จุดเริ่มต้น!! สัมภาษณ์ 9 นักแสดงจาก “Be Mine the Series” ซีรีส์ Girl Love ที่มีแต่ความรักเป็นศูนย์กลาง

ถือว่าเป็นโปรเจกต์ซีรีส์แนว Girl Love อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามอง สำหรับ “Be Mine the Series” จากค่าย IS Entertainment โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้ถูกสร้างขึ้นจากนิยายของนักเขียนนามปากกา คุณผู้หญิง ซึ่งจะมีเนื้อหา และเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของหญิงสาวทั้งหมด 4 คู่ ซึ่งตัวละครในแต่ละเรื่องเองก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งอายุ หน้าที่การงาน ฐานะ และอุปสรรคต่างๆ ในความรัก แต่พวกเธอทั้งหมดกลับมีความข้องเกี่ยวกันทั้งในฐานะเพื่อน ผูกพันทางสายเลือด และในรูปแบบของคนรู้จัก จนเกิดเป็นจักรวาลซีรีส์ชุดนี้ที่แบ่งแยกย่อยออกมาได้ทั้งหมด 4 เรื่อง 4 รสชาติ ได้แก่ More & MoreBe My BabyBe My Sugar และ Be My Boo นั่นเอง และในวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางค่ายได้มีการปล่อย Prologue อย่างเป็นทางการของซีรีส์ออกมาให้แฟน ๆ ได้รับชมพร้อมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เกิดกระแสน่าติดตามเป็นอย่างมาก งานนี้ทาง KAZZ เลยไม่พลาดพาสาว ๆ นักแสดงทั้ง 9 คน อย่าง ‘ปุยฝ้าย-ป๊อปปี้-ออมสิน-โฟล์ค-เฟิร์น-ฟ้าใส-น้ำหอม-หนิงหนิง และ มิว‘ มาสัมภาษณ์ที่มาที่ไปของซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมเก็บภาพเล็กน้อย ๆ มาฝากทุกคนกันหน่อยดีกว่า

  1. พูดถึงซีรีส์เรื่องนี้หน่อย

น้ำหอม : ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็จะประกอบไปทั้งหมด 4 คู่ โดยเรื่องราวจะเริ่มต้นจากที่ร้านกาแฟของพี่พีคเนี่ยแหละค่ะ ก็จะเป็นจุดเชื่อมโยงของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคู่ก็จะมีความรักที่หลากหลายรูปแบบกันออกไป

มิว : เรื่อง Be My Boo นะคะ เป็นความรักแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้วก็กลับมาง้อ ขอคืนดีค่ะ

ฟ้าใส : เรื่อง Be My Sugar นะคะเป็นความรักระหว่างการที่เราไปยื่นข้อเสนอให้เขามาเป็นแฟนหลอก ๆ 

เฟิร์น : ค่อนข้างมีความดราม่า แต่ว่ายังมีความน่ารักกุ๊งกิ๊งอยู่ ต้องรอติดตาม แล้วก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย

โฟล์ค : เรื่อง More & More เป็นความรักแบบรูมเมท 

ออมสิน : เป็นการแอบรักเพื่อน แอบรักรูมเมท รักใส ๆ ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัยอะไรแบบนี้ค่ะ

ป๊อปปี้ : Be y Baby ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับในออฟฟิศ เด็กฝึกงานที่เข้ามาฝึกงานกับคุณสิในบริษัท คุณพ่อรู้จักกับคุณสิก็เลยฝากมาฝึกงานด้วย เลยได้รู้จักกัน

  1. บทบาทและคาแรคเตอร์เป็นอย่างไร

น้ำหอม : อย่างตัวละคร ‘พี่พีค’ เนี่ยค่ะ จะเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจในความรักทุกรูปแบบ เป็นคนสุขุม ใจเย็น เป็นที่ปรึกษา เป็นที่พึ่งให้กับทุกคนได้ค่ะ เลยทำให้ทุกคนชอบมาที่ร้าน เข้ามาแวะเวียนมาคุย มาปรึกษาเรื่องความรัก กับเพื่อน แฟน หรือแม้กระทั่งเรื่องครอบครัวค่ะ

มิว : ‘พะพาย’ นิสัยตัวก็คือเป็นคนขี้หวง เพราะมีพี่สาวเป็นพิพิมพ์ค่ะ จะเป็นคนเงียบ ๆ สุขุม เป็นคนที่มีความคิดที่โตกว่าอายุ

หนิงหนิง : ตัวละคร ‘เจ้าขา’ ก็จะอายุประมาณ 20 ก็จะมีความเป็นเด็ก ขี้งอน ดื้อ แต่ก็มีเหตุผลของตัวเองเหมือนกันค่ะ

ฟ้าใส : ‘เพิร์ธ’ เป็นผู้บริหารที่มีความรับผิดชอบ จะต้องเคลียร์ปัญหาของที่บ้านที่มีความดราม่า ต้องให้พิพิมพ์มาช่วย เป็นคนพูดตรง กล้าได้กล้าเสีย

เฟิร์น : รับบทเป็น ‘พิพิมพ์’ พี่สาวของพะพาย ก็จะมีความเป็นผู้นำ สุขุม เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย จะต้องเป็นผู้นำครอบครัว ด้วยความที่ครอบครัวของตัวละครมีปัญหา เราก็ไม่ค่อยบอกปัญหาให้กับทางครอบครัวได้รับรู้ พยายามแก้ปัญหา แล้วก็มีเพิร์ธยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนนิดหน่อย

ออมสิน : ‘ตะวัน’ เป็นคนที่อบอุ่น น่ารัก ใจดี พร้อมเป็นพลังบวกให้คนอื่นเสมอ หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย เป็นที่รักของเพื่อน ๆ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยกล้า เราแอบรักเขาามาตั้งแต่มัธยม ขนาดมีโอกาสที่จะได้เป็นรูมเมทกับเขาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะบอกเขาไปได้ เพราะเราไม่กล้า

โฟล์ค : ‘วินนี่’ จะเป็นนักศึกษาที่ตอนแรกดูเข้าถึงยาก ดูไม่มีพิษ ไม่มีภัย เหมือนแมว แต่จริง ๆ ร้ายเงียบมาก มีความแสบอยู่ในตัว จริง ๆ เค้าก้รู้ว่ตะวันชอบเค้านะ แต่เค้าทำยังไงก็ได้ให้ตะวันต้องเผยออกมาก่อน วินนี่เขาร้ายค่ะ

ป๊อปปี้ : ‘เจ้าเจ’ เป็นพี่สาวของเจ้าขา แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกับตะวัน ในส่วนของเจ้าเจ จะเป็นเด็กที่มีความกวน ความขี้เล่น เหมือนมีเสน่ห์ในตัว พอในพาร์ททำงานเค้าเป็นคนจริงจัง มุ่งมั่น ที่สำคัญรักแฟนมาก

ปุยฝ้าย : รับบทเป็น‘คุณสิ’ค่ะ คุณสิจะอายุ 29 ปี ซึ่งจะห่างกับอายุจริงปุยฝ้ายมากพอสมควรเลยค่ะ คุณสิจะเป็นเจ้าของบริษัท แล้วมีเจ้าเจมาฝึกงานที่บริษัทนะคะ เป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน ลึก ๆ เนี่ยจริง ๆ เป็นคนใจดี ซึ่งภายนอกคนอื่นจะคิดว่าคุณสิดูเป็นคนใจร้าย เป็นคนดุ แต่จริง ๆ แล้วเขามีปมอยู่ในใจ มีกำแพงสูง

  1. คาแรคเตอร์ที่ได้รับเหมือนหรือต่างกับเราอย่างไรบ้าง

น้ำหอม : จริง ๆ แล้วอย่างบทบาทพี่พีคเค้าจะเป็นคนใจเย็น เราอาจจะไม่ได้ใจเย็นขนาดเขา เราอาจจะโผงผางกว่าเค้าหน่อย แต่ว่าจะมีเหมือนส่วนมากก็จะมีน้อง ๆ เข้ามาปรึกษา ถามเรื่องงาน เรื่องนู่นนี่ อาจจะเป็นตรงนี้ที่เหมือน อย่างอื่นไม่มีแล้วค่ะ

มิว : ถ้าของพะพายนะคะ ถ้าเหมือนมิวก็จะเป็นความนิ่ง แต่ว่าไม่ได้สุขุมเท่าพะพายค่ะ แล้วก็จะเป็นคนที่โตกว่าอายุ ที่เหมือนมาก ๆ ก็น่าจะความเท่ แต่ที่แตกต่างมากก็คือพะพายเค้าจะมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ถ้าไม่ได้รู้จัก ไม่ได้สนิท ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวก็จะไม่เข้าหาใครก่อน แต่ถ้าเป็นมิวก็จะชอบเข้าหาคน ถึงแม้จะพูดไม่ค่อยเก่ง

หนิงหนิง : หนิงกับเจ้าขา ก็คือรู้สึกว่าเหมือนค่อนข้างเยอะค่ะ เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาตรง ๆ แต่ว่ามันจะแสดงออกมาเอง เป็นคนดื้อเงียบแต่ว่าก็มีเหตุผลของเขาเองว่าเขาคิดอะไรยังไงค่ะ

ฟ้าใส : อย่างของฟ้านะคะ ตอนแรกก็คิดว่าไม่เหมือน แบบคาแรคเตอร์นี้ไกลตัวจัง แต่พออ่านแล้วได้มาซึมซับกับการ workshop บทบาท รู้สึกว่าเหมือนเยอะมากค่ะ ทั้งความแบบเอาใจ ยังเป็นคนเอาแต่ใจอยู่ในบางเรื่อง เหมือนเราอยากเอาชนะเขา แล้วก็เป็นคนพูดตรง อันนี้คือเหมือนมาก

เฟิร์น : พิพิมพ์ รู้สึกว่าทุกคนนึกภาพถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยสวย ๆ คนนึง เราคิดว่าเราก็ได้อยู่ แล้วก็พิพิมพ์ชอบทำอาหาร เราก็ทำอาหารไปจีบเขาเป็น love language อะเนาะ

โฟล์ค : ส่วนของวินนี่น่าจะเป็นความแสบ จริง ๆ รู้หมดแหละแต่แกล้งไม่รู้ไว้ก่อน ซน แบบว่าร้าย คนนี้เค้าร้ายเงียบอะเนาะ น่าจะเป็นแค่ความเหมือนตรงนั้นมั้งคะ น่าจะเหมือนอีกย่างวินนี่ขี้อ้อน เค้าก็จะอ้อนกับคนที่เค้าอยากอ้อนเท่านั้น ถ้าเค้าไม่อยากอ้อนเค้าก็จะหยิ่ง ไม่ยุ่ง

ออมสิน : สำหรับของตะวัน ถ้าเหมือนก็จะเป็นหัวเราะง่าย ยิ้มง่ายเหมือนกัน ตะวันเข้ากับคนได้ง่ายค่ะ แต่ถ้าเรื่องที่ไม่เหมือนเลยก็จะเป็นความสัมพันธ์อะค่ะ รู้สึกว่าความตรงไปตรงมาในความสัมพันธ์ของเราจะมีมากกว่า ถ้าเราชอบใคร หรือว่ามั่นใจกับความรู้สึกนั้น ๆ แล้วเราก็จะกล้าบอกไปเลย แต่ว่าตะวันเค้าก็จะเป็นคนขี้อาย ไม่มั่นใจในเรื่องความสัมพันธ์ เค้าชอบแต่เค้าไม่กล้าที่จะทำอะไร ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเค้าทำ เพราะเค้าเก็บไม่ค่อยอยู่ เค้าคิดว่าเค้าไม่ได้ทำอะไรนะ แต่หลุดตลอด

ป๊อปปี้ : ในส่วนของเจ้าเจ ก็มีความที่รู้สึกว่าเหมือนมาก ๆ อยู่ เป็นคนที่มีนิสัยขี้เล่นขี้กวนเหมือนกันมาก ๆ อันนี้รู้ตัว รู้ตัวว่าแบบนิสัยชอบแกล้งคนอื่น แต่ว่าในส่วนพาร์ทของการทำงาน พูดตามตรงคือไม่เคยไปฝึกงานในบริษัท มันค่อนข้าง challenge กับเรานิดนึง ด้วยความที่ว่ามันเป็นระบบอะไรแบบนี้ค่ะ เนื่องจากตอนเรียนมหาวิทยาลัย มันติดโควิดพอดี เลยทำให้เราไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เท่าไหร่ พอมารับบทที่ต้องเข้าไปฝึกงานในบริษัท ต้องเจอกับบอส ทำงานในที่ทำงาน มันก็ยากนิดนึงค่ะ

ปุยฝ้าย : ปุยฝ้ายกับคุณสิ คุณสิเป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ยืนด้วยตัวเองได้ เหมือนกับที่ปุยฝ้ายเป็นอยู่ทุกวันนี้ แล้วก็ความแตกต่างคุณสิ คาแรคเตอร์เค้าจะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ซึ่งต่างกับฝ้ายมากเลย เป็นคนพูดน้อย ๆ แต่นี่คือพูดไม่หยุดเลย เวลาที่ต้องเข้าคุณสิปุ๊บ หนูต้องรูดซิปปากแล้วต้องนิ่ง ๆ วางตัว โอโห หนูอยากกระโดดมาก คือคุณสิเค้าจะเป็นคนอยู่นิ่ง ๆ ให้เค้าเข้ามาจีบไรงี้ แต่เราบวกเลย เราเข้าไปบวกเลย

  1. ได้มาแสดงร่วมกันรู้สึกอย่างไรบ้าง

น้ำหอม : สนุกดีค่ะ เพราะว่าเป็นการทำงานที่ผู้หญิงล้วน เราก็จะมีความเป็นเหมือนพี่ เหมือนน้อง เหมือนเพื่อนกันค่อนข้างมาก แล้วสามารถคุยกันได้ในหลาย ๆ อย่าง ไปช็อปปิ้งด้วยกัน ไปทำอะไรด้วยกัน มันก็เป็นสไตล์ที่คล้ายกันมาก ก็รู้สึกว่าเป็นครอบครัวสูง

เฟิร์น : ทุกคนคาแรคเตอร์แตกต่างกันหมดทุกคน แต่พออยู่ด้วยกันรวม ๆ แล้ว รู้สึกเหมือนเติมเต็มกันมาก ในส่วนที่ขาดหาย ก็แฮปปี้ อย่างเช่นหนูเป็นคนแบบช้า ๆ พออยู่กับพี่ฟ้า พี่ฟ้าก็จะเป็นคนแอคทีฟ

  • ใครขี้แกล้งที่สุด?

ออมสิน : ทุกคนนั่นแหละ

น้ำหอม : แกล้งคนละรูปแบบ เราหยิกหลังกันไปหยิกหลังกันมา 

  • ใครกินเก่งสุด?

***ทุกคนชี้หนิงหนิง

หนิงหนิง : เดี๋ยวนี้ก็ไม่แล้ว

น้ำหอม : เดี๋ยวนี้น้อยลง เมื่อก่อนก่อนเห็นเหลือบนโต๊ะไม่ได้เลย

มิว : แต่คนที่ชอบสั่งอาหารก็คือพี่ฟ้ากับพี่น้ำหอม

ออมสิน : ฟ้าจะเป็นคนที่แบบกินทุกอย่างแต่กินคำนึง สองคำ

น้ำหอม : คือน้ำหอมกับฟ้าชอบกินหลากหลาย แต่เราจะกินแล้วเราก็ น้องกิน น้องกิน น้องกิน

ฟ้าใส : สั่งมาเยอะ ๆ ไว้ก่อน เผื่อคนอื่น

หนิงหนิง : คนที่รับกรรมก็คือคนแถวนี้แหละ จะเป็นแบบ หนิงพิซซ่ายังเหลือ หนิงอันนั้นยังเหลือ นี่ก็แบบ ค่ะ

มิว : ด้วยความที่เราเป็นคนขี้เสียดายเราก็โอเค เดี๋ยวกินเองก็ได้

น้ำหอม : ก็จะเป็นคู่นี้นะคะ เป็นคนเก็บกวาด คนนึงก็เสียดาย อีกคน อะ กินก็ได้

เฟิร์น : ถ้าเรื่องครัวเป็นนี่

ฟ้าใส : เค้าทำอาหารอร่อย

น้ำหอม : มิวก็ทำอาหารเก่ง

มิว : แต่สู้เค้าไม่ได้

  • แล้วมีคนเป็นฝ่ายโดนแกล้งไหม?

ป๊อปปี้ : หนูเป็นคนที่แบบชอบโดนทุกคนแกล้ง แล้วทุกคนก็จะบอกว่าไม่จริง มีแต่หนูไปแกล้งคนอื่น แต่นี่คือความจริงที่โลกต้องรู้นะคะ หนูโดนแกล้งประจำค่ะ

ทุกคน : ไม่จริง

ออมสิน : เพราะทุกคนคือต่างคนต่างหยิก หยิกกันไปหยิกกันมา

น้ำหอม : เราเป็นความสัมพันธ์แบบหยิกหลัง

ออมสิน : แต่ตอนแรก ๆ อะค่ะ มิวจะโดนเยอะ เพราะทุกคนนึกว่ามิวไม่สู้ สักพักนึงเริ่มสู้

มิว : หลัง ๆ จะสู้เพราะว่าโดนจู่โจม

น้ำหอม : เฟิร์นก็จะโดนเยอะ เพราะจะเงียบ ๆ เป็นสล็อต ช้า ๆ 

  1. นิยาม หรือ มุมมองความรักของแต่ะละคน

น้ำหอม : นิยามความรักสำหรับน้ำหอมก็ ด้วยความที่น้ำหอมก็โตสุดในนี้เนาะ รู้สึกว่าความรักตอนนี้มันไม่ได้ต้องการอะไรมากและ ไม่จำเป็นต้องหน้าตาแบบไหน เป็นยังไง แต่คือเข้าใจ นี่เป็นคนที่อยากได้ความเข้าใจ รู้สึกว่าความเข้าใจมัน leading ในหลาย ๆ อย่าง มันเป็นการคุยกันรู้เรื่องอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยโฟกัสที่ตรงนั้น ที่เหลือก็เป็นเรื่องทั่วไป

หนิงหนิง : รู้สึกว่าความรักสำหรับหนิงคือการที่ทำอะไรให้สักคนนึงไป โดยที่แบบเราไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาคืนมา แบบว่าเราอยากทำให้ ให้เลย ให้หมด ไม่ต้องไปหวังว่าเค้าต้องยินดีกับสิ่งที่เราทำให้ ก็แค่อยากทำให้ ก็คือให้ แค่นั้นเลย

มิว : ความรักสำหรับมิวก็เป็นอารมณ์แบบว่า ความรักจะไม่ยากเลย ถ้าเรากล้าพูดทุกอย่าง

ฟ้าใส : คล้าย ๆ พี่หอม ความรัก อยากให้เข้าใจกัน ถ้าเราเข้าใจกันมันจะไม่มีเรื่องอะไรตามมา แล้วก็เชื่อใจค่ะ การเชื่อใจ ไม่ว่าจะ relationship ไหน ถ้าเราเชื่อใจกันมันจะไปได้ต่อ มันก็จะไม่มีอะไรตามมาเลย ความรักแบบคนแก่เข้าใจโลก

เฟิร์น : ของเฟิร์นจะคล้าย ๆ ของพี่หนิง นิยามความรักของเฟิร์น เฟิร์นว่าคือการดูแลคนรอบข้างของเรา อย่างเช่น ครอบครัว เพื่อน จนถึงคนรอบ ๆ ตัวของเราทุกคน การรักคือการให้

ปุยฝ้าย : ความรักก็คือการที่เราได้อยู่แบบสบายใจ การที่ไม่มีถูก ไม่มีผิด ไม่มีการแพ้ ชนะกัน เราอยู่ด้วยความสบายใจ เรามีหน้าที่ที่จะต้องไปทำ แล้วกลับมาเราอยากจะอยู่ในพื้นที่ safezone เหมือนบ้านหลังนึง เหมือนเป็นครอบครัวค่ะ

ป๊อปปี้ : อันนี้ก็เห็นด้วยกับพี่หอมกับพี่ฟ้า เพราะว่าเรารู้สึกว่าการที่เรามีความรัก มากกว่ารักมันคือการเข้าใจจริง ๆ การที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน รักอย่างเดียวมันไม่รอดอะค่ะทุกวันนี้ รู้สึกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรก็แล้วแต่ เราจะทะเลาะกันกี่เรื่อง กี่ร้อยครั้ง แต่ถ้าเราเข้าใจกัน ให้อภัยกันยังไงความรักมันก็ยังอยู่ค่ะ

ออมสิน : ก็เห็นด้วยกับทุกคนนะคะ สำหรับออม นอกจากที่เพื่อน ๆ พูดมาก็จะเป็นการใส่ใจความรู้สึกกัน ในเมื่อเรารักกัน เวลาเราใส่ใจความรู้สึกกันเราจะไม่อยากทำให้เค้าผิดหวัง ไม่อยากทำให้เค้าไม่สบายใจ เสียใจ อยากจะทำให้เค้ามีความสุข ได้รับแต่สิ่งดี ๆ

โฟล์ค : ความรักสำหรับโฟล์ค คือการพาไปกินของอร่อย ๆ น่าจะเป็นความเชื่อใจ ไว้ใจกัน เป็นความสบายใจของกันและกันให้ได้ แค่นี้ก็น่าจะเป็น safezone แล้ว เราอยู่ด้วยแล้วไม่มีเรื่องให้เครียด ไม่มีเรื่องให้ทุกข์เลยค่ะ

  1. 1 ประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก

เฟิร์น : ‘เป็นห่วง’ เพราะมันเหมือนคนที่บ้าน เวลาลูกจะไปไหนทำอะไร พ่อแม่จะบอกว่าเป็นห่วงนะ ดูแลตัวเองด้วย

ฟ้าใส : ‘ส่งเลขบัญชีมา’

น้ำหอม : ‘จะอยู่ข้าง ๆ นะ’ คืออยู่ข้าง ๆ มันก็คืออยู่ด้วยตลอดไป จะคอย support ซึ่งกันและกัน

หนิงหนิง : ‘พักผ่อนเยอะ ๆ นะ’ อยากให้เค้ากินอิ่ม นอนหลับ ฝันดี

มิว : ‘อยากดูแล’ เพราะว่าถ้าเรารักใครเราก็อยากดูแลเค้า

โฟล์ค : ‘พี่ออมเห็นหลอดนั่นปะ นั่นไม่ใช่หลอดธรรมดานะ หลอดมาโดยตะรัก’

ออมสิน : ‘ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันไหม’

ป๊อปปี้ : ‘เดี๋ยวไปรับ’ 

ปุยฝ้าย : ‘สวัสดีวันจันทร์’ เพิ่งส่งให้คุณพ่อตอนเช้า จริง ๆ นะ พ่อแม่ส่งมาให้เราคือพ่อแม่รักเรา หนูส่งให้แฟนคลับทุกเช้า ทุกวัน เจ็ดสี

  1. คนดูจะได้อะไรจากซีรีส์เรื่องนี้

น้ำหอม : สำหรับซีรี่ส์เรื่องนี้นะคะ คนดูก็จะได้เห็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างที่บอกไปว่าแต่ละเรื่องจะไม่เหมือนกันเลย ก็จะเห็นความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน การดำเนินตัวละครแต่ละตัวละครว่าสุดท้ายเค้าจะไปในความสัมพันธ์นี้ยังไง ที่สำคัญคือแต่ละเรื่องจะมีความสัมพันธ์ที่นอกเหนือจากความรักของแฟน จะเป็นในเรื่องของพี่น้องเข้ามาเกี่ยว ครอบครัวเข้ามาเกี่ยว ความรักความเข้าใจต่าง ๆ นะคะ รวมถึงโดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แซฟฟิค คนก็จะเห็นมุมมองใหม่ ๆ ของความรักในด้านนี้เพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ

  1. ฝากผลงาน

โฟล์ค : ก็

ออมสิน : ขอ

ป๊อปปี้ : ฝาก

ปุยฝ้าย : ผล

เฟิร์น : งาน

ฟ้าใส : ของ

น้ำหอม : เรา

หนิงหนิง : ด้วย

มิว : ค่ะ 

น้ำหอม : ตอนนี้นะคะสามารถดู prologue ได้ที่ youtube ช่อง IS ENT OFFICIAL เสิร์ชได้เลยว่า Beminetheseries ก็จะขึ้นนะคะ ส่วนซีรี่ส์คาดว่าปลายปีอาจจะได้ชมกันค่ะ