หลังจากที่ทำให้แฟนละครติดงอมแงม และหันไปแต่งชุดไทยตามนักแสดงในละคร “บุพเพสันนิวาส” จนเกิดกระแสออเจ้าฟีเวอร์มาแล้ว ก็ทำให้แฟนๆเรียกร้องกันหนักมากที่อยากให้มี บุพเพสันนิวาส 2 ซึ่งผู้จัดคนเก่งอย่าง “หน่อง” อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ก็ไม่รอช้าได้จัดไปตามคำขอ วางแพลนลุยทำละครภาคต่อ “บุพเพสันนิวาส” ทันที โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “พรหมลิขิต”
ซึ่งผู้เขียนบทประพันธ์ในละครพรหมลิขิต คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “รอมแพง” หรือคุณ “จันทร์ยวีร์ สมปรีดา” นั่นเอง และคู่พระ-นางอย่างพี่หมื่น “โป๊ป” ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และแม่การะเกด “เบลล่า” ราณี แคมเปน ก็ยังคงเป็นนักแสดงหลักของเรื่อง
ล่าสุด “รอมแพง” ได้ออกมาเรียกเสียงฮือให้ให้กับแฟนละครไม่น้อย ที่เจ้าตัวได้เปิดเผยเนื่องเรื่องบที่ 1 ของ “พรหมลิขิต” ที่เป็นภาคต่อของละคร “บุพเพสันนิวาส” ในเฟซบุ๊กรอมแพง ให้แฟนๆได้อ่านเรียกน้ำย่อยกัน พร้อมเผยว่า มีการปรับเปลี่ยนชื่อพระเอกตามข้อมูล ส่วนคาแรคเตอร์ของนางเอกเป็นคนรักสวยรักงาม
“สวัสดีค่า ไม่ได้อัพเดทอะไรเลยนานมากกก ตอนนี้คุณแม่พักฟื้นจากเส้นเลือดในสมองตีบจนอาการดีขึ้นมากแล้ว และกำลังเขียนพรหมลิขิตอย่างยากกกมากเลยค่ะ เลยเอามาให้อ่านกันสักหน่อย คงให้อ่านได้แค่5ตอนนะคะ พอให้คนรอใจชื้นว่าไม่ได้หายไปไหน มีปรับเปลี่ยนจากที่เคยเอาให้อ่านพอสมควรเลยค่ะ ชื่อพระเอกก็เปลี่ยนตามข้อมูลที่ค้นคาแรคเตอร์นางเอกให้แค่รักสวยรักงาม เชิญอ่าน ณ บัดนี้คร้าบบบ”
บทที่1
เด็กหญิงตัวจ้อยมองเงาข้างทางพลางขมวดคิ้ว เงาพร่าเลือนยามพลบค่ำทำให้ร่างที่เธอมองเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็เป็นเช่นนี้มาสามครั้งสามครา เงานั้นแต่งกายแปลกตาเหมือนใส่แค่ผ้าพาดบ่า ส่วนท่อนล่างก็คล้ายผ้าถุงผ้าซิ่นแต่ก็ดูประหลาดจนเธอต้องร้องบอกพ่อแม่ที่นั่งคู่กันอยู่ด้านหน้า
“แม่คะๆ ใครไม่รู้แต่งตัวแปลกๆยืนมองเราจากข้างถนนค่ะ” เสียงใสของเด็กวัย8ขวบฟ้องแม่ แม้ว่าเงานั้นจะไม่ชัดเจนแต่กลับส่งกระแสประหลาดที่ทำให้เธออึดอัด
“อะไรลูก พูดอะไรเหลวไหลอีกแล้วนะ” วิภาวรรณกล่าวพลางมองหน้าปัดแสดงผลของการเร่งความเร็วที่เกือบ100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“ขับช้าๆหน่อยก็ได้ค่ะคุณ เหนื่อยไหมคะ” เมื่อเห็นแววล้าของสามีที่เหน็ดเหนื่อยจากการตื่นเช้าพาเธอและลูกไปทำบุญวันเกิดที่วัดป่าห่างไกลชุมชนแล้วยังต้องมางานแต่งงานของลูกน้องคนสนิทต่อก็อดไม่ได้ที่จะถามและบ่นเบาๆ
“บอกให้นายกิตมาขับรถก็ไม่ยอมจะขับมาเองเป็นไงล่ะคะ ถ้ายังไงเราหาที่พักแถวนี้ก่อนดีไหมคะคุณ”
“ไม่ล่ะอยากกลับให้ถึงบ้านเร็วๆ” ชัยมิตรยิ้มน้อยๆและตั้งใจขับรถยนต์ต่อไป
“วันนี้ดีจังเลยนะคะบังเอิญได้พบคุณป้าสิปางค์ที่วัด ไม่น่าเชื่อว่าท่านมาบวชวัดนี้ตั้งนานแล้ว แต่เรากลับไม่รู้เรื่องเลยทั้งที่เราก็มาวัดนี้ออกจะบ่อย” วิภาวรรณชวนสามีคุยเพื่อให้เขาตื่นตัวเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นไม่ยอมพักแน่แล้ว
“อืม”
“น่าสงสารท่านนะคะยัยเกดไม่น่าบุญน้อยเลย นี่ก็เสียไปร่วมๆห้าปีแล้วสินะคะ พระเรืองก็คงบวชไม่สึกแน่นอนแล้ว” วิภาวรรณกล่าวเหมือนรำพึง คำบอกเล่าจากหญิงรับใช้ที่ตามมาดูแลสิปางค์ที่บวชเป็นแม่ชียังคงชัดอยู่ในความทรงจำ
‘พระเรืองท่านเสียใจมากตอนที่คุณเกดตาย ท่านรักของท่านมาก แต่ตอนนี้คงคลายเศร้าไปได้แล้วยังไงไม่ทราบค่ะก็ยังยืนยันว่าจะบวชไม่สึก คุณยายนวลท่านก็เป็นโยมอุปปัฏถากจนสิ้นไปอีกคน หลวงพ่อของคุณเกดก็สิ้นไปเมื่อสามปีที่แล้วเหลือแต่คุณสิปางค์ท่านก็เลยขายบ้านมาอยู่วัดเป็นการถาวรแบบนี้ล่ะค่ะ ดิฉันก็เห็นดีอนุโมทนาด้วยก็เลยตามมาอยู่ด้วยคน’……………
ส่วนแฟนละครคนไหนอยากอ่านเนื้อหาฉบับเต็มบทที่ 1 ของ “พรหมลิขิต” ก็ตามไปอ่านได้ที่เฟซบุ๊กรอมแพง นะคะ
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก รอมแพง