EXCLUSIVE TALK WITH NOEY BNK48
= FACT =
” ตอนที่เห็นหนูเต้นเหมือนเราก็พัฒนามาเรื่อยๆจนทำให้คนเริ่มเห็นคาแรกเตอร์ในตัวเราจากหนูที่ไม่ค่อยพูดตอนนี้หนูก็สามารถพูดมากขึ้น พอยิ่งดังเราก็ต้องยิ่งรู้สึกกังวลนะ สำหรับหนู (ยิ้ม) ถึงจะมีคนซัพพอร์ตเราเยอะ แต่ว่าเราก็ต้องทำให้ดีขึ้นไปด้วย “
= BNK48 คืออะไร =
ไม่รู้อะไรเลยค่ะ แม้แต่เรื่องของวงพี่หนูก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าคนที่ดังที่สุดของวงนี้คือใคร ไม่รู้ว่าเพลงของวงนี้เป็นยังไง ไม่รู้ว่ากิจกรรมของวงนี้คืออะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวงนี้ในประเทศไทยจะเป็นยังไง เหมือนเราเข้ามาเพราะว่าอยากเต้น แค่นั้นจริงๆ มันแปลกมาก หนูคิดว่า เฮ้ย มันจะอยู่ได้ไหมในประเทศไทย อย่างเรื่องถ่ายรูป อย่างพี่ณเดชน์ พี่อั้ม เขาเป็นดาราระดับที่อย่างนั้นแล้ว เขายังถ่ายรูปได้ แล้วเรายังเป็นเด็กที่เพิ่งมาใหม่ เราถ่ายไม่ได้ หนูกลัวมากตอนนั้น แต่ว่าพอเราได้ไปออกสื่อ เราจะเน้นพูดกฎแบบนี้ว่าเป็นทางของญี่ปุ่นนะ ก็โยนไปว่าเนี่ยเป็นกฏของทางญี่ปุ่น (ยิ้ม) เวลาเจอคนข้างนอกก็ต้องบอกว่า ขอโทษ เป็นกฎของทางบริษัท แรกๆ เขาก็ไม่เข้าใจ เขาก็จะทำหน้าว่าเราหยิ่งหรือเปล่า แต่พอตอนนี้เริ่มออกสื่อเยอะ กฎนี้จะเริ่มกระจายแล้วว่า เอ๊ย ห้ามถ่ายนะคะ เขาจะเข้าใจ
= เรื่องที่ไม่กล้าที่สุดที่เอาชนะมาได้แล้ว =
เรื่องพูดไม่เชิงไม่เป็นตัวเอง แต่หนูไม่กล้ามากกว่าค่ะ ไม่กล้าที่จะพูดออกมา หนูกลัวว่าสิ่งที่หนูพูด บางทีแต่ก่อนเลยนะ หนูจะคิดว่าหนูจะตอบได้ไหม หนูจะคิดทันไหม คือมันจะกังวลไปหมดว่าคนที่เขาฟังเรา เขาจะสื่อความหมายไปในทางไหน กลัวเขาเข้าใจเราผิด มันคิดไปหมด แล้วเราจะไม่กล้าพูดค่ะ เรื่องเต้นนี่แหละค่ะ ถึงหนูจะชอบ แต่อย่างที่บอกว่าหนูไม่เคยเต้นต่อหน้าคนเยอะๆ ตอนแรกหนูจะสั่น อย่างร้องเพลงก็เหมือนกัน แต่ว่าพอช่วงงานเดบิวต์ เรารู้สึกว่า เฮ้ย นี่คืองานเดบิวต์ เราอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราเจ๋งขนาดไหน เพราะว่าเราเก็บตัวมาตั้งนานกว่าจะถึงวันเปิดตัวใช่ไหมคะ เต้นเต็มที่เลย (ยิ้ม) เรายืนอยู่บนเวทีได้โดยไม่สั่น แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วทุกคนยิ้มกลับมา มีความสุขกับโชว์ของเรา
= ประทับใจที่สุด =
สำหรับหนูเป็นเหมือนการได้อ่านจดหมายหรือคำพูดที่เขาสื่อกลับมามากกว่า อย่างที่เล่าให้ฟังว่า คำว่า เขาอยู่ข้างๆ เรานะ เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง เขาจะปกป้องเรานะ การได้สื่อสารอย่างนี้ เราสัมผัสได้ว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เวลาจับมือ ได้มองตา เขาร้องไห้กับเรา เขาเห็นเราร้องไห้เขาก็ร้องไห้กับเรา เขารู้ว่าเราเศร้าเขาก็เศร้าไปด้วย โอ้โฮ อันนี้สุดๆ แล้วค่ะ อย่างใกล้จะวันเกิดหนูก็จะมีแฟนคลับเข้ามาถามว่า วันเกิดอยากได้อะไร คนอื่นจะมีป้ายติดบอร์ด เขาก็จะถามว่า อยากได้ไหม อยากได้อย่างนี้ไหม (ยิ้ม) พอเจอหน้าเราก็จะบอกว่า เอาจริงๆ อะ เอาแค่จดหมายหรือว่าบอกความรู้สึกที่มีต่อเราก็โอเคแล้ว เราไม่ต้องการที่เป็นรูปธรรมะไรขนาดนั้น การที่เขาต้องมาเสียตังค์เยอะๆ บางทีหนูก็ไม่ได้สบายใจ เพราะอย่าง BNK48 ออกโฟโตเซตเยอะมาก เขาต้องซัพพอร์ตเราค่อนข้างเยอะ หนูอยากให้เขาซัพพอร์ตเราในส่วนที่เขาสะดวก สบายใจทั้งฝ่ายค่ะ (ยิ้ม)
= เป็นไอดอลที่ดีแล้วหรือยัง =
ยังค่ะ ตั้งแต่ที่ผ่านมา จุดที่พัฒนามาเรื่อยๆ คือตั้งแต่แรกหนูจะไม่ค่อยกล้าพูดเลย ไม่ค่อยกล้าแสดง อย่างพี่ๆ AR จะเคยบอกหนูว่าแทบจะจำชื่อหนูไม่ได้เลย จะเห็นหนูได้จากตอนที่หนูซ้อมเต้น ว่าจำได้ว่าคนนี้ เออ คือเนยนะ ตอนที่เห็นหนูเต้น เหมือนเราก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนทำให้คนเริ่มเห็นคาแรกเตอร์ในตัวเรา จากหนูที่ไม่ค่อยพูด ตอนนี้หนูก็สามารถพูดมากขึ้น กล้าเล่นมากขึ้น แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้แบบ… โห เราเป็นเด็กที่เพิ่งโตมาเองน่ะค่ะ อยากให้ทุกคนมองพัฒนาการของเราไปเรื่อยๆ มากกว่า
= ร่วมเวทีกับศิลปินรุ่นใหญ่ =
อันนี้รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้มีโอกาส เพราะว่าเราได้ดูการแสดงสดๆ ของพวกเขา มันต่างจากการดูในทีวีมาก เราได้เห็น Performance ของเขา แล้วพวกพี่ๆ เขาเป็นมืออาชีพจริงๆ มากค่ะ อย่างตอนไป The Mask Singer แล้วร้องสด หนูได้นั่งดูตอนรอบซ้อม หนูรู้สึกว่า นี่สินะ คือมืออาชีพ (ยิ้ม) ซึ่งต่างกับเรามาก (หัวเราะ) เราอยากจะมีโอกาสที่มากให้เราได้เป็นมืออาชีพเหมือนพวกรุ่นพี่ เหมือนให้เราได้ดูเป็นประสบการณ์ แล้วค่อยเดินตามค่ะ
= โชว์ให้รุ่นพี่ =
ตอนแรกกดดันมากค่ะ เขาเป็นนักร้องถูกไหมคะ ที่เก่งมากกันทั้งนั้น ทีนี้เขาจะฟังออกแล้วว่าเฮ้ยอันนี้เพี้ยนนะ เขาจะฟังออก เรากังวลมาหลังเวทีว่า เฮ้ย แล้วถ้าเขารู้ เหมือนเราก็จะเขินๆ หน่อยๆ เพราะเราก็ไม่ได้ร้องแข็งแรง แล้วก็เต้นด้วย เสียงมันก็จะแกว่งๆ (หัวเราะ) แต่ว่าพอออกไปจริงๆ แล้ววงเราต้องทำให้เขาดูเห็นว่าวงเรามีอะไรดี อย่างน้อยก็เต้น เพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดี ความน่ารักสดใสที่เป็นคาแรกเตอร์ของวงเราให้เขาเห็นค่ะ
= เรื่องที่เหนื่อยที่สุด ท้อ =
มันเคยมีช่วงแรกๆ ที่ หนูจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการซ้อม หนูชอบ ชอบเต้นไงคะ (ยิ้ม) ไม่ได้เครียดขนาดนั้น แต่ว่าที่หนูจะเครียด เหมือนกันว่าปัญหาภายนอกมากกว่า อย่างบางครั้งที่หนูเคยเจอปัญหาที่ บางคำพูดที่แฟนคลับเขาไม่เข้าใจเรา หรือว่าสื่อความหมายที่ไม่ถูกต้อง เอาล่าสุดที่หนูเคยเจอมา มันเป็นช่วงที่หนูเป็นวัยรุ่น มันก็มีคำพูดที่ไม่ได้เป็นคำหยาบคายนิดนึง (ยิ้ม) เหมือนเขาก็มอง อย่างหนูอยู่ในวงใช่ไหมคะ มันก็จะเป็นมุมแบบนี้ (ยิ้ม) เขาก็จะคิดว่าหนูไม่พูดคำหยาบเลย ทั้งๆ ที่หนูอยู่กับเพื่อนหนูก็จะเป็นเด็กปกติทั่วไป แค่รู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ เราควรวางตัวยังไง อย่างเราอยู่กับผู้ใหญ่ เราก็เป็นแบบนี้ เราอยู่กับเพื่อนเราก็เป็นอีกแบบนึง แต่แบบว่าแฟนคลับบางกลุ่มอาจจะไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้ เขาก็จะมีกระแสแบบนั้น หนูก็เครียดมาก เพราะหนูยังไม่เคยเจอแบบนั้น เศร้ามากเลย แล้วก็กดดันมาก ว่าเขาจะมองเรายังไง แต่ว่าช่วงงานจับมือ หนูก็ได้มีโอกาสเจอกับพวกเขา ได้มีโอกาสคุยกับพวกเขาว่ามันเป็นยังไง หนูก็ขอโทษ ที่ผ่านมาเรายังเด็ก ก็อธิบายให้เขาฟัง (ยิ้ม) ประโยคนึงที่เขาตอบกลับมาประมาณว่า เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง มันเป็นเรื่องปกติ เขาปกป้องอยู่ น้ำตาแตก (ยิ้ม) อันนี้เป็นรอบพิเศษที่รวมบัตร ตอนแรกหนูคิดว่าจะไม่ร้องไห้ แต่งหน้ามา ถ้าร้องไห้เดี๋ยวหน้าหนูเยิ้ม แต่สุดท้ายไม่ไหวเลย พอเราได้พูดสิ่งที่เราไม่สามารถพูดได้ในไอจี พอมันได้เจอหน้าน่ะค่ะ แล้วเหมือนเขาได้รับรู้ว่าเรารู้สึกยังไง เขาก็ให้กำลังใจ แล้วแบบกุมมือเรา แล้วบอกว่า เขาปกป้องอยู่นะ ไม่ต้องกังวล อย่างร้องไห้ มันยิ่งทำให้เราขอบคุณมากๆ
= ซีดีบีเอ็นเค =
อันนี้ดีใจค่ะ บ้านเราก็ไม่ค่อยซื้อแผ่นกันใช่ไหมคะ ก็จะโหลดฟังกัน แต่ว่าตอนนี้เราก็ทำให้การซื้อแผ่นมีมากขึ้น หนูก็รู้แหละค่ะว่าเขาซื้อเอาบัตรจับมือ (หัวเราะ) แต่ว่าสุดท้าย ผลลัพธ์ก็คือแผ่นขายดีมากขึ้น แล้วหนูก็หวังว่ามันจะทำให้คนซื้อแผ่นศิลปินท่านอื่นๆ มากขึ้นด้วยค่ะ ให้คนเห็นคุณค่าว่ามีแผ่นมันก็ดีนะ มันเป็นความทรงจำนะ
รู้สึกตกใจ (หัวเราะ) ตกใจมากเพราะว่า อย่างคุกกี้ออกมาแรกๆ ก็ยังไม่ได้เป็นกระแสเท่านี้ คุกกี้เพิ่งมาเป็นกระแสช่วงหลังๆ นี่เอง ที่เริ่มมีพี่ๆดาราเอาไปเต้น อยู่ๆก็ฟึ่บขึ้นมา ก็ตกใจ (ยิ้ม) และก็ดีใจมากค่ะ ว่า เอาจริงๆ แบบ ตั้งแต่คณะผู้บริหาร พี่ๆ ทีมงาน พี่ๆ สตาฟทุกคนๆ ทำงานกันหนักมาก รวมถึงพวกเราที่ซ้อมหนักมาก มันเป็นความรู้สึกที่ เฮ้ย ภูมิใจนะ ที่เราทำถึงขนาดนี้แล้วมันเห็นผล
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 143 ฉบับเดือน มิถุนายน
หรือดาวน์โหลด E-Book