“ตรี-เน๋ง” 2 พระเอกหนุ่มกับการฟาดฟันศึกสายเลือดใน “ภาตุฆาต”

ช่องวัน 31 ส่งละครแอ็กชันดรามาฟอร์มยักษ์ “ภาตุฆาต” พบการฟาดฟันของ 2 พี่น้องร่วมสายเลือด กับการขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกของ ตรี- ภรภัทร ศรีขจรเดชา และเน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล มาประชันบทบาทด้วยกันครั้งแรก ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกหลายท่านที่จะมาเชือดเฉือนอารมณ์อีกด้วย เสนอเป็นตอนแรกในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ทางช่องวัน31

KAZZ   MAGAZINE มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ 2 พระเอกหนุ่ม “ตรี-เน๋ง” มาแชร์เรื่องราวการแสดงละครเรื่องภาตุฆาตในครั้งนี้อีกด้วย บทสัมภาษณ์สนุกสนานแค่ไหน เชิญอ่านได้เลย

คาแรกเตอร์ที่ได้รับในเรื่อง “ภาตุฆาต”

ตรี : ผมรับบทเป็น “รวิศ” ครับ เป็นทหารอากาศ มีความตั้งใจที่จะเป็นทหารอากาศมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนที่มีความแน่วแน่ จริงจังกับชีวิต สามารถตายแทนทุกคนในประเทศได้ เพราะการเป็นทหารเราต้องเสียสละ ปกป้องแผ่นดินและทุกคนอยู่แล้ว การที่เรามีชีวิตอยู่ก็อยากจะทำอะไรให้ตัวเองมีคุณค่า ไม่ใช่ตายไปโดยเปล่าประโยชน์ ถือเป็นคนที่มีความตั้งใจ มีความพยายามในชีวิต อยากทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานครับ

เน๋ง : ผมรับบทเป็น “ศศิน” ครับ เป็นลูกคุณหนู โตมาในครอบครัวหม่อมราชวงศ์ และเป็นทหารด้วย คุณพ่อก็เป็นทหารยศนายพล คุณพ่อซึ่งรับบทโดยพี่กบ ทรงสิทธิ์ เขาจะเลี้ยงเราแบบทหาร ส่วนคุณแม่ที่รับบทโดยพี่รัดเกล้า อามระ เขาจะเลี้ยงเราแบบลูกคุณหนู คือคุณพ่อจะเลี้ยงแบบปล่อยหน่อย ให้ไปเผชิญชีวิตเอง ส่วนคุณแม่จะเป็นสายประคบประหงมเหมือนไข่ในหินเลย พอโตขึ้นมาเราก็อยากจะเป็นทหารเหมือนคุณพ่อ คุณลุง และคุณปู่ แต่ก็จะมีความเป็นคุณหนูบ้างในบางเรื่องเหมือนกัน เหมือนมีบุคลิกแบบทหาร แต่ก็ยังมีความเอาแต่ใจ ทำอะไรตามอารมณ์ตัวเอง อะไรที่คิดว่าดีเราก็จะทำ อะไรแบบนี้ครับ

การเตรียมตัวสำหรับการรับบท “รวิศ”

ตรี : ก็มีการเวิร์กช็อปกับทหารจริงๆ มีการพูดคุยกับทหารจริงๆ และก็มีการฝึกซ้อมบทแอ็กชัน ฝึกซ้อมการใช้สลิง เรียนรู้ภูมิหลังและเรื่องราวของตัวละครด้วยครับ

การเตรียมตัวในการรับบททหาร

เน๋ง : เยอะเลยครับ เพราะว่า หนึ่ง เราต้องเล่นเป็นหม่อมหลวง สอง ต้องเล่นเป็นทหาร ทุกอย่างมันต้องเตรียมตัวหมด เพราะสิ่งที่เราเป็นในชีวิตประจำวัน เราใช้ในละครไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมารยาททางสังคม วิธีการจับช้อนทานข้าว หรือบุคลิกท่าทางต่างๆ เราต้องศึกษาใหม่หมด ทหารเขายืนตรงยังไง เวลาเดินเลี้ยว เลี้ยวยังไง ก็มีไปศึกษาเพิ่ม และอีกอย่างเราต้องเป็นนักบินด้วย เราก็ต้องศึกษาว่าบินยังไง ต้องทำการบ้านเยอะเลยครับ

เรื่องที่มีความกดดันมากที่สุดสำหรับตรี

ตรี : ในตอนแรกยังไม่รู้ว่าการเป็นทหารมันเป็นยังไง กดดันไหม ทหารเขาต้องทำอะไรบ้าง ใช้ชีวิตแบบไหน แต่พอเราได้ทำการเวิร์กช็อปกับพี่ทหารจริงๆ เราก็ได้รู้ว่าทหารต้องทำยังไง ทหารเขาคิดยังไง เขาไม่ได้คิดเหมือนเราทุกอย่าง เราเคยคิดว่า “ทหารต้องเป็นแบบนี้ๆ” แต่พอเราได้เรียนรู้กับพี่เขาจริงๆ ก็ได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไป

สิ่งที่กดดันที่สุดในการแสดงละครเรื่อง “ภาตุฆาต”

เน๋ง : กดดันมากที่สุดก่อนมาแสดง เพราะเรื่องนี้ได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก เราเป็นตัวดำเนินเรื่อง ทำให้มีความกังวลค่อนข้างมาก เราต้องเข้าฉากกับผู้ใหญ่เยอะด้วย ก็กดดัน ถ้าเราทำไม่ได้ งานมันก็จะล่าช้า รู้สึกว่าไม่อยากเป็นตัวถ่วงครับ

พัฒนาการที่ได้รับจากละครเรื่องนี้

ตรี : ด้านการแสดงก็มีพัฒนาการเรื่องการแสดงที่ดีขึ้นครับ เพราะว่าละครเรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์มาก คอนเซปต์ของเรื่องนี้คือการเป็นทหารอยู่แล้ว แต่ว่าชีวิตของนักแสดงไม่ใช่แค่การใส่ชุดทหารเพื่อเป็นทหาร เราต้องเรียนรู้ในหลายๆ เรื่องครับ การต้องพบเจอกับผู้คน หรือการเข้าฉากกับตัวละครอื่นในเรื่อง มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยว่าเราไปเจอใคร เจอผู้ใหญ่ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เจอคนทั่วไปในชีวิตประจำวันเราก็เป็นอีกแบบหนึ่งครับ

“รวิศ” เปลี่ยนแปลงความคิดบางอย่างของเรา?

ตรี : ผมยังไม่เคยเล่นเป็นทหาร พอได้เล่นเป็นทหารก็รู้สึกถึงความภาคภูมิใจ ทหารเป็นบุคคลที่มีเกียรติ ทหารมีความภาคภูมิใจที่ได้รักษาประเทศ ได้ช่วยชีวิตคน ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องประชาชน ก็ถือเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตให้เราได้ด้วย ทำให้เรามีความภูมิใจในหน้าที่การงาน เห็นคุณค่าและภูมิใจในอาชีพของเรา รักอาชีพของเรา ไม่ต่างจากการเป็นทหารที่รักในหน้าที่การงาน รักประชาชน เหมือน “รวิศ” มาช่วยกระตุ้นให้ชีวิตจริงของเราเกิดความรัก ความภูมิใจ และใส่ใจในอาชีพนักแสดงของเรามากขึ้นมากกว่า ไม่ถึงขั้นเข้ามาเปลี่ยนแปลงความคิดของเราครับ

ความแตกต่างของบทที่เคยได้รับกับบททหารในครั้งนี้

เน๋ง : เรื่องที่ผ่านมา ผมเล่นละครเรื่องนางสาวไม่จำกัดนามสกุล มันก็จะต่างจากเรื่องนั้นค่อนข้างมาก เพราะเรื่องนั้นเป็นบทที่ไม่ไกลตัวเรามาก เล่นเป็นเด็กฝึกงาน เด็กมหา’ลัย ซึ่งช่วงนั้นเราก็เพิ่งเรียนจบมาด้วย ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างจากตัวเรามากเท่าไร อาจจะมีบางอย่างที่ต่างก็คือ “เจ็ท” ในเรื่องนางสาวไม่จำกัดนามสกุล เขาจะเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดเลย แต่ตัวจริงของเราไม่ใช่แบบนั้น พอมาเรื่องภาตุฆาตก็รู้สึกว่าค่อนข้างไกลตัวมากพอสมควร เพราะเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นคนที่รวยมาก เป็นเจ้า ต้องทำการบ้านเยอะมากๆ เลยครับ

สิ่งที่เน๋งได้จากการเล่นละครเรื่อง “ภาตุฆาต”

เน๋ง : เยอะเลยครับ แต่หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องการแสดง ผมรู้สึกว่าผมได้เรียนรู้เยอะมากครับ ตั้งแต่คิวแรกจนถึงคิวสุดท้ายที่เราถ่ายกันมา รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกกับมัน เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวละครนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราทำการบ้านตลอด ไปที่ค่ายทหารอยู่เสมอ เราก็จะเห็นว่าทหารเดินยังไง เขามีวินัยมากๆ แต่พี่ทหารก็ไม่ได้เคร่งตลอดเวลาขนาดนั้นนะ เขาจะเป๊ะแต่ก็ไม่ได้เป๊ะแบบเกร็งๆ

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ทางนิตยสารเล่มที่ 159 เร็วๆ นี้



สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 157 ได้ที่