จากกรณีการเสียชีวิตของนักแสดงหนุ่ม “เหม-ภูมิภาฑิต นิตยารส ที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการผูกคอบริเวณระเบียงห้องพัก ภายในคอนโดฯย่านลาดปลาเค้า 58 เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา สร้างความเสียใจให้แก่ครอบครัว รวมทั้งเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงหลายราย ซึ่งต่างโพสต์ข้อความอาลัยต่อการจากไปของนักแสดงหนุ่มผู้ล่วงลับรายนี้ ล่าสุด นักแสดงสาว กีฟ-ดราภดา โสตถิพิทักษ์” ที่เคยมีข่าวสนิทสนมกับฝ่ายชาย ได้โพสต์ข้อความสุดเศร้าต่อการจากไปของหนุ่มเหมด้วยเช่นกัน โดยมีข้อความดังนี้
“แต่ก่อนตอนพี่เหมอกหัก ยังได้เป็นที่พักใจ แล้วทำไมครั้งนี้ไม่ให้แม้แต่โอกาสจะได้ประคองตอนที่กำลังจะล้มลง”
ตอนที่สมาชิกบ้านส่งข่าวให้ดู ยังงงอยู่ว่าใช่หรอ อ่านขึ้นไปเห็นหัวสำนักข่าวเป็นข่าวสดเลยช็อคไปเลย น้ำตามันไหลพรากลงมาเอง มือสั่นไม่หยุด ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไม่ได้อยู่กับโทรศัพท์ตลอด เลยไม่เห็นข้อความในไอจีที่เค้าลง ถ้าเห็นคงจะได้โทรไปหาแล้วถามว่าเป็นอะไร ใครทำอะไรรึเปล่า แบบที่เคยๆทำ ข้อความทวิทเทอร์ที่เค้าบอกเป็นนัยๆ เราก็ไม่ได้เล่น เพิ่งได้มาเห็นวันนี้ ในวันที่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว…วันที่ไม่สามารถเรียกอะไรกลับคืนมาได้อีกแล้ว นอกจากความทรงจำระหว่างเรา
“สมัยก่อนสนิทกันมากกกกกกก ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันสองคน บ่อยจนคนคิดว่าเป็นแฟนกัน แต่ความจริงเราเป็นแฝดคนละฝา ชอบหาเสื้อผ้ามาใส่ให้คล้ายกัน ในสมาชิกบ้านทั้งหมด กีฟจะสนิทกับพี่เหมที่สุด เลยจะรักเค้ามากกก เป็นห่วงมากกกก ผูกพันเหมือนเป็นคนในครอบครัว จะบอกให้ทำในสิ่งที่ดี และจะเตือนในสิ่งที่ไม่ดีในขอบเขตที่เราทำได้และในเรื่องที่เค้าบอกให้เรารับรู้ เวลาเค้าโดนใครทำร้ายให้เจ็บ เราจะเจ็บตามเหมือนโดนเอง ตอนที่เค้าเจอเรื่องที่ทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับเป็นวีคๆ เราทรมาณมาก พี่เหมเป็นคนแรกที่ทำให้กีฟรู้จักความรักของพี่น้องต่างสายเลือดที่แท้จริง คอยเป็นห่วง ให้กำลังใจ อยู่เป็นเพื่อนตอนที่เรามีปัญหา เราดูแลกันและกัน
ถึงตอนนี้เราจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเหมือนแต่ก่อน เพราะต่างคนต่างมีแฟน แต่ทุกครั้งที่ได้เจอกัน เราจะเข้าไปกอดเค้าเสมอ บอกเค้าว่าคิดถึงจังเลย เป็นยังไงบ้าง ทุกครั้งเค้าจะจับแขนที่เรากอด ยิ้มแล้วบอกว่าสบายดี ไม่มีสัญญาณของความทุกข์ใดๆให้เห็น หรือเพราะเค้ากลัวว่าเราจะห่วงเค้าหนักมากเหมือนตอนนั้น ก็เลยไม่พูด ไม่บอกให้เราได้รู้ กลัวเราจะทุกข์ใจกับสิ่งที่เค้าเจอ…และท้ายที่สุดความกลัวอีกคนเป็นทุกข์ก็เอาชนะความรัก ความผูกพันระหว่างเรา พรากเราสองคนจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมอีกคนถึงตัดสินใจจะจากไปแบบไม่มีวันกลับในที่สุด
ไม่ได้มีโอกาสบอกลา
ไม่ได้มีโอกาสกอดลาตอนที่เค้ายังรับรู้ได้
ไม่ได้มีโอกาสจะรับฟังความทุกข์ที่ฝังลึกอยู่ในใจ
ไม่ได้มีโอกาสจะกุมมืออยู่ใกล้ๆตอนที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะหมดลง
ไม่ได้มีโอกาสให้ทำอะไรเลย…ทำได้แค่ร้องไห้ เสียใจ ครั้งเมตรว่าหนักแล้ว ครั้งนี้มันยิ่งกว่า ยิ่งนึกถึงความรู้สึกตอนที่เค้าอยู่ลำพังกำลังจะดับไฟชีวิตของตัวเองลง ความรู้สึกตอนนั้นมันจะต้องหนักขนาดไหน ถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น ทำไมไม่โทรมา ทำไมไม่โทรมา
เครดิต : อินสตราแกรม givedrarpdar_s hem_ppd