สนุกสุดประทับใจกันไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับคอนเสิร์ตที่รวมศิลปินทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก๋า บนเวทีคอนเสิร์ตเดียวกันของค่ายเพลง LOVEiS ENTERTAINMENT ที่มีชื่อว่า LOVEiS HOMECOMING CONCERT
โดยมี แสตมป์ อภิวัชร์, ตู่ ภพธร, ลิปตา มาเรียกน้ำย่อยของสาวๆได้มาละลายต่อมฟิน และได้มาสวมบทหมอเป้งในเพลงรักติดไซเรนกันด้วย ต่อด้วย แว่นใหญ่ และ โมนิค ที่ขนเพลงดังมาร้องให้หลายคนได้ฟังและได้ร้องตามรวมไปถึงช็อตเด็ดที่เพลง บอกตัวเอง ที่ได้ พี่โอ๋ ธีร์ ไชยเดช มาเล่นกีต้าร์ให้ฟังในแบบฉบับตนเองอีกเวอร์ชั่น ทำเอาคนดูซาบซึ้งในเสียงทุ้มๆของพี่โอ๋ตามๆกัน
ต่อด้วยเพลงฮิตที่สุดของป๊อด ธนชัย อย่างเพลงบุษบาและตาสว่าง ที่ได้ แสตมป์ อภิวัชร์, คิว ฟลัวร์ และโอ แว่นใหญ่ มาร่วมร้องบนเวทีแห่งนี้ ซึ่งในตอนนั้น 4 หนุ่มทำเอาบนเวทีเดือดสุดๆไปเลย แถมโอ แว่นใหญ่ยังแต่งกายคล้าย ป๊อด ธนชัย เกือบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว เซอร์ไพร์สยังไม่หมดแค่นี้ ยังมี โป้ โยคีเพลย์บอย, กัน นภัทร, ไทรอัมพ์สคิงดอม, B5 และ น้อยพรู ที่ออกมาเซอร์ไพร์สคนดูได้เรื่อยๆอย่างสนุกสนาน ต่อด้วยวงวัยรุ่นที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้อย่าง MEAN ที่คนดูร้องตามได้ทุกเพลง
ในขณะที่วงเล่นคอนเสิร์ตอยู่ในเพลง หมายความว่าอะไร หนุ่ม พัด มือกีต้าร์ ได้เดินลงมาจากเวที ตรงไปยังที่นั่งของ มุก แฟนสาว จากนั้นได้คุกเข่าลงตรงหน้า พร้อมกับหยิบแหวนขึ้นมา แล้วบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อยากบอกว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในวันนี้ พัดคิดดีแล้วทุกอย่าง ขอโทษที่ต้องปล่อยให้ลำบากมานานกับการเป็นแฟนนักดนตรีคนหนึ่งที่ตามหาฝันอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณที่เดินข้างกันมาตั้งแต่วันที่ไม่มีอะไรเลยจนถึงวันนี้ ต่อจากนี้ถ้าจะให้เกียรติเดินทางไปด้วยกันต่อ จะถามว่าแต่งงานกับ พัด ไหมครับ” หลังจากจบประโยคนั้น ผู้ชมก็กรี๊ดลั่นไปทั้งฮอลล์ ซึ่งสาวมุกยิ้มแก้มและพยักหน้าตอบรับ เป็นการตอบตกลง ฝ่ายชายจึงได้ขออนุญาตสวมแหวน พร้อมขอกอดแฟนสาว จากนั้นก็กอดคอร้องเพลงด้วยกัน เป็นความสุขและความประทับใจกันทั้งฮอลล์
จากนั้นก็ต่อด้วยเพลงสนุกๆจากค่ายแร็พเปอร์อย่างPROM+ นำทีมด้วย อุ๋ย บุนดาเบลล์ และลูกทีม ที่มี ทศกัณฐ์ นายนะ นินิว และไข่มุก มาแร็พกันอย่างสนุกสนานทำเอาแฟนเพลงลุกขึ้นแดนซ์ชนิดนั่งไม่ติดเก้าอี้ ปิดท้ายด้วยเพลง มันคงเป็นความรัก ที่ศิลปินทุกคนมาร่วมร้องส่งความรักและความสุขให้กับผู้ชมก่อนกลับบ้านฝันดีในค่ำคืนนั้น
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 160 ได้ที่
