Kazz Exclusive ES CHAINARONG ‘9 ปี’ เพลงรักแสนอบอุ่น จากผู้ชายมาดเท่!!
จุดเริ่มต้นของการเข้ามาแข่ง The Voice season 6 จริงๆผมปฏิเสธมาตั้งแต่ season แรกๆล่ะ มีคนบอกให้เราไปเหอะๆ ไปลองดู ซึ่งก่อนหน้านั้นผมเคยประกวดนั่น ประกวดนี่ มาแล้ว แต่ว่ามันก็ไม่ผ่าน audition สักทีไม่ประสบความสำเร็จสักที คือ ผมก็ทำงานเพลงมาเรื่อยๆ แต่พอมา season 6 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชีวิตของผมแย่ๆ ไม่ว่าจะเรื่องแฟน เรื่องเศรษฐกิจ(หัวเราะ) ช่วงนั้นผมก็ขายของมือสองด้วยแล้วก็ขายไม่ค่อยดีมันก็ไม่รู้จะเอายังไงดี เราอยากจะเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีอ่ะ เราก็เลยเปลี่ยนความคิดมองทุกสิ่งทุกอย่างให้บวก แล้วก็ส่งคลิปเข้าไปในรายการแล้วบังเอิญว่าคลิปที่เราส่งไปมันดันผ่านการคัดเลือกจาก 20,000 เกือบ 30,000 คลิปคัดเหลือแค่ 300 คลิป แล้วเขาก็คัดจาก 300 เหลือแค่ 90 ก็คือจำนวนผู้แข่งขันทั้งหมด และเป็นก้าวแรกครับที่เข้ามาอย่างเต็มตัว ก็รู้สึกดีใจมากครับที่ผู้ใหญ่มองเห็นตัวตนของเราและเปิดโอกาสให้กับเราสักที
ซิงเกิ้ลนี้เป็นอย่างไรบ้าง รู้มาว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของคุณ
อ๋อ..ใช่ครับ เพลง “9 ปี” จริงๆแล้วผมได้เขียนไว้ประมาณ 5-6 ปีที่แล้วซึ่งเป็นเรื่องราวของผมเองที่เขียนเพลงให้แฟนเก่าสมัยนั้นเป็นของขวัญวาเลนไทน์ครบรอบปีที่9 ก็คือเขียนก่อนวาเลนไทน์คืนหนึง สารภาพเลยว่าเราไม่มีของขวัญอะไรให้เขา คือลืม ก็เลยเขียนเพลงนี้ให้เขา ซึ่งมันก็จบไปแล้วแต่ว่าคราวนี้ผมได้เข้ารอบ The Voice season 6 รอบ blind audition ทางโค้ชก้องก็ถามว่า “ได้ข่าวว่าเอส เคยมีผลงานอะไรมาก่อนหรือเปล่า” เราก็เลยบอกว่า “ก็มีครับ” งั้นพี่ก้องก็เลยขอว่าให้ร้องให้ฟังสักท่อนได้มั้ย เราก็เลยร้องเพลง 9 ปีนี่แหละให้เขาฟังในเวอร์ชั่นเดิม เขาก็ชอบฟีดแบคก็ดี ทางยูนิเวอร์แซล มิวสิคก็เลยเรียกเราเข้าไปคุยและก็หลังจากนั้นอาทิตย์หนึงเลยตกลงเซนต์สัญญาเป็นศิลปินกับยูนิเวอร์แซล มิวสิค ไทยแลนด์ แล้วทางผู้บริหารเขาก็เห็นว่าเพลงนี้ควรจะนำกลับมาทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่ฟังง่ายขึ้น เพราะว่าในเวอร์ชั่นเดิมจะเป็นแจ๊สครับ อันนี้เวอร์ชั่นใหม่
เนื้อหาของเพลงเป็นยังไง
เป็นเพลงแนวป๊อปฟังง่ายๆ พูดถึงความรักของคนเป็นแฟนกัน คบกันมาใช้เวลาไม่ว่าจะมากหรือจะน้อยมันต้องผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมากด้วยกันกว่าจะถึงจุดเนี้ย จุดที่มาครบรอบได้เนี่ยมันยากนะมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยเพราะฉะนั้นก็รักษาให้ดี เราก็อยากเล่าโมเม้นท์ ที่ดีๆให้คนอื่นได้ฟังต่อ
ทำไมถึงหยิบยกเรื่องราวของเรามาทำเป็นเพลง อยากจะสื่ออะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า
ก็คืออย่างที่บอกไว้ตอนแรกนะครับว่าเหตุผลที่เอาเพลง 9 ปี มาก็คือผู้บริหารของยูนิเวอร์แซล มิวสิค ไทยแลนด์ เขาชอบ แล้วเขาลงความเห็นว่าให้นำเพลงนี้มาทำก่อนเลยมั้ยเราก็เลยเลือกมาครับ
จากวันที่เราแต่งเพลงนี้ตอนคบกับแฟน
มุมมองความรักจาก 9 ปีที่แล้วกับตอนนี้มันเปลี่ยนไปไหม
มุมมองความรักของผมจาก 9 ปีจนถึงตอนนี้ผมมองอย่างเข้าใจมากขึ้นเพราะว่าเรื่องราวความรักที่มันจบไปก็คือเรามองเห้นแล้วว่าปัญหามันเกิดจากอะไรอาจจะเกิดจากตัวเอง หรือว่าเกิดจากตัวคนรักของเราก็แล้วแต่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ผมจะเลือกจำแต่สิ่งที่มันสวยงามโมเม้นท์ดีๆ เรื่องเราที่มันไม่ดี เรื่องราวที่เราเคยทะเลาะกันก็อโหสิกรรมกันไปและลืมมันไปไม่เป็นไร
จนถึงวันนี้เราคิดมั้ยว่าเพลงของเราจะเป็นเพลงที่มีคนฟังทั้งประเทศ
ไม่คิดเลย (หัวเราะ) เพราะว่าตอนนั้นเราแต่งให้แฟนคนเดียวแล้วตอนนั้นก็ปล่อยลง Youtube เหมือนกันเป็นเวอร์ชั่นแจ๊ส ซึ่งมันจะฟังค่อนข้างยากสำหรับคนทั่วไปแล้วยอดวิวมันก็ขึ้นแค่หลักพันแต่พอเรามาร้องในรายการคนก็ตามเข้าไปฟังจากหลักพันไปสู่หลักแสนวิว เราก็เซอร์ไพร์เหมือนกัน(ยิ้ม)
อยากจะให้เพลงของเราสื่ออะไรอีก นอกจากฟังเพื่อความไพเราะ
อยากจะสื่อชัดๆเลยก็คือความรักนะครับทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่สวยงาม เพราะฉะนั้นถ้าเราเลือกมองเรื่องราวดีๆ เลือกจดจำภาพดีๆมันก็จะทำให้เรามีความสุขถ้าเราไปจมอยู่กับอะไรที่มันแย่ๆเกี่ยวกับความรักของเรามันก็จะทุกข์ไปเปล่าๆ และเราก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ บางคนที่เคยอกหักแบบนี้ก็จะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร เพราะว่าเขาจะตั้งคำถามในใจว่าทำไม เพราะอะไร ต้องเป็นเพราะเธอแน่เลย คนเราอาจจะไม่ค่อยโทษตัวเอง แต่เราเลือกที่จะปล่อยวางแล้วก็ไม่โทษใครจะดีกว่าแล้วก็มองเรื่องที่ดีๆแล้วกันมันก็จะเป็นแรงผลักดันให้ผมมาถึงจุดนี้ได้นะ ไม่ใช่ว่ามองโลกสวยนะแต่ว่ามองอย่างเข้าใจก็เข้าใจนะว่าคนที่มองเราว่าเราโลกสวยเขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นแต่ชีวิตเราก็ดำเนินมาด้วยดีเขาก็เห็นเพราะฉะนั้นถ้าเราทำอะไรที่บวกก็ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นบางที่ปล่อยวางไปได้ก็จะดีครับ
แนวเพลงที่อยากลองทำหรือคิดว่าท้าทายคือเพลงแนวไหน
ถ้าส่วนตัวเลยนะครับผมชื่นชอบแนวร็อค แต่ว่าค่อยรอลุ้นกันในโปรเจกต่อไป แต่ว่าคราวนี้อยากให้คนยอมรับและชื่นชอบในผลงานของเราในวงกว้าง ผมก็เลยอยากทำแนว Brit Rock เริ่มต้นไปก่อนให้คนรู้จักเราก่อน
แบบนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่วงการเลยหรือเปล่า
ถ้าอย่างเป็นทางการก็คือก้าวแรกครับที่เข้ามาอย่างเต็มตัว ก็รู้สึกดีใจมากครับที่ผู้ใหญ่ได้มองเห็นตัวตนของเราและเปิดโอกาสให้กับเราสักที
เป็นศิลปินเต็มตัวแล้วรู้สึกยังไงบ้างและต้องปรับตัวยังไง
ผมคิดว่าผมต้องปรับตัวเยอะครับ เพราะว่าเรายังถือว่าเรายังใหม่มากในวงการนี้ แล้วเราอยู่ต่างจังหวัดด้วย อยู่นครราชสีมา ซึ่งก็ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ณ ตรงนี้เยอะๆและก็ต้องสร้างคอนเนคชั่นเยอะๆ พร้อมที่จะทำงานร่วมกับคนอื่นและเปิดใจให้กว้างๆ
ความสุขของการฟังเพลงสักเพลงนึงอยากฟังเพลงที่มีเนื้อหาแบบไหน
อย่างเพลง 9 ปีเป็นเพลงเฉลิมฉลองให้กับความรักครบรอบ 9 ปี ก็สุขสมหวัง เพลงหน้าอาจจะเป็นเพลงอกหักก็ได้ หรือว่าในมุมมองความรักที่ไม่ใช่ตัวเรา เราจะเป็นบุคคลภายนอกที่มองความรักของคนอื่น ในเเง่เศร้าๆ ก็ต้องลองติดตามครับ (หัวเราะ)
สิ่งที่ยากสำหรับนักแต่งเพลงคืออะไร
สิ่งที่ยากก็คือ.. เราจะเเต่งเพลงยังไงให้เราชอบด้วยแล้วคนฟังชอบด้วย อันนี้คือสิ่งที่ยาก (หัวเราะ) เพราะว่า อย่างสิ่งที่เราชอบอะ ส่วนใหญ่เลยจะเป็นอีกแบบนึง ต่างจากคนทั่วไป ศิลปินส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นนะ (ยิ้ม) แต่ถ้าเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้วก็ต้องทำความเข้าใจว่ามันคือธุรกิจเพลง มันก็ต้องไปตามกระเเส ยิ่งช่วงนี้ก็กระเเสโซเซียลเน็ตเวิร์คมาเเรง บางคนมองว่ากระเเสดนตรีช่วงนี้มันเเย่ มันซบเซาจริงๆมันไม่แย่ จริงๆมันเป็นสีสันมากกว่าผมว่า แค่มันมีให้เลือกเยอะ(หัวเราะ) และหาฟังได้ง่ายขึ้น
ส่วนตัวคิดอย่างไรบ้างที่สมัยนี้มีการดาวน์โหลดเพลงซึ่งแต่ก่อนเราซื้อเทปคาสเซ็ท
มันต่างแน่นอนๆ(ยิ้ม) เพราะว่าผมเกิดยุคเทป(หัวเราะ) เสน่ห์ของยุคเทปยุคซีดีมันมีเสน่ห์อยู่เเล้ว ศิลปินออกเพลงเป็นอัลบั้มเเละเพลงจะเต็มอัลบั้มเลย เราจะมีหน้าปกเทป หน้าปกซีดีเอาไว้มาอ่านเครดิต อ่านเนื้อเพลงข้างใน แล้วมีภาพมีโปสเตอร์สวยๆให้เราดู เราก็ฟังเพลงเเล้วนั่งจิตนการ เราสามารถฟังเทป ฟังซีดีได้ทั้งอัลบั้มและวันละหลายๆรอบ อันนี้คือ เสน่ห์ แต่ยุคนี้ไม่มีเเล้ว ยุคนี้หาฟังง่ายและฟังได้แปบเดียว คนก็เบื่อแล้วทำให้การแข่งขันมันค่อนข้างสูง อาจจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันนะผมว่า
ถ้าให้เเต่งเพลงเร็วอยากจะทำเนื้อหาเพลงเกี่ยวกับอะไร
อืม…จริงๆเพลงเร็วก็จะต้องมีเเหล่ะครับ เนื้อหาที่คนทั่วไปน่าจะชอบ น่าจะเข้าถึงง่าย เนื้อหาอาจจะเกี่ยวกับความรักมันจะต้องมีสักเพลงน่าจะเป็นแนวสมหวังหรือรักข้างเดียวหรือว่าแอบชอบอะไรอย่างนี้ อยากจะให้ฟิวกู๊ดมากกว่า
เพลงสนุกๆมันคือตัวตนเราไหม
หลายๆคนจะมองผมว่า หม่นเศร้า ซึ่งจริงๆผมก็ไม่ใช่คนสนุกสนานแบบเต้นอะไรมากมาย ถ้าดนตรีสนุกไม่น่าจะต้องเต้น(หัวเราะ) ฟังเเล้วโยกได้ ฟังเเล้วยิ้ม
ฝากผลงานกันหน่อย
ขอฝาก Kazz magazine ด้วยนะครับ ที่ผลักดันศิลปินตัวน้อยๆ (หัวเราะ) และก็ฝากถึงแฟนๆนะครับ ซิงเกิลเพลง 9 ปี ของเอส ชัยณรงค์ ศิลปินหน้าใหม่ในนามของ ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค ไทยเเลนด์ ครับ สามารถรับฟังได้ทุกช่องทาง ในDeezer , Joox , Apple music , itunes