เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวที่ไม่ธรรมดาของ 4 สหายจ๊วบจ๊วบ ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์, อาย-กมลเนตร เรืองศรี,ตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์และ มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ที่พาทุกคนไปท่องเที่ยวในประเทศไทยกันฟินๆ ในรายการเรียลลิตี้เชิงท่องเที่ยว “ไทยแลนด์, ไอ มิส ยู!” (Thailand, I Miss You!) หลังจากที่ออนแอร์ไปได้ 2 EP. ก็ปรากฏกว่ากระแสดีเกินต้านจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ TOP 2 ประเทศไทยภายในเวลาอันสั้นอย่างรวดเร็ว!
การได้มาร่วมงานกันครั้งแรกของ “ออกัส-อาย-มีน-ตี๋” จะเป็นอย่างไร รวมถึงการได้ก้าวขึ้นมาเป็นพิธีกรดาวรุ่งออกเดินท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวในรายการ ไทยแลนด์, ไอ มิส ยู! จะสวยงามขนาดไหน ไปฟังจากปาก “ออกัส-อาย-มีน-ตี๋” กันเลย…
ออกัส : สวัสดีชาว KAZZ MAGAZINE นะครับ ผม ออกัส-วชิรวิชญ์ ครับ
ตี๋ : ผม ตี๋-ธนพล ครับ
อาย : อาย กมลเนตรค่ะ
มีน : ผมมีน พีรวิชญ์ครับผม 4 สหายจ๊วบจ๊วบจากรายการ “Thailand, I Miss You! (ไทยแลนด์, ไอ มิส ยู!) ครับ
ความประทับใจที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรก
อาย : ตอนแรกสุดที่เราเจอกันครั้งแรกรวมตัวกันที่งานแถลงข่าวก็ยังเกร็งๆ กันอยู่เพราะว่ายังไม่เคยร่วมงานกันแบบจริงจัง ยกเว้นอายกับกัสที่เคยเล่นละครด้วยกัน แต่ตี๋กับมีนก็ไม่เคยรู้จัก ก็ได้มาร่วมงานกันในรายการ Thailand, I Miss You! ค่ะ ไปละลายพฤติกรรมกันจริงๆ ก็ตอนที่เดินทางออกทริปเลย ก็คือทริปเชียงใหม่
ตี๋ : เป็นยังไงบ้างได้เจอพวกผมทั้งสองคนแล้วดีใจไหม
ออกัส : พอเขาตอบไม่ได้เขาเป็นพิธีกรเลยนะ เขาถาม (หัวเราะ)
อาย : ถ้าเขาถามว่ามาจากใครต้องบอกมาจากคุณใช่ไหม พอมาเจอมีนกับตี๋แล้วรู้สึกว่าไม่ตรงกับภาพที่คิดไว้
ตี๋ : ไม่ตรงปกเหรอ
ออกัส : บีบรูปเหรอ (หัวเราะ)
ตี๋ : คนนี้คิดว่าจะดีก็ไม่ดี
อาย : ไม่ใช่ แต่ว่าเป็นไปในทาง positive นะคะ คือไม่ได้บอกว่าเราจะมองน้องไม่ดี แต่ว่าเราก็ไม่คิดว่าเขาจะ Nice จะน่ารักขนาดนี้
ตี๋+ออกัส+มีน : ขอบคุณครับบบ (ตบมือเกรียวกราว)
ตี๋ : ก็มีตรงปกบ้างไม่ตกปกบ้างครับผม ก็อย่างที่คิดไว้เลยครับ พี่อายที่ว่าตอนแรกเลยว่าจะต้องเป็นผู้นำแน่ๆ เลย แล้วก็เป็นผู้หญิงแกร่งที่ดูแลน้องๆ ได้ แล้วก็ลุยๆ ซึ่งความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้นครับ พี่อายพอไปถึงที่ก็ดูแลน้องๆ
อาย : ซึ่งจริงๆ แล้ว เราอยากเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ ทุกคนเข้าใจไหม เราอยากเป็นผู้หญิงที่น่ารักแล้วให้ทุกคนดูแลเรา แต่มันไม่ได้
ออกัส : เพราะว่าผมกลัวจิ้งจก
ตี๋ : ออกัสหนีจิ้งจกก็ต้องมาช่วยออกัส
ออกัส : กัสนอนไม่ได้พี่อายก็จะมาไล่ตุ๊กแกให้ไปๆ!
อาย : แกชั้นดูแมนเกินไป ไม่ได้ขนาดนั้นค่ะ
ตี๋ : แต่ว่าออกัสไปที่ไหนก็เจอตุ๊กแก ไปนอนที่ไหนก็โดนหมดนิ
ออกัส : กลัวอะไรเจออย่างนั้นผมอ่ะ คือนอนที่แรกผมกลัวจิ้งจกมาก ก็เจอ เปิดประตูมาจะหาทุกคนนี่แหละจิ้งจกตกปั๊บ! ตายด้วย ก็ตะโกนกู๋ช่วยด้วย
อาย : ซึ่งจิ้งจกตัวเล็กมากเราแค่เดินข้ามไปมันก็คือจบแล้วอ่ะ
มีน : จิ้งจกตัวนิดเดียวไปกลัวอะไร
อาย: อย่างมีนกลัวผักผลไม้ กลัวเงาะจับผักจะให้นกก็คือต้องขอทำใจก่อน อย่างผักกาดกลัวอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ แล้วคือเราเป็นคนปกติ พอพี่ปกติพี่ก็เลยดูแกร่งมากในสายตาของทุกคน แต่จริงๆ พี่เป็นคนปกติถ้าพี่ไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น พี่อาจจะเป็นผู้หญิงบอบบางที่ผู้ชายควรจะต้องดูแลแต่กลายเป็นว่า “เดี๋ยวพี่จัดการเอง” (ฮา)
ออกัส : นี่คือความประทับใจทั้งหมด
มีน : ก็เป็นพี่ๆ ทั้งสามคนที่รู้จักกันมาแบบผ่านๆ ไม่ได้ร่วมงานกันบ่อยๆ เท่าไหร่ พอมาร่วมงานกันจริงจังก็สนุกดีครับ ได้ทำตัวเป็นน้องเล็กที่น่ารักเชื่อฟังพี่ๆ ครับ ก็รู้สึกว่าสบายใจครับที่พี่ๆ ทุกคนคอยดูแลผมคอยป้องกันผมเหมือนไข่ในหินครับผม
การเดินทางถ่ายทำรายการ Thailand I Miss You ได้เปิดมองมุมมองใหม่ๆ อะไรให้กับตัวเองบ้าง?
ตี๋ : ได้นั่งบอลลูนครับ ตี๋เป็นคนเชียงใหม่ที่ไม่รู้เลยว่ามันมีบอลลูนอยู่ในเชียงใหม่ด้วยเหรอเป็นครั้งแรกเลยครับที่เราได้นั่งบอลลูนแล้วก็ลุ้นระทึกระหว่างการลง
อาย : คือบอลลูนลูกที่ขึ้นเรามีปัญหานิดหนึ่งค่ะ คือตอนขึ้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนลงมีปัญหาตรงที่หาที่แลนดิ้งไม่ได้ แต่มันเป็นปัญหาใหญ่มาก ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศของเชียงใหม่มันจะมีแปลงเกษตรเยอะมากไม่ว่าจะเป็นแปลงผักแปลงนา แล้วมันต้องหาที่โล่งประมาณหนึ่งที่น้องจะต้องแลนดิ้งได้ แล้วที่นี่มันหาไม่ได้บวกกับทิศทางลมมันเปลี่ยนด้วย ทำให้เราก็ลุ้นระทึกว่าก๊าซจะหมดรึเปล่า อันนี้ก็คือความสนุกมากที่มันเรียลจริงๆ แล้วถ้าลงไปในที่ๆ ไม่สมควรจะแลนดิ้งก็เท่ากับว่าเราจะไปสร้างความเสียหายให้กับพืชผักเกษตรต่างๆ ก็ต้องเสียตังค์ มันก็เป็นความลุันระทึกแต่ก็ต้องยกคุณงามความดีให้กับทีมกัปตันแล้วก็พี่ๆ ทีมงานที่ดูแลบอลลูนที่เขาจะมาคอยเซฟดูแลความปลอดภัยให้ตลอด
มีน : แต่ผมมีเรื่องๆ หนึ่งนะครับที่คาดไม่ถึงจริงๆ ผมบอกได้เลยว่าทีมงานน่ารักกับผมมากเลยครับ ที่นอนดีมากคืนละแสนให้ผู้จัดการนอนนะครับ พวกเรานอนคืนละสามหมื่น แต่ว่าได้นอนสองชั่วโมงได้
อาย : เราได้ที่นอนดีมากก็ต้องขอขอบคุณทีมงานจริงๆ
ออกัส : ต้องบอกก่อนว่าเราถ่ายทำกันอึดมากนะ ตื่นมาตีห้าหกโมงก็ต้องถ่ายแล้ว
อาย :มันมีวันหนึ่งที่อายต้องตื่นตีมาแต่งหน้าตอนตีสาม ด้วยความเป็นผู้หญิงต้องตื่นมาแต่งหน้าก่อน พอมาถึงปุ๊บเห็นมีนนั่งแต่งหน้าอยู่ก่อน ก็ประทับใจมากเพราะตั้งแต่ทำงานมาทั้งชีวิตไม่เคยเจอผู้ชายมาแต่งหน้าก่อนเลย ส่วนใหญ่จะเจอแต่ผู้หญิงที่ต้องมาแต่งหน้า ก่อนอันนี้เป็นความประทับใจมีนมากว่ามีนเป็นคนที่เอาการเอางานมากๆ อันนี้ขอชื่มเลยว่าใครอยากจะเชิญน้องมีนร่วมงานเอาเลยค่ะ เพราะว่ามีนเป็นคนที่มีสปิริตในการเป็นนักแสดงมากๆ ค่ะ
ออกัส : สำหรับกัส ตอนแรกกัสไม่ได้เป็นคนที่ชอบทะเลเพราะว่ามันร้อน ก็จะชอบภูเขามากกว่าแต่พอได้ไปสองที่แล้วช่างน้ำหนักดูแล้วรู้สึกว่า อยู่ดีๆ กลายเป็นว่ากัสเลือกภูเก็ต กัสชอบภูเก็ตมากกว่าเพราะมันมีกิจกรรมอะไรต่างๆ ให้ทำ มีเซิร์ฟบอร์ดให้เล่น ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่ที่ไม่คิดว่าจะได้ทำจะได้มาเจอ แล้วพอได้ทำมันก็รู้สึกสนุก เป็นอะไรที่เราได้เรียนรู้จากมัน
สไตล์การท่องเที่ยวของแต่ละคนแบบไหน?
ออกัส : ของผมชอบไปลำบาก ผมไม่ได้ชอบไปสบาย อย่างที่ภูกระดึงกับด่านช้างครับ
ตี๋ : มีอยู่สองที่ที่ออกัสไป
ออกัส : ผมชอบไปลำบากแล้วนอนก็ไม่สบาย ถ้าเป็นที่นอนก็นอนเต้นท์อะไรอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าการที่ได้ไปลำบากระหว่างทางมันสวยงาม เรามีความสุขกับระหว่างทางมากกว่าปลายทางที่เราจะต้องไปด้วยซ้ำ ก็เลยรู้สึกว่าการไปลำบากมันมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า
ตี๋ : ส่วนตี๋คือสายกินครับผม ชอบสตรีทฟู้ด ชอบไปดูงานคราฟท์ ไปเที่ยววัดครับ ส่วนพี่อายจะชอบเที่ยวแบบธรรมชาติ แต่ว่าที่เที่ยวธรรมชาติเขามีหลายที่มาก เดาไม่ถูกเขาเปลี่ยนที่เที่ยวธรรมชาติไปทุกอัน
ออกัส : เขาพกยาเขียวไปด้วยคนนี้
อาย : เรามาคุยกันเรื่องยาเขียวดีกว่าเราทุกคนชอบอะไรที่มันโบราณ มีสตอรี่ คือสมุนไพรมันดีไงคะทุกคน ที่ไหนที่ไปเที่ยวแล้วมันมีดีเทล มีสตอรี่ มีของฝากเราจะชอบ แล้วชอบมาพวกสินค้าโอท็อป แต่ว่าไม่ได้อยากให้มองว่ามันดูแก่ จริงๆ แล้วมันร่วมสมัยได้ แล้วก็ยังช่วยชุมชนด้วยค่ะ สร้างงานสร้างรายได้
ตี๋ : ได้ข่าวว่าอยากเป็นพรีเซ็นเตอร์เองด้วยเหรอ
อาย : อยากเป็นพรีเซ็นเตอร์ยาเขียวมาก ถ้าไม่จ้างก็จะผลิตเองแล้ว (ฮา)
ตี๋ : มีสโลแกนว่าอะไรนะ?
อาย : ยาเขียวใช้แล้วดี ยาเขียวตราอาย กมลเนตร ยาเขียวหนึ่งเดียวในใจ
มีน : ผมชอบเที่ยวชิลล์ๆ ครับ แต่ผมอยากจะบอกว่าผมชอบชอปปิ้งนะ แล้วที่ผมกับพี่อายไปก็จะชอบไปซื้อของตามชาวบ้าน กางเกงตัวละ 250 บาท รองเท้าแตะหรืออะไรที่เป็นของท้องถิ่นในจังหวัดนั้นๆ
นิยามคำว่า “Thailand” และ “i miss you” ในความรู้สึกของแต่ละคน
อาย : ในความหมายของเรานะ เรารู้สึกว่าช่วงเวลาที่เราไม่ได้ออกไปเที่ยวกันเลย เราเชื่อว่ามันเป็นทุกคนเลย เราคิดถึงการเดินทาง เอาง่ายๆ คิดถึงการออกจากบ้านในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ทุกอย่างมันล็อคดาวน์ แล้วเราก็ได้เสพธรรมชาติหรือเสพสถานที่ท่องเที่ยวผ่านแค่รูปถ่ายที่เคยไปหรืออะไรที่คนเริ่มเอามาแชร์ Throwback คิดถึงอะไรแบบนี้ แล้วเมื่อวันหนึ่งเราได้ออกเดินทางเริ่ม เราก็ไปสัมผัสแบบธรรมชาติจริงๆ สถานที่ท่องเที่ยวตรงนั้นจริงๆ เราก็เลยรู้สึกว่านี่แหละคือมันสมควรแล้วกับการที่เราจะไปตะโกนว่า Thailand, I Miss You! ค่ะ
มีน : ครับสำหรับมีนก็รู้สึกว่ามันคือความคิดถึงที่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงช่วงเวลาที่เราเคยสนุก เคยท่องเที่ยวกันพอมันย้อนกลับมาในรูปแบบใหม่ๆ ในกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ มันทำให้ภาพจำเดิมๆ มันอาจจะเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเราอาจจะชอบเชียงใหม่ในอีกรูปแบบนี้ แต่ว่าพอเราได้อยู่กับคนกลุ่มนี้ก็จะเห็นว่าเรามีมุมมองในเชียงใหม่ที่เปลี่ยนไป แล้วก็ชอบอะไรที่หลากหลายมากขึ้น สนุกมากขึ้นแล้วเราก็อยากให้ทุกคนชอบทั้งสองจังหวัดนี้เหมือนกันกับที่พวกเราชอบแล้วก็สนุกแล้วเราก็หวังว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีโอกาสได้มาเที่ยวก็อยากให้ทุกคนมาตามรอยพวกเรา เอาพวกเราเป็น Reference ในจุดที่อยากจะไปก็ได้ อยากให้ทุกคนสนุกแบบพวกเราครับ
ตี๋ : ผมว่า Thailand, I Miss You! นอกจากความคิดถึงในความทรงจะเก่าๆ ที่เราเคยผ่านมาแล้วเนี่ย ตี๋ว่ามันเป็นการสร้างโมเมนต์ใหม่ๆ ด้วย การที่เราได้เริ่มต้นออกไปเที่ยวใหม่กับเพื่อนๆ กับคนที่เรารักทำให้เราได้มีโมเมนต์ในการสร้างความสัมพันธ์ให้กระชับมากขึ้น ยิ่งทำให้ฟูลฟิวส์ในสิ่งที่ตามหามานาน หรือบางทีเราหายไปจากโควิดทำให้เราอยู่กับบ้านไม่ได้ไปไหนกักตัวทำให้เราดร็อปหรือว่าแพรสชั่นหายไป การที่ได้กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งมันอาจจะมีอินสไปเรชันทำให้เราได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ได้ครับ
ออกัส : ผมรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวแล้วในช่วงที่ล็อคดาวน์เหมือนธรรมชาติได้ฟื้นฟูแล้วเราก็ได้ไปเสพบรรยากาศซึ่งมันดีมากแล้วมาถ่ายทอดให้คนได้ดูธรรมชาติที่มันได้ฟื้นฟูแล้วซึ่งผมรู้สึกว่ามันดีมากก็อยากให้ทุกคนได้ดูครับผม