ดูเหมือนว่าวงการ K-POP จะมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ล่าสุดหนุ่ม ‘Wonho’ หนึ่งในสมาชิก MONSTA X ก็กำลังตกเป็นข่าวใหญ่หลังจากที่ ‘Jung Da Eun’ หนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป ‘2EYES’ ได้โพสต์ภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวซึ่งเป็นภาพของ Wonho ในจอทีวีพร้อมข้อความทวงเงินที่ยืมไปว่า “Ho Seok (ชื่อจริงของ Wonho) คุณจะจ่ายเงินคืนเมื่อไหร่ คิคิคิ”
และประเด็นการทวงเงินไอดอลชื่อดังผ่านทางสื่อโซเชียลในครั้งนี้ก็ยิ่งเป็นประเด็นร้อนแรงมากขึ้นเมื่อ ‘Han Seo Hee’ (แฟนสาวของ Jung Da Eun) ที่เคยมีข่าวฉาวเกี่ยวกับยาเสพติดกับไอดอลชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็นแร็ปเปอร์หนุ่ม T.O.P -Bigbang และ B.I – iKON ก็มาคอนเมนต์ว่า “คืนเงิน 30 ล้านวอนให้ Da Eun ซะที” ซึ่งก่อนหน้านี้ Jung Da Eun และ Wonho เคยปรากฏตัวร่วมกันในรายการ ‘Ulzzang Era’ ในอดีต
ซึ่งการโพสต์ข้อความทวงเงินจนกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบทำให้ Wonho ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของ ‘MONSTA X’ ในเวลาต่อมา โดยทางต้นสังกัด ‘Starship Entertainment’ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ว่า Wonho ได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของ MONSTA X อย่างถาวร และจะมีการโปรโมตผลงานใหม่โดยสมาชิกที่เหลืออยู่ทั้งหกคนนับตั้งแต่วันนี้ ซึ่งการตัดสินในใจครั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์ของ Wonho เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นกับ MONSTA X และทาง Starship Entertainment ก็มีมาตราการที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อข่าวลือที่เป็นอันตรายต่อศิลปินในสังกัดด้วย
เกี่ยวกับการถอนตัวของ Wonho จากการเป็นสมาชิกของ MONSTA X
ทางด้าน Wonho ก็ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองเกี่ยวกับประเด็นการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของวง MONSTA X โดยมีใจความว่า
“นี่คือวอนโฮ
ก่อนอื่นผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ผมจะมอบความทรงจำที่ดีให้กับแฟน ๆ ของเราและทำให้พวกเขาเจ็บปวด นอกจากนี้ผมต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความกังวลกับคนจำนวนมากที่เกิดจากปัญหาส่วนตัวของผม
ผมได้รับพรและความรักที่ไม่สมควรในขณะที่โปรโมตผลงานในฐานะสมาชิกของ MONSTA X ผมขอขอบคุณอย่างจริงใจที่มอบความทรงจำที่มีค่าให้กับผม สำหรับสมาชิกที่ทำงานอย่างหนักกับผมและใช้เวลาอยู่กับผม ผมอยากจะบอกพวกเขาว่าผมรู้สึกขอบคุณและรักพวกเขา [ผมอยากแสดงให้พวกเขาเห็น] หัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอโทษของผม
มีครั้งหนึ่งที่ผมยังเด็กและทำเรื่องผิดพลาดทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก แต่หลังจากกลายเป็นเด็กฝึกหัดและเริ่มเดบิวต์ผมก็ยังคงเดินหน้าต่อไปและทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำอันน่าละอายใจของตัวเอง
ผมกำลังประกาศว่าผมจะออกจาก MONSTA X วันนี้
ผมขอโทษที่ทำให้สมาชิกเกิดความเสียหายเนื่องจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผม ยิ่งกว่าสิ่งใดผมขอโทษสำหรับความผิดหวังของแฟน ๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผม ผมมาถึงการตัดสินใจครั้งนี้หลังจากที่ได้เห็นว่ามีคนจำนวนมากต้องมาพบกับปัญหายุ่งยากที่เกิดขึ้นเพราะผม
นอกจากสมาชิกของเราแล้ว ผมอยากจะขอกราบขอโทษด้วยความจริงใจต่อแฟน ๆ ที่เชื่อในตัวผมและสนับสนุนผมอีกครั้ง
กรุณาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ MONSTA X
สมาชิกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม
ผมอยากจะขอให้คุณให้การสนับสนุนและให้กำลังใจแก่สมาชิก
พวกเขาคือคนที่ดีเกินกว่าที่จะหยุดและได้รับบาดเจ็บเช่นนี้เพราะคนอย่างผม
ผมรู้สึกขอบคุณและขอโทษต่อสมาชิก ทีมงาน และสุดท้ายแฟนๆ ของเราที่ทำให้ผมได้เพลิดเพลินกับความสุขจนถึงจุดนี้”
ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของวง MONSTA X
ซึ่งการตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกวง MONSTA X ของ Wonho ในครั้งนี้เป็นการเลือกที่จะออกจากกลุ่มเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสมาชิกทั้ง 6 คนที่เหลืออยู่ ท่ามกลางความรู้สึกเศร้าของแฟนๆ ที่ต่างก็รู้สึกช็อกไปกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่ประเด็นข่าวร้อนของ Wonho ดูเหมือนว่าจะไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะล่าสุดสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง Dispatch ได้รายงานข่าวว่า Wonho และ Jung Da Eun ได้เคยสูบกัญชาด้วยกันในห้องนั่งเล่นในเดือนตุลาคม 2013 หลังจากที่ทั้งสองคนพบกันที่ร้านกาแฟและออกจากร้านกาแฟไปที่บ้านของ Jung Da Eun และสูบบุหรี่กัญชาที่ Wonho ถือติดมือมาสูบในห้องนั่งเล่น พวกเขาสูบบุหรี่โดยไม่ทราบว่า ‘Jo’ อดีตผู้อำนวยการคลับฉาว Burning Sun และต่อมาเปลี่ยนตำแหน่งเป็น MD ยังอยู่ในบ้านและแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า ซึ่งในขณะนี้ Jo ได้ถูกกักกันตัวอยู่ที่ศูนย์กักกันในกรุงโซล เพราะถูกกล่าวหาว่าใช้ยาเสพติด อาทิ กัญชา,ยาบ้า, และยาเค แต่ Jo ยังคงจำเหตุการณ์ทั่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2013 อย่างชัดเจน
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น Jo เห็น Da Eun เดินเข้ามาในบ้านพร้อมผู้ชายคนหนึ่งที่เรียกชื่อว่า ‘Se Seok’ ได้ยินการสนทนาของ Wonho และ Da Eun จากตู้เสื้อผ้าด้วย พวกเขาคุยกันเรื่องกัญชา หลังจากนั้นไม่นาน Jo ก็ได้ยินเสียงไอ และได้กลิ่นของกัญชาลอยมาจากห้องนั่งเล่น จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็เดินออกจากบ้านไปแล้ว Jo ก็เดินออกจากตู้เสื้อผ้าในเวลานั้น
เคยสูบกัญชากับ Wonho ในห้องนั่งเล่นที่บ้านของตัวเอง
ในเดือนตุลาคม 2019 ทาง Da Eun เองก็ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นเมื่อถูกสอบถามว่า Wonho สูบกัญชาจริงหรือไม่ ซึ่ง Da Eun ก็สามารถจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างถูกต้อง เธอยังอธิบายรูปแบบของบ้านในเวลานั้น และบอกว่าเธอพบกับ Wonho ที่ร้านกาแฟใกล้บ้านของเธอ โดย Wonho ได้หยิบกระเป๋าซิปที่มีกัญชาอยู่ในนั้นให้ดู แต่เมื่อถามว่าเขารับมาจากไหน Wonho ก็บอกว่ามันเป็นความลับ และ Da Eun ก็ยอมรับว่าเรื่องที่เธอสูบกัญชาอยู่กับ Wonho นั้นเป็นความจริง และ Jo ก็อยู่ในตู้เสื้อผ้าและได้ยินบทสนทนาในขณะนั้น
ในเดือนกันยายน 2019 ตำรวจได้ทำการสอบสวนภายในเกี่ยวกับคดีเดิมที่เกี่ยวข้องกับ Wonho โดยมีการสอบสวนดำเนินการโดยทีมสืบสวนยาเสพติดสองแห่งในหน่วยงานตำรวจระดับจังหวัด อย่างไรก็ตามทาง Dispatch ระบุว่ามีความสับสนในกระบวนการ ปัญหาหนึ่งคือทีมสืบสวนยาเสพติดหนึ่งคนได้รับคำแนะนำจาก Jo เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขายังได้รับคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยให้ Jung Da Eun โดยตำรวจระบุว่าคำให้การของพวกเขาน่าเชื่อถือ แต่ในช่วงเวลาของการสืบสวน Jo อยู่ในศูนย์กักกันในกรุงโซล ส่วน Jung Da Eun อยู่ที่ศูนย์กักกันที่ Gwangju พวกเขาอยู่ในศูนย์กักกันที่แตกต่างกัน แต่แถลงการณ์ของพวกเขาที่เกี่ยวกับ Wonho มีความสอดคล้องกัน
ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2019 ในขณะที่ MONSTA X กำลังเดินทางกลับเกาหลีหลังจากคอนเสิร์ตในประเทศเยอรมนี ทีมสืบสวนยาเสพติดหนึ่งคนกำลังรอเขาที่สนามบินนานาชาติอินชอน พวกเขานำตัวอย่างผมจาก Wonho ไปทดสอบยา
ตำรวจไม่ได้เปิดเผยผลการทดสอบยาและไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับการสืบสวน ขณะนี้กำลังตรวจสอบภายในกรณีพระราชบัญญัติของข้อจำกัดสำหรับกรณียาเสพติดคือ 7 ปี ซึ่งหมายความว่ามีเวลาเหลืออีกประมาณ 1 ปีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนคดีกัญชาของ Wonho จึงต้องสอบสวนคดีนี้อย่างรวดเร็ว หาก Wonho ปฏิเสธที่จะไม่ทำตามคำขอเรียกร้องของทีมสืบสวน ข้อบังคับของข้อจำกัดดังกล่าวอาจสิ้นสุดลง แต่ในขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้เรียก Wonho มาให้ปากคำเพิ่มเติม ปัจจุบันทีมสืบสวนกำลังมุ่งเน้นไปที่การใช้ยาเสพติดของ Wonho
ข้อมูลจาก : soompi, dispatch.co.kr, allkpop, Twitter STARSHIPent, IG cvors, hxxsxxhee
ภาพจาก : Twitter STARSHIPent, officialmonstax, IG cvors, hxxsxxhee
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 159 ได้ที่
