จากบทสรุปของมิตรภาพอันงดงามระหว่างแอนดี้และวู้ดดี้ใน ‘ดิสนีย์ พิกซาร์ – ทอย สตอรี่ 3‘ ที่จบลงด้วยการจากลาระหว่างของเล่นและเจ้าของ กับการตัดสินใจของแอนดี้ในการยกของเล่นอันเป็นที่รักของเขาให้กับ บอนนี่ สาวน้อยผู้ที่เขารู้ดีว่าจะดูแลของเล่นของเขาต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนั่นทำให้ผู้ชมต่างคิดว่าทอย สตอรี่ 3 เป็นภาคจบของการผจญภัยอันแสนยาวนาน แต่ในปีนี้ ‘ทอย สตอรี่’ได้กลับมาอีกครั้ง! ภายใต้ความสงสัยของเหล่าผู้ชมว่าภาคต่อครั้งนี้จะมีเรื่องราวเป็นอย่างไร เราจึงมาคลายความสงสัย ด้วยการรวบรวม 4 เหตุผลที่ทำไมทุกคนถึงต้องดู ดิสนีย์ พิกซาร์ – ทอย สตอรี่ 4
- มุมมองใหม่ๆ ของเหล่าของเล่นที่มีต่อโลกอันกว้างใหญ่
สำหรับทอย สตอรี่ 4 นี้ จะเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ออกสู่โลกกว้างของเหล่าของเล่นตัวจิ๋วที่ตื่นเต้นและน่าติดตามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา กับการเดินทางของวู้ดดี้ที่ต้องคอยปกป้องบอนนี่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะผ่านช่วงชีวิตอนุบาลของเธอไปได้ด้วยดี จนกระทั่งการปรากฏตัวของ“ฟอร์คกี้” ช้อนกึ่งส้อมที่บอนนี่ประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งการผจญภัยของวู้ดดี้ในครั้งนี้ได้นำพาเขาไปเจอกับเพื่อนเก่าอย่าง “โบ พี้ป” ที่แนะนำให้วู้ดดี้ได้รู้จักโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ได้บอกเล่ามุมมองระหว่างตัวละครของเล่นมากขึ้นกว่าทุกภาคที่ผ่านมา โดยรับประกันความซึ้งกินใจแบบกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่จน ‘ทิม อัลเลน’ ผู้ให้เสียงเป็น ‘บัซ ไลท์เยียร์’ ที่ต้องหยุดพากย์กลางคันเลยทีเดียว
2. ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยุค 4.0
ด้วยความนิยมอันล้นหลามจากทั้งสามภาคที่ผ่านมาของทอย สตอรี่ ที่ทำรายได้ถล่มทลายและกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจนภาคแรกทำรายได้ไปกว่า 9 แสนเหรียญในปี1995 ต่อด้วยทอย สตอรี่ ภาค 2 ในปี 1999 ที่ทำรายได้ถึง 1.1 ล้านเหรียญ และรายได้มหาศาลของภาคที่ 3 กว่า 1.3 ล้านเหรียญ นี่ทำให้คาดการณ์ได้ว่าแอนิเมชั่นระดับตำนาน อย่าง ทอย สตอรี่ 4 จะกลายเป็นกระแสฮิตติดลมบนด้วยแรงผลักดันของโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะกวาดรายได้เปิดตัวไปไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเหรียญแบบปังๆ ไม่แพ้แอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายไปก่อนหน้านี้ อย่าง โคโค่ วันอลวน วิญญาณอลเวง ที่สร้างรายได้รวมกว่า 1.8 ล้านเหรียญ มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง (Inside out) กับรายได้ 2 ล้านเหรียญ และรวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2 (Incredibles 2) ที่พุ่งไปถึง 2.1 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
3. เหล่าตัวละครเก่าๆ ที่อยู่ในดวงใจคนทั่วโลก รวมถึงตัวละครใหม่ๆ ที่จะมาสร้างสีสันและเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญในภาคนี้
ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าของเล่นในดวงใจแฟนๆ ดิสนีย์ทั่วโลก อย่างนายอำเภอวู้ดดี้ เสือพรานอวกาศบัซ ไลท์เยียร์ แต่ในภาคนี้ยังมีตัวละครใหม่ๆ ที่จะมาสร้างสีสันและความสนุกสนาน เช่น ฟอร์คกี้ ช้อนกึ่งส้อม ของเล่นชิ้นใหม่ตัวโปรดของบอนนี่ที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นของเล่นจนต้องหนีออกจากอ้อมอกของเธอไป นี่จึงบังเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสู่โลกกว้างของเหล่าของเล่น ที่พวกเขาจะได้พบกับเหล่าของเล่นหน้าใหม่ตัวอื่นๆ ระหว่างการออกผจญภัย เช่น ดั๊กกี้กับบันนี่ ของรางวัลในคาร์นิวัล ดุ๊ก คาบูม ตุ๊กตาสตั๊นท์ชาวแคนาดาสุดเท่แต่ขี้กลัว แก๊บบี้ แก๊บบี้ ตุ๊กตาวินเทจที่พยายามหาหนทางให้ตัวเองมีเจ้าของให้ได้ รวมถึงอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่หายหน้าหายตาไปนานอย่าง โบ พี้ป เพื่อนเก่าของแก๊งค์ของเล่นจอมป่วนที่ได้กลับมาปรากฏตัวในภาคนี้อีกครั้งด้วย
4. นักแสดงระดับตำนาน ในฐานะนักพากย์เสียงที่คุ้นเคย
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟนๆ ยังคงติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้มาทุกๆ ภาค นอกจากเนื้อเรื่องอันสุดแสนประทับใจนั้น คือเสียงพากย์จากนักแสดงระดับตำนานที่สร้างสรรคืให้ตัวละครมีชีวิตขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ไม่ว่าจะเป็น ทั้งทอม แฮงค์ และสรพงศ์ ชาตรี ผู้ให้เสียงเป็นวู้ดดี้ ทิม อัลเลน และหนุ่ม สันติสุข ผู้ให้เสียง บัซ ไลท์เยียร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเสริมทัพความมันส์ด้วยคีอานู รีฟส์ ผู้ให้เสียงสตั๊นท์แมนแคนาดาอย่าง ‘ดุ๊ค คาบูม’ และการันตีความฮาด้วยคู่หูดูโอ้อย่างแกน ไมเคิล คีย์ กับ จอร์แดน พีล พากย์เป็นคู่หู่ขนฟูจอมป่วน ดิ๊กกี้กับบันนี่อีกด้วย
ซึ่งในทอย สตอรี่ 4 นี้ได้เล่าถึงวู้ดดี้ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าบอนนี่มีความสุขและเหล่าของเล่นได้รับการดูแล แต่การเจอกันอย่างคาดไม่ถึงกับเพื่อนเก่าของเขา โบ พี้ป ทำให้เขาเห็นว่าโลกนี้ใหญ่กว่าที่เขาเคยคาดคิดนัก ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผจญภัยครั้งใหม่ของเหล่าของเล่นที่คุณรัก ในแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์แห่งปีจากดิสนีย์พิกซาร์ ใครที่โตมาด้วยกัน กับของเล่นแก๊งค์นี้ เตรียมพบกับ Disney Pixar’s – Toy Story4 ทอย สตอรี่ 4 วันที่ 20 มิถุนายนนี้ในโรงภาพยนตร์ โดยสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้า ได้แล้ววันนี้ที่ Box Office และแอพ Major และSF Movie พร้อมรับของที่ระลึกเป็นเข็มกลัดสุดเจ๋ง จากหนังที่มีดีกว่าคำว่าแอนิเมชั่น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://disney.asia/t/1dQD7G
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 155 ได้ที่