จับเข่าคุย! “กอล์ฟ-จูเนียร์-ธิชา” สามนักแสดงนำจากซีรีส์ “The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่”

เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์น้ำดีสะท้อนสังคมที่มาปลุกไฟให้กับเด็กจบใหม่ได้เป็นอย่างดี สำหรับซีรีส์ “The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่” ที่ได้ “หนุ่ม กอล์ฟ-พิชญะ, จูเนียร์-ปณชัย,มีน-พีรวิชญ์ และ ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์ มารับบทแสดงนำ

เรื่องราวความสนุกสนานผสมดราม่าของเด็กจบใหม่ในยุคนี้ พวกเขาจะฝ่าฟันความเจ็บปวดเพื่อให้ตัวเองเดินไปถึงจุดหมายของความสำเร็จได้อย่างไร และแต่ละคนรับบทเป็นตัวละครอะไรบ้างในเรื่อง วันนี้ KAZZ จะพาทุกคนไปพูดคุยกับสามนักแสดงนำ กอล์ฟ, จูเนียร์และธิชา ถึงมุมมองและแง่คิดดีๆ ของซีรีส์เรื่องนี้กันเลย…

คาแรกเตอร์​ของตัวละครมีความเหมือนหรือแตกต่างจากตัวตนของเราอย่างไรบ้าง

กอล์ฟ: “ก็แตกต่างนะครับในเรื่องกอล์ฟรับบทเป็น “โค้ชมิกซ์” จะเป็นคนที่มาสอนคนโดยการเอาโค้ชคำพูดต่างๆ จากการไปเสิร์ชในอินเตอร์เน็ตมาสอนคน แต่สวนตัวของกอล์ฟแล้วจะไม่ค่อยชอบลอกงานคนอื่น หมายถึงเอาของคนอื่นมาแล้วมาพูด มาสอนคนอื่นด้วยคำพูดของคนอื่นก็จะรู้สึกกระดากปากนิดหนึ่ง เหมือนไม่สามารถเอางานคนอื่นมาใช้เป็นงานของเราได้ โดยส่วนตัวของกอล์ฟรู้สึกว่าการที่หยิบชิ้นงานของคนอื่นมา เราสามารถเอามาเป็นแรงบันดาลใจได้ หยิบมาแล้วปรับเปลี่ยนแล้วผสมให้เป็นสิ่งใหม่ กอล์ฟเชื่อในการปรับแล้วทำให้เกิดสิ่งใหม่มากกว่าที่จะไปลอกงานคนอื่นมาครับ”

จูเนียร์:  “ในเรื่องผมรับบทเป็น “จ๊อบ” นักเขียนออนไลน์ที่เมื่อก่อนเคยเขียนหนังสือแล้วก็ถูกตีพิมพ์เป็น Best Seller เลย ที่เคยมีชื่อเสียงมากๆ ในสมัยก่อน แต่ว่าพอเรียนจบมาปุ๊บก็ต้องเผชิญปัญหาตรงที่ตัวเองเขียนงานไม่ออก ก็เลยต้องพยายามหาอินสไปเรชันใหม่ๆ เพื่อที่จะมาเขียนงาน  แล้วก็ไปบรรจบลงตรงที่ว่าตัวจ๊อบตัดสินใจจะเขียนซีรีส์วายทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีความชอบและไม่มีความสนใจทางด้านซีรีส์วายเลย แล้วก็จะเกิดปัญหาจุกจิกมากมาย ผมว่าบทบาทของจ๊อบมันไม่ค่อยต่างจากผมเลย มีความเป็นผมอยู่อยู่ประมาณ 95 % จาก 100% ได้ครับ”

ธิชา: “สำหรับธิชารับบทเป็น “เมษา” ค่ะ เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ อันนี้ก็เป็นส่วนแรกเลยที่รู้สึกว่าเหมือนกันก็เลยทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขามีแพชชั่นได้ง่าย พอได้มาเล่นก็รู้สึกว่าตรงนี้คือส่วนที่ทำให้เราเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น พอเขาสนใจในสิ่งที่เราเคยทำมาก่อน หรือว่าเคยทำในสิ่งที่เราทำมาก่อน พอไปเข้าบท พอไปพูดมันทำให้เราไม่ต้องทำความเข้าใจกับบางไดอะล็อกมากนัก คือเราเข้าใจในสิ่งที่ตัวละครพยายามจะสื่อ พยายามจะทำอะไร อันนี้ก็จะเป็นส่วนที่เข้าใจเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ตัวเมษาเขาเป็นคนที่สุดโต่งไปซะทุกอย่าง ทำอะไรก็จะทำสุดแล้วก็ต้องการเป็นที่ยอมรับ ต้องการเป็นคนที่โดดเด่น อยากเป็นคนที่มีคนสนใจมากๆ เพราะฉะนั้นเขาก็จะรู้สึกอยากจะกระโจนลงไปทุกกอย่าง อันนั้นชาก็ต้องมาทำการบ้านว่าอะไรที่ทำให้เขากล้าที่จะทำ ยอมที่จะแลกเพื่อให้ได้สิ่งที่ได้มา มันก็จะมีปมของครอบครัวด้วย ส่วนตัวเมษาก็จะมีพี่ชายในเรื่องก็จะเป็นพี่หน่อง (ธนา ฉัตรบริรักษ์) ด้วยแล้วก็มีฮาย (พิชญ์พิสิฐฎ์เสฎ) รับบทเป็นพิกเลตเพื่อนสนิท ตัวละครสองตัวนี้ก็เป็นตัวที่ทำให้ตัวละครตัวนี้เปลี่ยนไป มีการพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักดีค่ะ”

ถ้าเป็นบัณฑิตเจ็บใหม่ในยุคนี้จะหาทางออกให้กับตัวเองยังไงบ้าง

จูเนียร์: “ถ้าเป็นผมโดยส่วนตัวแล้วผมก็จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบไปเรื่อยๆ ถ้าอันไหนมันไม่เวิร์ค มีหนึ่งแล้วก็ต้องมีสองสามสี่ไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าถ้าเป็นสมัยก่อนคนเขาจะไปโฟกัสในเรื่องของความสำเร็จ เรื่องเม็ดเงิน เรื่องการอยู่สบายของตัวบุคคลซึ่งจริงๆ แล้วผมรู้สึกว่าเงินมันก็ทำให้มีความสุขมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ว่าความสุขจริงๆ คือการที่เราได้ทำในสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีทาง ทำให้เรารู้สึกว่าการที่เรามีชีวิตอยู่มันมีความหมาย เงินคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุข แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง”

ธิชา: “เอาจริงๆ แล้วชารู้สึกว่าไม่ใช่แค่บัณฑิตที่จบใหม่หรอก แต่สุดท้ายแล้วชีวิตเราก็จะมีปัญหาไปเรื่อยๆ แหละ ไม่ใช่แค่ตอนเรียนจบ หรือยังไม่ได้เรียน อยู่ที่ว่าเราจะมองมันเป็นปัญหาหรือเปล่ามากกว่า เพราะว่าเราไปทำงาน อาจจะมีปัญหากับเพื่อนที่ทำงาน ปัญหามันมีทุกวันและมันมีทุกอย่าง มันอยู่ที่ว่าเราจะมองมันเป็นปัญหาไหม ถ้ามองมันเป็นปัญหาแล้วเราจะแก้ปัญหานั้นยังไง ชารู้สึกว่าการเจ็บปวดหรือความผิดหวัง หรือการที่เราไม่ประสบความสำเร็จ มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา ประสบความสำเร็จคือโบนัส แล้วตอนนี้เรากำลังวิ่งตามโบนัสอยู่เท่านั้นเอง แต่ว่าการที่ได้ทำสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบชารู้สึกว่ามันคุ้มแล้ว เท่าทุนแล้ว นอกนั้นถ้าจะได้มาก็ถือว่าเป็นกำไร เพราะฉะนั้นเจ็บไปเถอะค่ะ เพราะยิ่งเจ็บเยอะเท่าไหร่เราก็ยิ่งแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งมีภูมิต้านทานที่จะไปเจอสิ่งอื่นๆ มากขึ้น”

ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์

ข้อคิดดีๆ ที่ได้จากซีรีส์ “บัณฑิต​เจ็บใหม่”

กอล์ฟ: “ให้เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีใครมาพูดให้เราเดินไปทางไหน ให้เชื่อเซ้นต์เรามากที่สุด ไม่ว่าเราจะเชื่อแล้วเราจะเดินไปข้างหน้า แล้วเราจะมีหกล้มก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วการที่เราล้มมันคือการทำให้เราเรียนรู้ว่าเราเลือกทางผิดนะ ต้องหาทางใหม่ไปทางซ้าย แล้วลองดูสิว่ามันโอเคไหม คนเรามันคือการเรียนรู้ทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้นการที่เราจะผิดพลาดอะไรมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด มันคือผิดเพื่อให้ถูก เหมือนอย่างตัวกอล์ฟเองก็เคยทำผิดมีบ้างที่แบบหกล้ม แต่เราก็พยายามบิ้วตัวเองขึ้นมาทำให้มันดียิ่งขึ้นครับ ดูจากข้อผิดพลาดของเรา แล้วก็แก้ไข มันก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่ามันคือชีวิตของมนุษย์ทุกคนครับ”

จูเนียร์: “ข้อคิดจากซีรีส์เรื่องนี้จากที่ได้เล่นและได้อ่านบทมา สิ่งที่คนดูที่จะได้จากซีรี์เรื่องนี้ก็คือแรงบันดาลใจที่จะสามารถทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบใหม่มีไฟในการที่จะออกมาทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบมากขึ้นในเรื่องจะมีหลายตัวอย่างว่าคนที่ออกมาทำตามสิ่งที่ตัวเองรักบางทีก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จนะ แต่ว่าเขาได้เรียนรู้อะไรจากที่เขาทำพลาดมาเพื่อที่เขาจะนำมาปรับปรุงในอนาคต หรือบางคนประสบความสำเร็จ แต่มารู้ทึหลังว่าจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้อยากทำสิ่งนี้มาตั้งแต่แรก แต่ว่าเราอยากทำสิ่งอื่นมากกว่า แต่สิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่มันเข้ามากระทบเราตอนแรกเฉยๆ ผมรู้สึกว่าคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้จะได้รับแรงบันดาลใจ แล้วจะได้ข้อคิดประมาณนี้ครับ”

ธิชา: “อย่างแรกที่ผู้ชมจะได้รับก็คือความสนุกสนานเพราะว่าเป็นซีรีส์คอมเมดี้ นอกจากจะได้แรงบันดาลใจแล้วเรายังได้เห็นสิ่งที่เราอาจจะยังไม่กล้าทำ สิ่งที่เราอาจจะมีการตั้งคำถามกับคนที่เราเห็นว่าเขาทำ ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา เขาเป็นคนยังไงกัน คำถามนี้แหละมันจะหมดไปถ้าเราดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วไม่ได้มองแค่ความตลกนะ แต่มองลึกลงไปถึงความรู้สึกของคนที่กำลังจะเจอสิ่งนั้นอยู่จริงๆ ชารู้สึกว่าเวลาที่เราดูสิ่งนี้แล้วเราสามารถเอากลับมาคิดกับตัวเองได้ว่าจริงๆ แล้วคนเรามันไม่ได้อยู่แค่นั้น มันลึกลงไปแล้วมันลึกลงไปได้อีก แล้วชารู้สีกว่าจริงๆ แล้วเราอย่าไปคิดอะไรมากเลย อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวเราจะเจ็บ เดี๋ยวเราจะอย่าไปทำอย่างนั้นนะมันอาจจะไม่เวิร์ค หรือไปทำอย่างนี้ดีกว่านะอาจจะเวิร์ค ให้ออกไปทำตามความฝันเถอะเพราะคนอื่นเขาออกไปตามกัน ถ้าเราอยู่นิ่งๆ แล้วเราจะกลายเป็นคนขี้เกียจ ชารู้สึกว่าไม่ต้องไปคิดหรอกว่าเขาทำกันยังไง อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะชีวิตของเรา สนุกจะตายใช้ชีวิต ลองไปดูตัวละครในเรื่องนี้ใช้ชีวิตสิสนุก แล้วก็ลองใช้ชีวิตที่ไม่ต้องฝึกขนาดนั้นก็ได้ แต่ก็เต็มที่กับมันในแบบที่มันสร้างสรรค์”

พิชญะ นิธิไพศาลกุล

ความสนิทสนมระหว่างพี่น้องในกองถ่าย

กอล์ฟ: “จริงๆ แล้วกับน้องๆ ก็เฟรนด์รี่มากๆ ถ้าสมมติเทียบกับกองอื่นๆ ที่เราไปถ่ายบางทีกับนักแสดงเราจะไม่ค่อยได้คุย ไม่ค่อยได้เล่น แต่ว่ากองนี้เป็นกองที่แบบน้องๆ เขาเข้าหาเรา แล้วก็กล้าคุยกล้าเล่น อย่างบางกองที่กอล์ฟไปถ่ายก็คือจะนั่งเงียบๆ กัน เราจะเข้าไปคุยดีไหม เอ๊ะไม่ดีกว่า แต่น้องๆ กองนี้จะเป็นแบบว่าเล่นตลกมุขฮา ธิชาก็สั่งชาชมมาให้นักแสดงคนอื่นกิน น้องจูเนียร์ก็คอยแซวเราเล่นมุข บางทีในฉากน้องบอกพี่กอล์ฟวางมือบนมือผมได้นะครับเดี๋ยวจะหนัก ก็จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ที่บ่งบอกว่าเขาเป็นน้องๆ ที่น่ารัก ตลก และมีความใส่ใจ”

จูเนียร์ : “พี่กอล์ฟจะเป็นคนที่ชอบพูดคำคมตลอดเวลา แล้วรู้เลยว่าพูดเยอะเกินจนสลับคอนเทนต์กัน จำไม่ได้หลายรอบมาก เหมือนพี่กอล์ฟเขาคล่องภาษาอังกฤษแต่พอเป็นภาษาไทยแปลไม่ได้ (หัวเราะ) ถ้าเป้าหมายคือดวงดาวอย่าทำให้ตกท่ามกลางดวงจันทร์ ฮึ! อะไรอ่ะโค้ชมิกซ์! คือพี่กอล์ฟเป็นคนตลกครับ”

ธิชา: “พี่กอล์ฟเป็นคนชอบพูดคำคมเยอะ แล้วมันทำให้เขางง แล้วมันไม่ใช่คำคมภาษาไทยอย่างเดียวภาษาอังกฤษด้วยที่ต้องจำ (หัวเราะ) แล้วพี่กอล์ฟจะเป็นประเภทชอบพูดเล่น ชอบพูดแกล้ง ทำไดอะล็อกแกล้งๆ เติมนั่นเติมนี่ ก็บอกพี่กอล์ฟว่าเดี๋ยวก็พลาดนะเดี๋ยวจำ พี่กอล์ฟก็บอก เฮ้ย! ไม่หรอกพี่จำได้ พอนับ 5 4 3 2 พลาด! (หัวเราะ) ไม่พูดไดอะล็อกที่ซ้อมมา ไปพูดไดอะล็อกเล่นๆ ที่ใช้ไม่ได้ นั่นแหละค่ะพี่กอล์ฟ” (หัวเราะ)

จูเนียร์-ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง

ในสามคนนี้ใครขี้แกล้งมากที่สุด

กอล์ฟ: “นี่! (ชี้ไปทางจูเนียร์) ก็จะมีจังหวะที่เซฟพี่ด้วยการเอามือรองแขนให้ แล้วก็มีตอนที่ตอนที่จูเนียร์ถ่ายซีนลูกบาสมั๊ง แล้วเขาหันหลังให้กล้องแล้วเขาก็ทำหน้าตลกๆ แกล้งแล้วกอล์ฟก็หลุดขำ (หัวเราะ) แต่โชคดีมากที่โค้ชมิกซ์ใส่แว่น คือตอนที่หันไปหาจูเนียร์ แต่ตาโค้ชมิกซ์พยายามเอียงหลบไม่มองจูเนียร์ที่กำลังทำหน้าตลกแกล้งอยู่ เขาเป็นคนขี้แกล้ง (KAZZ : ใครเหมาะที่จะเป็นไลฟ์โค้ชที่สุด?) (หันไปถามน้องๆ) “ใครอยากเป็นไลฟ์โค้ช? (ทุกคนส่ายหน้า) ไม่มีใครอยากเป็นไลฟ์โค้ชเลยครับ สุดท้ายกอล์ฟก็ต้องมาเป็นไลฟ์โค้ชนะครับ ก็อย่าไปเชื่อมากครับไลฟ์โค้ช (หัวเราะ) เชื่อตัวเองดีที่สุดครับ มีจุดยืน”

ฝากผลงาน

กอล์ฟ: “ฝากซีรีส์เรื่อง “The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่” ด้วยนะครับ ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์วัยรุ่นที่มีความสนุกสนาน มีความตลกปนดาร์กๆ แต่ว่ามันสอดแทรกไปด้วยการสอนในเรื่องประสบการณ์ในการที่เราเรียบจบมาแล้วเราจะทำอะไร เราจะต้องเจ็บแบบไหน เราจะต้องทำยังไงมีประสบการณ์แบบไหน เพื่อจะไปเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้ด้วย สนุกด้วย ยังไงก็ฝากซีรีส์เรื่องบัณฑิตเจ็บใหม่ด้วยครับผม”

จูเนียร์ : “อยากจะฝากซีรีส์เรื่อง “The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่” ด้วยครับสามารถดูได้แล้วบน LINE TV ทุกวันพุธ เวลา 20.00 น. ครับผม”

ธิชา: “สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูก็สามารถดูย้อนหลังได้ LINE TV ค่ะ แล้วเจอกันในซีรีส์นะคะ”

*** ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ของนักแสดงจากซีรีส์เรื่อง “The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่” ได้ใน KAZZ MAGAZINE ฉบับที่ 173 ***


สั่งซื้อ Kazz Magazine ได้ที่