ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มากความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาอย่างเนินนาน สำหรับ ‘ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ’ ที่ไม่ว่าจะแสดงบทบาทไหนก็ทำแฟน ๆ ต่างชื่มชม และอินไปตาม ๆ กัน ล่าสุด หนุ่มฟิล์มก็ได้มีผลงานละครเรื่องใหม่ อย่าง “รักนี้ต้องเจียระไน” ที่บอกเลยว่าเป็นการหวนกลับมาเจอกันอีกครั้งของฟิล์ม และนางเอกคู่ขวัญ ‘ใบเฟิร์น อัญชสา’ อีกด้วย ซึ่งละครเรื่องนี้หนุ่มฟิล์ม ได้รับบทเป็นดีไซน์เนอร์จิวเวลรีชื่อดังที่รักการแข่งรถ อย่างบท ‘รัตติ’ โดยเรื่องราวของละครเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวของ รัตติ หนุ่มดีไซเนอร์จิวเวอรี่ชื่อดัง ที่บังเอิญได้มาเจอกับ ชมจันทร์ (ใบเฟิร์น) สาวแสบ 18 มงกุฎ ที่มาหลอกขายเครื่องประดับปลอมให้กับลูกค้ารายใหญ่ และแอบอ้างว่าเป็นผลงานการออกแบบของรัตติ แถมโชคชะตายังเล่นตลกไม่หยุดหย่อน พัดพาให้ทั้งคู่ มีเรื่องให้ต้องมาร่วมหัวจมท้ายด้วยความจำยอม และเมื่อพระเอกผู้ที่เกลียดการโกหกเป็นที่สุด ต้องมาเจอกับ สาวผู้มีการโกหกเป็นอาชีพ เรื่องวุ่นๆ ที่ชวนหัวจะปวดจึงเกิดขึ้น ต้องบอกเลยว่าหากใครยังไม่ได้ไปชมก็รีบไปตามดูกันแล้ว และอีกเช่นเคยวันนี้ทาง KAZZ ได้มีโอกาสกลับมาเจอหนุ่มฟิล์มอีกครั้ง จึงขอมาสัมภาษณ์ฟิล์มเกี่ยวละครเรื่องนี้ พร้อมเก็บภาพเล็กน้อย ๆ มาฝากแฟน ๆ ของหนุ่มฟิล์มเรื่องนี้กันหน่อยดีกว่า
1.) กับตัวละคร ‘รัตติ’ มีเสน่ห์ มีมิติยังไงบ้างที่น่าสนใจ
ฟิล์ม : เสน่ห์ที่ผมรู้สึกว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่น ‘รัตติ’ เขามีความตรงไปตรงมา ถึงจะดูเป็นคนแข็งกระด้างแต่ก็เป็นคนอบอุ่น
2.) ฟิล์มคิดว่าเหมือนหรือต่างจากตัวละครตัวอื่นที่เคยแสดงไหม
ฟิล์ม : สำหรับผมคิดว่า ไม่เหมือนครับ รัตติมีความอบอุ่นอยู่ในหัวใจของเขา แล้วเขาก็มีหนวดครับ (มีหนวด?) อ้าว! ละครเรื่องอื่นผมไม่เคยไว้หนวดเลย นี่ก็เป็นความพิเศษอีกหนึ่งอย่าง เป็นหนวดจริงๆ ที่ผมต้องไว้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย ผมเลยรู้สึกว่าจะเป็นอีกผลงานหนึ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นความแปลกใหม่ของผมในละครด้วย แล้วก็อย่างที่ผมบอกไป รัตติเขาเหมือนเป็นคนที่ย้องแย้งในตัวเอง การเป็นดีไซน์เนอร์จะเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อน แต่เขาเป็นคนชอบความดิบ อย่างเช่น ความเร็ว ชอบการแข่งรถ อารมณ์พุ่งพล่าน อารมณ์เป็นเส้นตรง แต่ความเป็นดีไซน์เนอร์จะมีงานศิลปะถ้าเป็นลายเส้นคงเป็นเส้นที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เป็นเส้นที่คดงอวนไปวนมาที่ใช้อะไรหลายๆ อย่าง เช่น จะใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ แต่ในส่วนของความเร็วที่เป็นตัวรัตติ การที่เป็นแบบพุ่งไปข้างหน้า เป็นเส้นตรงที่มีอยู่ในคนๆ เดียวกัน
3.) คาแรคเตอร์ของรัตติ มีความซ้ำกับคาแรคเตอร์ของตัวละครจากเรื่องก่อนๆ ที่เราเคยเล่นมั้ย
ฟิล์ม : ถามว่ามีไหม มีอยู่แล้วครับ เพราะพลอตเรื่องไม่ได้หนีกันสักเท่าไหร่ แค่เปลี่ยนเส้นเรื่อง เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนอาชีพ แต่ความที่เขาพิเศษ ผมขอไม่ใช้คำว่า ‘พิเศษ’ เพราะผมรู้สึกว่าตัวละครอื่นๆ ที่ผมเล่นมาก็มีความพิเศษ ขอใช้คำว่า ‘แตกต่าง’ ละกัน คือการที่เราต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น ทำการบ้านในส่วนของคาแรคเตอร์ของตัวละคร คือ เราต้องรู้จักเขามากขึ้น รู้จักเขาลึกขึ้น เพื่อให้พลอตเรื่องที่มันไม่ได้ต่างจากเรื่องอื่นๆ สักเท่าไหร่ มันแตกต่างในความรู้สึกของคนดูให้ได้เท่านั้นเอง
4.) จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่คนดูยังไม่เคยเห็นบ้าง
ฟิล์ม : สำหรับในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ผมละเอียดอ่อนกับมันมากขึ้น ลึกขึ้น (ลึกระดับไหน?) ลึกระดับไหนผมตอบไม่ได้ แต่แค่รู้สึกว่ามันลึกขึ้นมันละเอียดอ่อนขึ้น
ความผูกพันกับตัวละคร ทุกตัวละครที่ผมแสดง ผมผูกพันอยู่แล้วครับ ผมมีความรักกับตัวละครที่ผมเล่นทุกตัวอยู่แล้ว
5.) สกิลด้านการแสดงที่เราได้เพิ่มจากการแสดงเรื่องนี้
ฟิล์ม : ก็เป็นความละเอียดอ่อนเหมือนเดิม ผมรู้สึกว่า ความละเอียดอ่อน ความละเมียดละไมที่เราละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกในขณะที่กำลังเล่นอยู่
6.) ด้วยคอนเซปท์คาแรคเตอร์ของตัวละครรัตติที่ว่า work hard play harder มันมีความเชื่อมโยงมาที่ตัวฟิล์มอย่างไร
ฟิล์ม : มีนะครับ ผมเป็นคนทำงานหนักนะ แต่เวลาผมเที่ยวผมก็สุด (สุดขนาดไหน?) ถ้าให้ผมพูดเวลางานผมทำงานหนัก เวลาปาร์ตี้ผมหนักกว่า แต่เวลาทำงานก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกัน พอถึงเวลาพักไปเที่ยวผมก็จัดเต็มเหมือนกัน เวลาใช้เงินก็เต็มที่เหมือนกัน
7.) การกลับมาเล่นละครคู่กับใบเฟิร์นอีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง
ฟิล์ม : ด้วยแนวละครไม่ได้ต่างจากเรื่องอื่นๆ มาก แต่มีความต่างในบริบทของตัวละครมากกว่า และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สี่ที่ได้เล่นด้วยกัน
8.) ความกดดันที่เรามีไม่ใช่กับใบเฟิร์นนะ แต่ความกดดันต่อแฟนคลับที่เขาจับเราจิ้นกับแจมมีมั้ย
ฟิล์ม : ผมไม่รู้สึกกดดันนะ เพราะผมไม่ได้คิด ผมรู้สึกว่าทำไมต้องคิด ไม่รู้ว่าคิดไปแล้วได้อะไร มันคือผลงานของเรา เราเป็นนักแสดง เรามีหน้าที่ถ่ายทอดตัวละคร เราก็แค่ทำงานของเราให้เต็มที่ ไม่อย่างนั้นก็จะมีแต่เดี๋ยวคนนั้น เดี๋ยวอย่างนี้ ก็จะไม่มีงานอื่นเลยแล้วอีกอย่างหนึ่งคือ เราจะไม่มีความสุขในชีวิตสำหรับตัวเราด้วย ผมคิดแบบนั้นนะ
9.) ในช่วงที่ต้องถ่ายงานติดๆกันหลายเรื่องเรามีวิธีเอาตัวเองออกมาจากตัวละครที่เราเล่นยังไง
ฟิล์ม : ดูการ์ตูนครับ ดูเยอะมากมีหลายเรื่องเลยที่ผมดู ช่วงนั้นผมจำไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไร แต่ว่าตอนนี้ดูหลายเรื่องมาก Demon Slayer , Dr.Stone , Gundam, Hunter x Hunter หรือแม้แต่ Attack on Titan ยิ่งถ้าช่วงไหนมีเวลาเยอะก็จะนั่งอยู่แต่หน้าทีวีนั่งดูไป แต่ถ้าช่วงไหนไม่มีเวลาก็จะดูอาทิตย์ละวีค
10.) ภายในครึ่งปีหลังฟิล์มจะมีเห็นผลงานอะไรออกมาอีกบ้าง
ฟิล์ม : นอกจากซีรีส์ที่เล่นเรื่องนี้ ก็จะมีซีรีส์ที่เล่นกับแจมเรื่อง Laws of Attraction มีผลงานละครเรื่องอื่นอีกด้วย และกำลังเตรียมตัวกับแฟนมีตที่ต่างประเทศที่จะได้เจอกันอย่างแน่นอนในโซนเอเชียครับ ไปหลายประเทศมาก ก็เจอกันแน่นอน
11.) ถามถึงเรื่องการทำงานในวงการบันเทิง สร้างความสุขให้ตัวฟิล์มอย่างไรบ้าง
ฟิล์ม : หนึ่งเลยคือผมได้เล่นละคร ละครคือชีวิตผม คือความสุขของผม สองคือผมมีความสุขเวลาที่ผมได้สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ให้แฟนละครได้ยิ้ม ยิ้มผ่านตัวอักษรในโซเชียลต่างๆ ที่เราได้อ่านหรือเวลามาเจอกันแล้วเราได้เห็นรอยยิ้มของเขา มันทำให้ผมมีความสุข
12.) แล้วถ้าเป็นตัวฟิล์มเอง ณ วันนี้ความสุขของฟิล์มคืออะไร
ฟิล์ม : นอกจากการแสดงหรอครับ ความสุขของผมหาได้ง่ายมาก ทุกวันนี้คือ กินนอนเที่ยวทำงาน แฮปปี้ แค่นี้ชีวิตไม่มีอะไรเลย แฮปปี้ แต่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีความสุขมากกว่าเมื่อก่อน
13.) ถ้าวัดค่าความสุขเป็นตัวเลข
ฟิล์ม : เมื่อก่อนก็สัก 4-5 มั้งครับ เพราะผมเอาความสุขไปผูกติดกับหลายๆ อย่าง ตอนนี้ก็สัก 7-8 สำหรับผมเต็ม 10 พอครับ เต็มร้อยก็คงไม่เหลือความสุขแล้ว ชีวิตคนเราจะเศร้าอะไรได้ขนาดนั้น
14.) แล้วมีวิธีไหนที่จะสามารถมาเติมให้เต็มสิบ
ฟิล์ม : ถ้าชีวิตเต็มสิบของผมคือ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ มีอิสรภาพในชีวิต ใช้ชีวิตในแบบของผมคือการที่เราไปไหนก็ได้บนโลก ทำอะไรก็ได้บนโลก เมื่อไหร่ก็ได้บนโลกแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน นั่นแหล่ะชีวิตที่เต็มสิบของผม ผมไม่รู้ว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าผมทำแบบนั้นได้คงจะดี คิดว่าก็คงเต็มสิบแล้วความสุข เพราะเราได้ตัดความกังวลในหลายๆ อย่างออกไป