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ผมเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่แม่งเป็นอย่างนั้น (หัวเราะ) เราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะมาอยู่จุดนี้ แต่เราก็ไม่เคยพอใจที่อยู่ในจุดนี้เหมือนกัน เราก็อยากจะก้าวข้ามไปอีก คุณต้องหวังให้สูง แล้วก็ต้องเดินไปให้ได้ ถ้าคุณหวังสูงเท่าไร แล้วคุณเดินหน้าต่อไป คุณก็จะขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก จนวันหนึ่งที่คุณรู้สึกว่า เฮ้ย มันพอแล้วก็ได้ ผมว่าคนเรามันต้องฝันก่อน แล้วก็ทำมัน ต้องหวังให้มันสูงนะ อย่าคิดว่า เอาแค่นี้ พอละๆ ถ้าพูดว่าเราทำได้แค่นี้ คุณก็ได้แค่นี้ แต่ถ้าคุณคิดว่าเราต้องไปจุดนี้ให้ได้นะ มันก็จะเป็นแรงผลักดันให้คุณไปถึงจุดที่คุณไม่คิดว่าจะไปถึงก็ได้
Whal : พวกผมเข้ามาตรงนี้ ผมก็เคยคุยกันว่านี่มันแค่ด่านแรกเองนะ เราก็เห็นศิลปินรุ่นพี่ที่เขาประสคบวามสำเร็จมากๆ เฮ้ย เราอยากไปจุดนั้นบ้าง นี่ก็แค่ด่านแรก คือพอเข้ามาแล้วอะ มันจะค่อนข้างเห็นลู่ทางว่าต้องพยายามไปทางไหน แต่ว่ามันค่อนข้างไปยากนิดนึง (ยิ้ม) แต่ว่าเราก็ต้องขยันกันต่อไปครับ
Dolph : บนโลกนี้ไม่มีอะไรง่ายๆ ครับ
อะไรคือที่สุดของ Whal & Dolph คือจุดที่วาฬและโลมาจะพอและเรียกมันได้ว่าความสำเร็จ
Dolph : ผมอยากให้มันเป็นอาชีพของเราได้จริงจังอะ มันน่าเสียดายนะ ถ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด แล้วมันไม่สามารถเป็นอาชีพให้เราได้ มันก็เหมือนกับอย่างอื่นน่ะ คุณเล่นดนตรี คุณทำเพลง เป็นศิลปิน มันก็เหมือนคุณทำงานวิศวกรอะ แต่โลกนี้มันก็ไม่ได้ยุติธรรมขนาดนั้น (ยิ้ม) แต่เรารู้สึกว่า ถ้าเราเก่งจัง หรือคนที่เขาทำจริงจัง มันก็สามารถอยู่ได้ มันต้องมีพื้นที่ให้คนๆ นั้นบ้าง และเราก็เชื่อว่าเราต้องทำให้ได้ เพราะเราก็ทำอันนี้ได้ที่สุดแล้วแหละ ในชีวิต
Whal : และเราก็เคยลองทำอย่างอื่นแล้วครับ เราก็โอเคแหละ มันก็สนุกดี ก็ได้เงินมาบ้าง แต่เราก็ไม่ได้รักมันจริงๆ แต่ว่าอันนี้อะ พอเรามีโอกาส เราก็อยากทำให้มันเป็นอาชีพได้ เราก็ยังพยายามอยู่ครับ (ยิ้ม)
หนทางสู่ความสำเร็จมักจะมีการต่อสู้ที่ยาวนาน ก่อนจะถึงวันนี้ วาฬและโลมาเคยคิดจะล้มเลิกสักครั้งบ้างไหม
Whal : จริงๆ ผมไม่เคยท้อขนาดนั้น ผมทำดนตรีมา จนถึงตอนนี้อะ ร่วมๆ สิบปีละ ก่อนจะมาเป็น Whal & Dolph นะ แต่ว่าผมก็ทำด้วยความสนุกมากกว่า ถึงมันจะไม่ได้รับการยอมรับ แต่ผมว่าเราก็ทำได้ดีที่สุดแล้วในตอนนั้น ผมเคยไปเล่นงาน ไม่มีคนมาดูเลยครับ คนที่มาดูก็คือคนที่มาเล่นงานเดียวกันนี่แหละ แล้ววงแรกเล่นเสร็จพวกเขาก็กลับไป พอถึงวงสุดท้ายคนก็แทบไม่เหลือแล้ว (ยิ้ม) แต่มันก็ไม่ได้ท้อ ผมไม่ได้รู้สึกอะไร ก็สนุกดี ก็แค่รู้สถานะตัวเองว่าตรงนี้เราเป็นกลุ่มเล็กๆ นะ เราไม่ได้เรียกคนมาได้อยู่แล้ว
Dolph : ท้อมันก็มีครับ เหนื่อยมันก็มี ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะคาดหวังกับสิ่งที่เราทำน่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ผมเป็นคนคิดเยอะ แล้วก็เป็นคนมีความคาดหวังสูง เวลาทำอะไรออกมาแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ มันก็เฟลนะครับ แต่ว่าผมไม่เคยท้อ ไม่เฟลแล้วนอนเฟลไปเลยอะ ผมเฟลแล้วก็ลุกขึ้นมา หาวิธีอื่นที่จะทำให้มันทำได้อะ ก็หามาเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง ก็มาทำอันนี้อะ (ยิ้ม) ผมว่าบางเรื่องบางอย่างมันเป็นเรื่องของโชคชะตาครับ คุณทำไปเหอะ คุณจะล้มจะท้อก็ได้ คุณจะมีความหวังก็ได้ แต่คุณต้องรับมันให้ได้นะ สิ่งที่คุณคิดออกมา ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเต็มที่กับการทำงานสักอย่างหนึ่งอะ จนวันนึง เมื่อโชคชะตามันส่องเข้ามาหาคุณบ้าง คุณก็อาจจะได้รับในสิ่งที่คุณทำมาตลอด ไปในจุดที่คุณอยากไปถึง พยายามไว้ครับ แต่ต้องเข้มแข็ง แล้วก็อดทน
ในวันที่ไม่เคยมีคนมาดูเลย กับวันนี้ที่วาฬและโลมามีกลุ่มแฟนเพลงที่ให้กำลังใจ อยากบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง
Dolph : แฟนเพลงเราดีมากเลยครับ (หัวเราะ) ค่อนข้างน่ารักกับพวกเรามากๆ พวกเราไม่ได้หล่อ แต่พวกเราน่ารัก (ยิ้ม) เขาก็จะชอบเพลงเราก่อน ผลงานคือ First Impression ที่เราลองสังเกตดูอะ เขาไม่ได้เข้ามาเพราะ ‘เฮ้ย มันหล่อว่ะ’ แบบนี้ไม่ใช่ คือเขามาเพราะเพลงเพราะอะ ก็เลยเข้ามาอยากรู้จักเรา พอเขารู้จักเรา เขาก็จะส่งเสริมเราในหลายๆ เรื่อง ‘เฮ้ย อยากไปดูพี่สองคนนี้เล่น’ อยากพูดคุย อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไง เรารู้สึกว่ามันเป็นการซัพพอร์ตกันที่ไม่ใช่การมาบ้าคลั่งกันอะ เรารู้สึกว่าแฟนเพลงของเราน่ารักมาก
Whal : เขาชื่นชมเรานะ เขาอยากรู้จักเรา แล้วพอไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วแฟนเพลงมาดูเราจริงๆ อะ เขาก็เข้ามาคุย ซื้อขนมมาฝาก แต่ว่าไม่ได้เข้ามาด้วยความน่ากลัวอะไรนะ (ยิ้ม) แต่เข้ามาแบบเป็นเพื่อนกันมากกว่าครับ
Dolph : และที่ดีที่สุดคือเขาอินกับเพลงเราครับ
แฟนเพลงของวาฬและโลมาเคยบอกไหม ว่าเพลงของเรา ส่งผลอย่างไรกับเขาบ้าง
Dolph : มีเยอะมากเลยครับ จนพูดตรงนี้ไม่หมด (ยิ้ม)
Whal : ส่วนใหญ่จะเข้ามาบอกว่าเพลงนี้มีเอฟเฟกต์กับเขายังไงบ้าง เราก็ขอบคุณนะที่ทำเพลงดีๆ ออกมา ทำต่อไปนะ สนับสนุน
Dolph : อย่างเพลง ‘นานนาน’ ก็จะมีหลายๆ คนมาบอกว่า ‘พี่รู้ไหมว่าผมคบกับแฟนคนนี้ได้เพราะเพลงนี้เลยนะ’ (ยิ้ม) หลายคนมาก เขาเอาไปจีบกันอะครับ เรารู้สึกว่ามันมีความหมายมากกว่าอย่างอื่นนะ เพราะอันนี้คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเพราะเราชอบมันจริงๆ ไม่ได้ทำเพราะมันต้องดังนะ เราแค่เล่าเรื่องที่เราเจอมา อย่างเรื่องของวนกับผม ทำออกมา ปึ้ง! อันนี้คือเรื่องที่เราเจอ แล้วคุณเอาไปใช้ต่อได้ คุณเอาไปเป็นแรงบันดาลใจได้ หรือคุณเอาไปใช้จีบสาวต่อได้ ไปมีแฟนได้ ผมรู้สึกว่านี่แหละ มีคุณค่าต่อจิตใจพวกเราแล้ว
Whal : เพลงมันก็คือการสื่อสารอะเนอะ ถ้ามันมีเอฟเฟกต์กับคนเยอะขนาดนี้ แสดงว่าเราสื่อสารกับคนสำเร็จแหละ (ยิ้ม)
Recommended Song
เพลงล่าสุดครับ ‘เก็บเธอเอาไว้ดูก่อน’ เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ลงตัว
คนก็ชอบ เพลงนี้เป็นมุมมองความรักที่ยังไม่ลงตัวเท่าไร
เหมือนรอใครอีกคนหนึ่งอยู่ ต้องไปลองฟังดูครับ
ดาวน์โหลด e-Book