เรียกได้ว่ามาพร้อมความน่ารักสดใสสำหรับ “มิวสิค-จิดาภา จงสืบพันธ์” (อดีตสมาชิกเกิร์ลไอดอลกรุ๊ป SWEAT16) ที่ล่าสุดก็มีผลงานเพลงซิงเกิลแรกที่ใช้ชื่อว่า “ห่างกันไว้ก่อน” (Lover Distancing) ออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นการร่วมงานกับอือ Pandaboyz จาก THE RAPPER ที่มาแต่งเนื้อและทำนองให้ ซึ่งการทำงานเพลงในครั้งนี้มิวสิคกระซิบบอกเลยว่าทั้งกดดันและทุ่มเทสุดๆ…
ผลงานซิงเกิ้ลใหม่ “ห่างกันไว้ก่อน” (Lover Distancing)
“ตอนนี้มิวมีผลงานเพลงใหม่นะคะชื่อว่า “ห่างกันไว้ก่อน” ก็ฝากด้วยค่ะ ตอนนี้ก็มี MV อยู่ใน YouTube ทาง MSPLAY แล้วก็มีในทุกๆ สตรีมมิ่งที่ทุกๆ คนสามารถไปโหลดฟังกันได้ แล้วก็มีให้โหลดเสียงรอสายด้วยค่ะ”
ความรู้สึกของการก้าวเข้ามาเป็นศิลปินเดี่ยวแบบเต็มตัว
“กดดันมากค่ะ จำได้เลยว่าก่อนที่จะปล่อย MV ก็ทักพี่ที่ลง MV ไปว่า พี่หนูตื่นเต้นมากๆ เลย ไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน เพราะด้วยความที่เราอยู่คนเดียวด้วย ไม่มีเพื่อนๆ อยู่ด้วย เมื่อก่อนเราอยู่เป็นกลุ่มอย่างน้อยก็ยังมีแฟนคลับของคนโน้นแฟนคลับของทุกคนมาช่วยกันดู ครอบครัวแต่ละครอบครัวมาช่วยกันดู มาให้กำลังใจกันและกัน แต่วันนี้เราอยู่คนเดียว ก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง มันก็จะค่อนข้างกดดันและเครียดนิดหนึ่งค่ะ จะมีคนมาฟังไหม จะมีคนสนใจเราไหม แต่ว่าอย่างน้อยก็ยังมีแฟนคลับของเราที่เป็นแฟนคลับเก่าๆ และแฟนคลับหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาก็มีเหมือนกัน เขาก็ยังตามฟัง บอกว่าน้องมิวสิคน่ารักจังเลย เพลงเพราะนะ ก็มีฟีดแบคกลับมา ก็ยังเป็นครอบครัวที่โอเค รู้สึกอบอุ่น”
ต้องปรับตัวรับมือในช่วงสถานการณ์ COVID-19
“ออกผลงานใหม่ตรงกับช่วงโควิดพอดีเป๊ะ หนูก็รู้สึกเครียดเพราะว่าไม่เคยอัดเพลงที่บ้านมาก่อน ก็ต้องมาอัดเสียงเองที่บ้าน ก็อัดในห้องนอนมีไมค์ที่ยืมเขามาแล้วก็มาอัดเสียง คิดไลน์เสียงประสาน ไลน์คอรัสกับไลน์เล็กๆ น้อยๆ ของเพลงที่คิดว่าใส่ไปแล้วจะทำยังไงให้เพลงมันฟังดูโดดเด่นขึ้นมา ก็คือคิดเองหมด แล้วก็อัดเสียงส่งไปให้เขา ก็มีช่วงที่ต้องอัดแก้ ก็ยังดีที่เรามีประสบการณ์ทางด้านนี้มาค่อนข้างเยอะกว่าหลายๆ คน เราก็ยังไกด์ตัวเองได้ ยังพอคุมได้พอฟังแล้วมันรู้สึกว่าตรงนี้มันมนไป ตรงนี้มันแหลมไป เราก็ต้องปรับโทนให้มันเท่าๆ กัน ก็ค่อนข้างพอใจนะคะ เพราะว่าเราได้ทำอะไรเองมากกว่า ส่วน MV หนูก็คิดเองเลยว่ามันจะออกมาประมาณไหน ชุดหาเอง ถ้าจะให้คะแนนผลงานของตัวเองในตอนนี้ก็ให้ 9.5 จากเต็ม 10 ค่ะ อีก 0.5 อาจจะเป็นเรื่องของดนตรีบางส่วน หรือบางอย่างที่คิดว่าเรายังไม่มีความพร้อมเพราะว่าเพิ่งเริ่ม”
เป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก
“จริงๆ เริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่ 4 ขวบ ตอนนั้นคุณแม่สังเกตว่าเราเป็นเด็กที่ชอบดูการ์ตูนบาร์บี้ แล้วชอบร้องเพลงตาม คุณแม่ก็เลยคิดว่าเราน่าจะชอบร้องเพลง เพราะว่าตอนเด็กๆ จะชอบขึ้นไปร้องไปเต้นบนเวที คุณแม่ก็เลยส่งให้ไปเรียนร้องเพลงตั้งแต่ 5 ขวบ แล้วก็แข่งเวทีแรกตอน 6 ขวบ”
คำแนะนำดีๆ สำหรับคนที่อยากจะเป็นนักร้อง
“หนูก็ยังไม่ได้เป็นนักร้องแบบเต็มตัวขนาดนั้น ก็ต้องซ้อมเยอะๆ ค่ะ หาอะไรใหม่ๆ ฟัง อย่างตอนนี้หนูชอบ Jessie J แต่ก็ไม่ได้ฟังแค่ Jessie J ก็จะต้องฟังผลงานของคนอื่นด้วยว่าเขาทำเพลงเป็นยังไง ทำเป็นแนวไหนแล้วก็เอาไอเดียที่เรามีมาทำของเรา เพราะฉะนั้นคนที่อยากจะเป็นนักร้องก็ควรที่จะฟังเพลงเยอะๆ เก็บไลน์ลีด ไลน์อิมโพรไวซ์ เก็บไว้กับตัวเองเยอะๆ แล้วก็ซ้อมเยอะๆ เพราะไม่อย่างนั้นไลน์พวกนี้มันจะหายไปจากหัวถ้าเราไม่ซ้อม แล้วถ้าเกิดเราไม่ดูเราก็จะไม่มี มันต้องไปด้วยกัน”
พัฒนาศักยภาพของตัวเอง
“ก็มีลองเขียนเพลงเองมาได้ประมาณปีนิดๆ แล้วค่ะ ก็แต่งไปเรื่อยๆ ก็ยังต้องใช้ประสบการณ์อีกเยอะค่ะ เพราะว่าเพลงมันเป็นการสื่อสารด้วย แล้วมันต้องเป็นการใช้คำที่คนเข้าถึง แต่ว่าไม่ได้ใช้คำแบบง่ายๆ เกินไป เดี๋ยวปี 2 หนูก็จะได้เรียนแล้ว ตอนนี้เรียนอยู่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จบปีหนึ่งไปก็โอเคค่ะ แต่พอขึ้นปี 2 ก็จะเริ่มเข้มข้นขึ้น มีเรียนแต่งเพลงทำเพลง”
ศิลปินหรือไอดอลต้นแบบที่คิดว่าเจ๋งที่สุด
“หนูชอบ ‘Jessie J’ มากค่ะ เขาเป็นคุณแม่ที่แบบเพียบพร้อม เขาเก่งมาก ทำทุกอย่าง หนูชอบเพลงทุกเพลงของเขามาก ฟังแล้วรู้สึกดี ชอบมาตั้งนานแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็จะเป็น ‘พี่แพทวง Klear’ แนวเพลงจะมีความเป็นร็อคหน่อย เนื้อเพลงจะกินใจ แล้วถ้าไปฟังเนื้อเพลงของ Jessie J จริงๆ อย่างเพลง Nobody’s Perfect ก็พูดถึงเนื้อหาที่ว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ เขาจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาเองหรือเรื่องที่เขาพบเจอมา อย่างเพลง Who You Are ก็สื่อถึงความหมายที่ว่าคุณอย่าลืมนะว่าคุณคือใคร เขาจะมีการแต่งเนื้อที่เป็นเขาเลย แล้วรายละเอียดในการร้องของเขาจะเยอะมาก ฟังแล้วรู้สึกชอบ อยากเป็นเหมือนอย่างเขาให้ได้สักวันหนึ่ง หนูมีความคิดอยากเป็น Jessie J เมืองไทย อยากทำเพลงให้ได้แบบเขา เพราะว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครเป็น ถ้าเกิดเทียบอย่างเช่น วี-ไวโอเลต วอเทียร์ คนอาจจะนึกถึงเทเลอร์ สวิฟต์ คล้ายๆ กัน อย่างมิวคิดว่าสมมุติถ้าเราจะทำเราก็อยากจะเป็นเหมือน Jessie J เหมือนกัน แต่เป็น Jessie J คนไทย มิวเป็นคนที่ชอบร้องเพลงเพราะมันสนุก เต้นๆ สนุกๆ โยกๆ มันส์ๆ หนูชอบมากแล้วหนูรู้สึกว่าเพลงเขาเป็นแบบนั้น มันก็เลยเข้าทางกับเรา”
กำลังใจดีๆ จากแฟนคลับ
“ถ้าตอนอยู่ Sweat16 เราก็จะชอบตรงที่ว่าเขาไปงานแล้วเขาก็จะเชียร์เรา ตะโกนเรียกชื่อเรา มันเป็นอะไรที่น่ารัก เวลาเราอยู่บนเวทีแล้วมองลงไปมันน่ารักอ่ะ เหมือนเขาเหนื่อยไปกับเรา เขาไม่ใช่แค่เต้นอย่างเดียวแล้วเขาก็ยืนดูถ่ายรูป แต่เขาเชียร์ให้กำลังใจเราแบบมันส์มากๆ ถึงมันจะดูค่อนข้างรุนแรงในสายตาของใครบางคน แต่เรารู้สึกว่าเราอบอุ่นมาก อยู่ให้กำลังใจแบบนี้มันโอเคและอบอุ่น อย่างบางงานที่มันไม่ใช่งานไอดอล ไม่ใช่งานที่คนทั่วไปจะรู้จักเรา เขาก็ยังไปเพื่อที่จะให้คนรู้จักเรา บางทีถึงกับปริ้นโบรชัวร์ไปแจกทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่เขาเลย ก็เป็นพลังเป็นกำลังใจให้เราอย่างหนึ่ง ช่วงนี้ก็ติดโควิดพอดีไม่ค่อยได้เจอกันตามงาน แต่มิวจะมี ‘LINE SQUARE’ ของมิวที่แฟนคลับเขาก็จะพิมพ์มาว่าวันนี้มิวสิคเป็นยังไง วันนี้มิวสิคลงรูปนี้ หรือว่าบางคนพิมพ์มาทุกวัน วันนี้สู้ๆ นะเป็นกำลังใจให้นะ รู้สึกว่าเป็นแฟนคลับที่น่ารักจริงๆ ทุกคนซับพอร์ทเราตลอดเวลา รู้สึกอบอุ่นมากค่ะ”
หลักในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ
“ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ ค่ะ สักวันหนึ่งก็ต้องมีคนเห็น ขอแค่อย่าหยุดทำก็พอ”