สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รอบโลกล่าสุดในขณะนี้ เป็นอย่างไรบ้างมาอัปเดตกันค่ะ
‘Westfalen stadium’ สนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีได้ถูกใช้เป็นศูนย์บำบัดโรค COVID-19 โดย Hans-Joachim Watzke กรรมการผู้จัดการ Dortmund และ Carsten Cramer กล่าวว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุด โดยจะเริ่มต้นใช้สถานที่ใน Westfalen stadium รองรับผู้ป่วยในวันพรุ่งนี้จะรักษาผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็น COVID-19 และผู้ป่วยที่เข้าข่ายว่าจะติดเชื้อตามที่มีอาการเกี่ยวข้อง ในขณะที่เยอรมนีมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้วกว่า 87,244 ราย
กองทัพสหรัฐจะเปลี่ยนสถานพยาบาลชั่วคราวสามแห่งในนิวยอร์ก, นิวออร์ลีนส์และดัลลัสให้เป็นสถานที่ที่สามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ในขณะที่ล่าสุดสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 258,214 ราย เสียชีวิตแล้วกว่า 6,000 ราย
ในจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่นพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 20 ราย ทำให้โรงเรียนหลายแห่งในชิบะตัดสินใจชะลอการเปิดเรียนไปชั่วคราวจนถึงวันอาทิตย์ในสัปดาห์หน้า ในขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสจำนวน 2,617 ราย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในอิตาลีมีจำนวน 119,827 มีผู้เสียชีวิต 14,681 ราย แต่ตัวเลขแสดงการเสียชีวิตและอัตราการติดเชื้อยังคงชะลอตัว จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 4,585 คนจาก 4,668 คนจากก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามในข่าวเชิงบวกแบบวันนี้เป็นวันที่ห้าติดต่อกันแล้ว ซึ่งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังคงอยู่ในช่วง 4,050-4,782 โดยรัฐบาลหวังว่าการแพร่ระบาดของโรคจะลดลงในอนาคตอันใกล้นี้
สหราชอาณาจักรเปิดสถานพยาบาลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 4,000 เตียงในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อสถานพยาบาลแห่งนี้ว่า ‘NHS Nightingale’ ใช้เวลาสร้างขึ้นเพียงไม่กี่วันโดยใช้พื้นที่ภายในศูนย์นิทรรศการและการประชุมในย่าน Docklands ของเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีสถานพยาบาล COVID-19 แห่งอื่นๆ รวมถึงสถาบันใน Bristol และ Harrogate ที่ NHS England ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในเมืองเบลฟาสต์, เบอร์มิงแฮม, คาร์ดิฟฟ์, กลาสโกว์และแมนเชสเตอร์ เจ้าชายชาร์ลส์เปิดโรงพยาบาลในลอนดอนอย่างเป็นทางการผ่านทางวิดีโอลิงค์หลังจากฟื้นตัวจาก COVID-19 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก : cnn, coronavirus.jhu.edu, dailymail.co.uk
ภาพจาก : Wikipedia, unsplash
สั่งซื้อ Kazz Magazine ได้ที่
