เคมีใหม่!! สัมภาษณ์ 2 นักแสดง ‘เมฆ-แพรว’ จากละครโรแมนติกคอมเมดี้ “สาวใช้ดิลิเวอรี”

ถือเป็นละครโรแมนติกคอมเมดี้อีกเรื่องที่สนุกมาก ๆ ทั้งยังเป็นการพบกันครั้งแรกของ ‘เมฆ จุติ’ ที่พลิกบทบาทเป็นคาสโนว่าหนุ่มเจ้าเสน่ห์ แต่กลับต้องมาถูกสาวใช้จำเป็นอย่าง ‘แพรว เฌอมาวีร์’ กำราบ ในละคร “สาวใช้ดิลิเวอรี” ผลงานการกำกับโดย ผู้จัดคุณภาพ วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกทั้งละครเรื่องนี้ยังเป็นการรวมตัวของนักแสดงรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางการแสดงด้วย ทาง KAZZ จึงได้พาหนุ่มเมฆและสาวแพรว มาสัมภาษณ์ความรู้สึกและเก็บภาพกันสักหน่อย

  1. พูดถึงละครเรื่อง ‘สาวใช้ดิลิเวอรี’ หน่อย

แพรว : ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ ‘สาวใช้ดิลิเวอรี’ ตัวแพรวรับบทเป็น กุลธิดา ก็จะมีภารกิจวุ่น ๆ ที่ทำให้เราจากที่เป็นนักธุรกิจต้องจับพลัดจับผลูมาเป็นสาวใช้ในบ้านของเขา ซึ่งเขาเป็นแฟนเก่าเราด้วย

เมฆ : เป็นแฟนเก่าแล้วก็มีเรื่องมีราวมากมายทำให้เรากลับมาเจอกัน มีการทะเลาะกันตลอดเวลา แต่ก็มีอีกหลาย ๆ มุมมองที่ กุลธิดาคอยช่วยเหลือรวิชญ์ ทำให้คิดได้ ทำให้กลับตัวได้ เห็นความดีในตัวเขาไหม? ต้องติดตามครับ

  1. ความยาก หรือความท้าทายในการแสดงละครเรื่องนี้

เมฆ : เรื่องความเจ้าชู้ครับ ค่อนข้างยาก มันต้องใช้เวลาศึกษาเยอะมาก ซึ่งเราได้ผู้กำกับคือ พี่วี วีรภาพ ครับ คอยให้คำแนะนำ คอยไกด์ให้ตลอดเลยครับว่าตรงนี้ดีไหม ประมาณเลเวลตรงไหน จะไปในรูปทางไหนครับ

แพรว : ของแพรวน่าจะเป็นเอเนอจี้ที่มันต้องใส่เต็มอยู่แทบจะตลอดเวลา ปกติมันจะมีไดนามิคประมาณนี้ แต่เรื่องนี้มันกลายเป็นขึ้น เหมือนว่าเราเป็นตัวดำเนินเรื่องด้วยค่ะ ถ้าพลังเราตกลงไปสักซีนนึงมันจะไม่สนุกแล้ว ต่อให้มันจะเป็นพาร์ทดราม่า คอเมดี้ หรือว่าพาร์ทที่คุยกันเฉย ๆ มันก็ต้องมีอะไรในความไม่มีอะไร แพรวคิดว่าแพรวก็ทำการบ้านตรงนี้หนักอยู่เหมือนกัน

  1. คาแรคเตอร์ หรือบทบาทที่ได้รับ เหมือนหรือแตกต่างกับเราอย่างไร

แพรว : ของแพรวนี่สบายเลย เพราะว่ากุลธิดาค่อนข้างมีความเป็นตัวเรามากกว่า 50% แล้วพี่วีเขาค่อนข้างชอบแชร์อะไรกับแพรวด้วย ตั้งแต่ตอนแคสแล้วอะค่ะ ที่พี่วีเขาเลือกเรามารับบทเพราะเขาเห็นคาแรคเตอร์อะไรบางอย่าง แล้วเขารู้ว่าเป็นบทที่ค่อนข้างเหมาะกับเรามาก ๆ เลย แต่ก็ไม่ขนาดเหมือนตัวเองเต็มร้อย เพราะกุลธิดาเขาจะมีความ bossy มากกว่าแพรว แล้วแพรวจะใจเย็นกว่า แต่คนนี้เขาจะมีความดื้อด้วย ก็ไปทำการบ้านตรงนั้นเพิ่มมา

เมฆ : ก็ค่อนข้างห่างไกล ตัวรวิชญ์ เนี่ยมันมีความเจ้าชู้ก็จริง แต่ว่ามีปมหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง ปมครอบครัว ปมความรัก ปมพ่อแม่ บอกได้แค่นี้ว่ามีปม ที่เหลือต้องรอติดตามในละคร เพราะจะเฉลยปมออกมาเรื่อย ๆ ถ้าผมบอกมากกว่านี้ก็คือตอนจบแล้ว มันถึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเจ้าชู้ โหยหาความรักต่าง ๆ จากภายนอก 

  1. ได้มาร่วมงานกัน รู้สึกอย่างไรบ้าง

แพรว : เหนื่อย เหนื่อยเล่นมุก เหนื่อยยิงมุกจนบางทีแบบ เมฆ แป๊บนึง เราแยกกันนอนแป๊บนึงเนาะเวลาพัก มันจะเผลอเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ๆ จนเขาต้องวอร์มาว่า แพรวเมฆหยุดคุยกันได้แล้ว

เมฆ : เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนที่จะมาร่วมงานเรื่องนี้ครับ ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกัน เรามีการแลกเปลี่ยนกันตลอด มีการวางแผนว่าในซีนนี้เราจะทำอะไร อย่างไรบ้าง เล่นเวย์นี้ดีหรือไม่ดี มีการปรึกษาพี่วีด้วยครับ ตอนนั้นเป็นการทำงานที่มันโฟลว มีแต่พลังบวกในกอง

  1. เล่าถึงบรรยากาศในกองหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง

แพรว : เป็นการคุยกันประมาณตัวละคร 50 คน 

เมฆ : แต่ทุกคนส่งพลังบวกให้กันหมดเลย เป็นการทำงานที่มีความสุขแล้วอยากไปกองมาก ๆ โดยเฉพาะในกองนี้เขาจะอวยผู้หญิงเป็นหลัก โดยเฉพาะพี่วี พี่ผู้ช่วย จบซีนแพรวปุ๊บจะมีแต่คนวอร์มา แพรวซีนนี้สวยมากครับ แพรวเล่นดีมากครับ ผมแพรวตกหนึ่งเส้นไม่ได้เลย ต้องส่งช่างมาปัดผมเส้นนั้นออก

แพรว : ‘พี่ขอคัทก่อน คือมันดี แพรวไม่ผิดอะไรเลย แต่ว่าผมมันบังความสวยของแพรวไปนิดนึง’

เมฆ : ผมผู้ชายคือเละเลยนะ หน้าม้าแปะลงมา

แพรว : วันนั้นฉันดูเธออยู่หน้ามอนิเตอร์ แล้วพี่วีกับพี่ผู้ช่วยก็ผมเมฆมันแบบไม่ค่อยเข้าที่ เป็นอะไรรึเปล่า แล้วก็โอ๊ย ไม่เป็นไรพี่ คนดูไม่สังเกต ปล่อยผ่านเลย

  1. เราได้เรียนรู้อะไรจากตัวละครที่เราเล่นบ้าง

เมฆ : อย่างตัว รวิชญ์ เนี่ย มันมีปมหลายอย่างอย่างที่บอก มันสอนเรานะว่าบางทีเราโหยหาความรักข้างนอก เพราะอะไร บางทีเรามองข้ามความรักดี ๆ ไปกี่ครั้งแล้ว ทำไมเราถึงไม่หยุดสักที

แพรว : ชอบความมองโลกในแง่บวกของกุลธิดามาก ๆ ค่ะ เพราะถ้าคิดตามความเป็นจริงเขาต้องอยู่ลำบาก เขาต้องจากแม่ จากความสบาย มาอยู่ลำบาก มาเป็นสาวใช้ คนที่เป็นเจ้าคนนายคนมาก่อนแล้วมาเจออะไรแบบนี้ มันท้อ คงแทบจะกรี๊ดออกมา แต่เขาแบบไม่เป็นไร สู้ตาย ไม่ได้เป็นดราม่า เคยคุยกับพี่วีในเรื่องนี้เหมือนกัน พี่วีบอกว่ากุลธิดาเป็นคนสู้ เลยรู้สึกว่าการเอาทัศนคติของกุลธิดามาใช้ในชีวิตจริงมันดีมากๆ เลยนะ ทำให้เราไม่ได้เหนื่อยกับปัญหาในแต่ละวัน

  1. คนดูจะได้อะไรจากการชมละครเรื่องนี้

แพรว : ความสนุกแน่นอนอย่างแรก

เมฆ : ความคอเมดี้ ซึ่งพาร์ทผมไม่มีเลย แต่เริ่มแล้วนะ เริ่มมีความน่ารัก ผ่อนคลาย กุ๊กกิ๊กกัน แง่คิดดี ๆ ต่าง ๆ

แพรว : แพรวว่าพอคนดูละครมันมีสารอยู่แล้ว แบบหลาย ๆ เรื่องแหละ ขึ้นอยู่กับคนว่าเลือกจะจับสารแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าชู้ของผู้ชายที่เมฆพูดไปตั้งแต่ตอนแรก ว่าถ้าเกิดวันนึงเราคิดได้ แล้วรู้ว่าใครที่อยู่กับเราจริง ๆ ในเวลาที่เราลำบาก แพรวว่ามันก็เป็นข้อคิดสอนหลาย ๆ ท่านที่ยังอาจจะสนุกกับชีวิตอยู่ แต่ว่ามันก็ยังมีอีกหลายพาร์ทนอกจากเรื่องคู่รัก เป็นเรื่องของครอบครัว ความอบอุ่นที่รวิชญ์เขาไม่ทิ้งลูกชายเขาไปไหน ต่อให้ภรรยาเขาจะไม่อยู่แล้ว หรือด้านครอบครัวที่มีอะไรทำไมไม่คุยกัน แล้วทำให้ปัญหาเกิดทับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายคนที่มาตามแก้ตามเช็ดตามล้างมันลำบาก มันกลายเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมถ้าปล่อยให้มันสะสมมาหลาย ๆ ปี แพรวว่ามีอะไรก็เห็นค่าคนที่อยู่ด้วยกัน คุยกันเปิดใจกันน่าจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นนะ

  1. ขอ 1 ประโยคให้กับละครเรื่องนี้

เมฆ : โหด มัน ฮา ตัวรวิชญ์ก็ดิบ ๆ หน่อยนะครับ อาจจะเป็นความรักแบบดิบ ๆ นิดนึง บุก ๆ มุทะลุหน่อยนึง ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่ารวิชญ์จะมีการบุกกุลธิดายังไงบ้าง

แพรว : ฟิน แน่ นอน ขนาดนอกจอเคมีพวกเรายังโบ๊ะบ๊ะ ยังรู้ใจกันขนาดนี้ ในจอไม่ต้องพูดถึง รับรองว่าหวานแน่นอน

  1. ฝากผลงาน

แพรว : ก็ฝากละคร ‘สาวใช้ดิลิเวอรี’ ด้วยนะคะ รับรองว่าเป็นละครที่เบาสมอง เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ทีมงานทุกคนพี่วี พี่กีต้าร์ แพรว เมฆ แล้วก็นักแสดงท่านอื่น ๆ ตั้งใจกันมากแล้วก็ทำด้วยใจจริง ๆ ค่ะ

เมฆ : นอกจอสนุกขนาดนี้ ในจอต้องสนุกมาก ๆ เลยครับ ฝากด้วยนะครับ ‘สาวใช้ดิลิเวอรี’ ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 18:45 ครับ ทางช่อง 7hd กด 35 แล้วเจอกันทางหน้าจอครับ