“เจมส์ – ธีรดนย์” ทุ่มสุดตัวให้กับบทบาทเด็กหนุ่มที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า Project S The Series

“เจมส์ – ธีรดนย์” ทุ่มสุดตัวให้กับบทบาทเด็กหนุ่มที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า Project S The Series

สวมบทเป็นเด็กหนุ่มที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า ในซีรีส์กีฬาสุดฮอต Project S The Series ตอน SOS skate ซึม ซ่าส์ ที่แค่เปิดเผยทีเซอร์แรกออกมาก็ชวนให้ติดตามฝีไม้ลายมือของหนุ่ม “เจมส์ – ธีรดนย์” ว่าจะทำได้ดีจนสามารถลบภาพจำจากบทเพลย์บอยที่เคยเล่นมาก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ ซึ่งพอซีรีส์สุดฮอตฉายแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าสอบผ่านฉลุยจนขึ้นแท่นนักแสดงวัยรุ่นฝีมือดีอีกคนของวงการ ซึ่งหนุ่มเจมส์ก็บอกกับเราว่า ทั้งหมดเป็นผลจากความตั้งใจและทุ่มเทล้วนๆ

DSC_3832 copy

บทบาทที่เจมส์ได้รับใน Project S The Series ตอน SOS skate ซึม ซ่าส์
บทบูใน SOS skate ซึม ซ่าส์ เป็นบทที่พลิกคาแรคเตอร์ผมเลยครับ ลบภาพเดิมๆ ที่ทุกคนเคยเห็น จริงๆ สำหรับผมแล้วเรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายในชีวิตที่มากเป็นอันดับต้นๆ เลย ด้วยตัวบทที่ต้องเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยตัวบูเองที่ต้องไม่กล้าแสดงออก ผมต้องทำรีเสิร์ชกับการเป็นโรคนี้จริงๆ แล้วก็ทำให้สมบทบาทจริงๆ

บทบูก็ถือเป็นเรื่องไกลตัวเหมือนกัน แล้วเจมส์ต้องปรับตัวอย่างไรบ้างกับการรับบทนี้
โห! นานมากครับ ทั้งการปรับตัวให้เป็นบู ทั้งกับการเล่นสเก็ตบอร์ด ฝึกเกือบปีเลยครับ ผมไม่เคยเล่นมาก่อนด้วย ผมต้องฝึกซ้อมมาเรื่อยๆ แล้วกับเรื่องที่ต้องเล่นเป็นผู้ป่วยภาวะซึมเศร้า เราก็ต้องศึกษาอย่างจริงจัง ศึกษาจากเพื่อนที่เป็นโรคซึมเศร้า จากเพื่อนที่ที่มีโอกาสเป็น และได้คุยกับจิตแพทย์ครับ แล้วอีกอย่างที่ต้องปรับตัวคือการลดน้ำหนักครับ ตอนถ่ายเรื่องนี้ก็ชนกับการถ่ายภาพยนตร์ฉลาดเกมส์โกงพอดี

แล้วเราก้าวข้ามผ่านจาก “เจมส์” มาสู่ตัวละครตัวนี้ได้อย่างไร
มันคือหน้าที่ของนักแสดงที่ต้องเข้าไปในบทบาทครับ ผมอยู่กับบทและตัวละครบูทุกวัน มีสมาธิกับสิ่งที่จะทำ จนได้ลองลงมือทำ ลองเข้าไปเป็นบูให้ได้ จนมีช่วงหนึ่งที่เราตกใจกับตัวเองที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเจมส์คนเดิม ในช่วงที่ถ่ายเสร็จคือเป็นหนักทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน มีเรื่องเข้ามาเยอะมากๆ จนเรารู้สึกจม จนเรากลัวว่าเราจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ผมเลยได้ไปหาจิตแพทย์ หมอบอกว่าเป็นภาวะเครียด เพราะผมนอนไม่หรับและนอนไม่เป็นเวลา มันเป็นช่วงที่ทรมานมากๆ ซึ่งจริงๆ ก็คือการที่เราได้เรียนรู้ตัวละครและได้เติบโตขึ้นไปพร้อมกันครับ

ดาวน์โหลดอ่าน e-Book

DSC_3859 copy

เจมส์ได้รับไรบ้างจากการเล่นซีรีส์เรื่องนี้
ได้เยอะมาก ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่ได้รู้จักโรคนี้เลย พอได้แสดงบทนี้ทำให้เจอตัวเองอีกคนหนึ่ง การจูนคาแรกเตอร์ใหม่ของบู เหมือนได้ใช้ชีวิตกับคนเป็นโรคซึมเศร้าทั้งวันตามคาแรคเตอร์บูที่ผมได้รับ และผมก็ได้พัฒนาเรื่องสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ครับ

เจมส์คาดหวังกับการแสดงครั้งนี้ไว้อย่างไร
ไม่มีคำว่ากลางๆ ครับ มีแค่ดีกับแย่ ต้องเล่นให้ดีครับ จะเล่นต้องสุดทุกอย่าง ทุ่มเทมากๆ ในการแสดงครับ (ยิ้ม) เป็นเรื่องที่ผมยังมีความเด็กในตอนแรกๆ แต่เรื่องนี้ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติอะไรบางอย่างกับการแสดง ผมทำการบ้านหนักมากก่อนที่จะได้ถ่ายในทุกครั้ง ผมได้รับบทนี้ เราต้องทำให้ได้และต้องดี แต่ถ้าถามว่าผมประสบความสำเร็จไหมนะ ผมคิดว่ายังอยากไปอีก พอผมมาอยู่ในฐานะนักแสดง มันไม่มีคำว่าสิ้นสุด เราไม่สามารถอยู่นิ่งได้ มันต้องไปเรื่อยๆ และผมก็พยายามพัฒนาตัวเองตลอด

ฝากถึงคนที่เป็นโรคซึมเศร้า
ผมอยากให้คนในสังคมได้เข้าใจโรคนี้มากขี้น ว่ามันคืออาการป่วย ไม่ใช่เพราะตัวเขาอ่อนแอเขาเลยเป็นโรค แต่เพราะโรคนี้ทำให้เขาอ่อนแอ คนที่เป็นโรคนี้เขาอยากหายแน่นอน แต่มันยังไม่สามารถหลุดออกมาได้ ผมคิดว่าถ้าได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ สังคมไทยน่าจะยอมรับโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

DSC_3943 copy