ออกอากาศไปแล้วครึ่งเรื่อง สำหรับมินิซีรีส์วาย Golden Blood รักมันมหาศาล ที่เรื่องนี้ได้พระเอกหนุ่มมาดเข้มอย่าง “โบ๊ท ธารา ทิพา” มาเปลี่ยนลุคส์ สวมบทเป็นบอดี้การ์ดมาดนิ่ง แถมยังเป็นการเล่นซีรีส์วายเป็นเรื่องแรก แต่กระแสตอบรับกลับล้นหลาม โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับต่างประเทศที่ชื่นชม และชื่นชอบกับบทบาทของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับผมถือว่าโอเคเลยครับสำหรับฟีดแบ็คเรื่องนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบและถูกพูดถึงมากที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มแฟนคลับกลุ่มใหม่ ๆ ซึ่งมาจากต่างประเทศ ก็ดีใจครับ เพราะปกติผมจะไม่ได้มีแฟนกลุ่มต่างประเทศมากนัก ตอนแรกก็ค่อนข้างหนักใจเพราะ Golden Blood ถือว่าเป็นซีรีส์วายที่ค่อนข้างฉีกจากที่เคย ๆ ดูกันมา เพราะเนื้อเรื่องจะชูด้วยแอ็คชั่นเป็นหลัก ซึ่งถือว่าวัดใจเหมือนกันว่าคนดูจะชอบมั้ย อีกอย่างคือผมได้เปลี่ยนลุกส์ทุกอย่างใหม่หมด คือต้องไว้หนวดไว้เครา มีผมหน้าม้า ตอนแรกคือผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยนะ แต่พอได้ลองฟิตติ้งก็ต้องบอกว่าชอบนะครับ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมาก ๆ และคนก็พูดถึงกันค่อนข้างเยอะ สำหรับเรื่องการแสดงเรื่องนี้ถือเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกในชีวิตเลย ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันต้องยังไง อย่างคนที่ต้องเล่นด้วยหลัก ๆ คือ “กัน ณภัทร” ซึ่งผมไม่เคยรู้จักน้องเค้ามาก่อน แต่พอต้องมาทำงานด้วยกันก็พยายามศึกษาหาข้อมูล วันแรกที่เจอหน้ากันผมยังจำได้ ว่านี่เหรอ “กัน” เค้ามาแบบสายแฟชั่น หล่อเนี้ยบ มั่นใจมาเลย ส่วนผมลากรองเท้าแตะ ใส่ชุดพร้อมไปเตะบอลต่อได้เลย ผมยังแปลกใจว่าเราจะมีเคมีเข้ากันได้มั้ย คือมันต่างกันมาก ทั้งไลฟ์สไตล์ หรือทุก ๆ อย่างมันดูไม่ใช่ทางเดียวกันเลย แต่เราสองคนมาปลดล็อคกันได้ก็วันที่ต้องมาฟิตติ้งลองเสื้อผ้าหน้าผม ลองถ่ายรูป ลองเป็นคาแรกเตอร์ตัวละครด้วยกัน ผมรู้เลยว่ามันคลิ๊กละ หลังจากนั้นเราสองคนก็สบาย ๆ เล่นลื่นไหลไปตามคาแรกเตอร์โดยไม่ได้มีอะไรติดขัดอีก”
“ซึ่งสำหรับผมตัวละครของ “ซัน” ถือว่ายากกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา ด้วยความที่เค้าเติบโตมาด้วยภารกิจที่จะต้องปกป้องนายน้อย จนดูเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีความรู้สึก ซึ่งเวลาเล่นจะต้องดูเหมือนไม่รู้สึก ทั้ง ๆ ที่รู้สึก การแสดงออกทางท่าทางจะน้อย ส่วนใหญ่จะสื่อสารความรู้สึกทุกอย่างผ่านทางสายตา เล่นน้อยแต่ต้องให้คนดูเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครว่ากำลังคิดอะไร หลังจากละครออกไปวันแรกผมตื่นเต้นมาก ผมจำได้แต่พอได้ดูแล้วผมไม่ได้รู้สึกว่ากำลังดูตัวเองอยู่ แต่กำลังดูตัวละครตัวนั้น ๆ อยู่ นั่นแสดงว่าผมไม่ติดอะไร ส่วนแฟนละครก็จะเข้ามาชื่นชม ชื่นชอบที่ซีรีส์มันสนุกครบรส และมีความเข้มข้น มีแอ็คชั่น เป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ตื่นเต้นดีในทุก ๆ ตอน เดินเรื่องเร็ว ซึ่งคอมเม้นท์ส่วนใหญ่จะมาจากแฟน ๆ ละครจากหลายประเทศทั้ง ไทย , จีน , อินเดีย , ออสเตรเลีย , อเมริกาเหนือ , ญี่ปุ่น , ฟิลิปปินส์ มีบางคนมาจาก “ตาฮิติ” คือผมดีใจที่มีคนได้เห็นผลงานความตั้งใจของเรามากขึ้น โลกมันเปิดกว้างขึ้น ก็ถือเป็นประสบการณ์การทำงานที่ดีมาก ๆ ต้องขอบคุณทุก ๆ กระแสทุก ๆ การติดตามที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้มันเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ สำหรับผมจริง ๆ ครับ ก็อยากจะฝากให้ติดตามกันต่อไปจนจบ เพราะเนื้อเรื่องจะยิ่งน่าติดตาม และมีเรื่องให้ลุ้นกันต่อไปทุก ๆ ตอน”