โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งสำหรับคู่จิ้นมาแรง “ภณ-ณวัสน์” ที่ควงคู่มากับ “บัว-นลินทิพย์” ในละครโรแมนติก-ดราม่า “พราวมุก” งานนี้หนุ่มภณต้องมารับบท “ชลันธร” ที่ปากร้าย ปากแข็งไม่ตรงกับใจ ไม่อยากแต่งงานยัยลูกเป็ด “พราวมุก” ผู้หญิงแกร่งใจสู้ผู้ไม่เคยยอมกับการเอาชนะใจพระเอกของเราให้ได้ ในบททั้งคู่ก็เลยฟาดฟันกันไม่ยั้งทั้งคอมเมดี้ ดราม่า และเลิฟซีนแบบจัดเต็มสมการรอคอยของแฟนละคร
KAZZ ขอคอนเฟิร์มเลยว่าเคมีของทั้งคู่ยังดี๊ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใจเราที่รักที่จิ้นคู่นี้ยาวๆ ไปเลยจ้า…ว่าแล้วจะช้าอยู่ทำไมไปพูดคุยกับ “ภณ-บัว” ให้หายคิดถึงกันดีกว่า
ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์
ห่างจากตราบาปสีชมพูไปนาน
“ใช่ครับ ตั้งแต่จบเรื่องตราบาปสีชมพูก็รอมา 3 ปี ตั้งแต่ฟิตติ้งรวมถึงการถ่ายทำ และการตัดต่อด้วยก็ 3 ปี ก็รู้สึกดีใจครับแล้วก็ขอบคุณเขาที่รอถึงแม้ว่ามันจะนาน เขาคงเห็นในความน่ารักหรือเคมีอะไรต่างๆ เราก็ดีใจแล้วก็ตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ดีใจมากครับที่คนดูค่อนข้างชื่นชอบ
แฟนละครคิดถึงคู่จิ้น “ภณ-บัว” มากๆ
“ก็ดีใจครับ เพราะอย่างน้อยเราก็ยังพอมีเคมีกับเขาบ้าง ทำให้เขาเห็นแล้วคนดูอินคนดูชอบ ก็กดดันเหมือนกันครับ คือตั้งแต่เรื่องตราบาปสีมชมพูแล้ว เขาบอกว่าเราเป็นคู่จิ้น เล่นแล้วดีมากเลย พอมาเรื่องนี้ พราวมุก ผมก็มีความกดดันมากเลยตั้งแต่ตอนที่ฟิตติ้งว่าเราจะทำออกมาได้ดีไหม ทำออกมาได้ดีเหมือนเดิมรึเปล่าก็เป็นการกดดันเล็กๆ ครับ แต่ก็ไม่ได้กดดันถึงขนาดที่เราต้องมากดดันตัวเอง ก็ทำให้เต็มที่ให้งานมันออกมาดีที่สุด”
กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฐานะคู่จิ้น
เขาเป็นคนที่ทำงานเก่งอยู่แล้ว แล้วยิ่งมาเล่นเรื่องนี้ก็ยิ่งได้เห็นว่าเขาทำการบ้านมาดี รับส่งกันเหมือนเดิม ชิลล์ๆ มากเวลาอยู่กอง
สมบทบาทเป็น “ชลันธร” หนุ่มปากแข็ง
“แรกเตอร์คือมันเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อน คือตัว “ชลันธร” จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่ไม่ชอบถูกใครมาบังคับ แล้วก็แสดงออกด้วยการประชดถ้าถูกบังคับ ด้วยความที่เป็นคนปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจ แล้วก็เป็นคนที่ปากจัด ชอบพูดโพล่งออกมาไปเลย (เหมือนตัวภณไหมคะ?) โอ้ย ไม่เหมือน (หัวเราะ) ผมเป็นคนที่บางทีก็ไม่ค่อยพูด เงียบๆ ไม่ค่อยพูด มีอะไรก็พูดไปแต่ว่าไม่พูดโพล่งถึงขนาดนั้น แต่ชลันธรเขาจะพูดโพล่งแบบตรงมาก แต่ก็จะมีมุมน่ารักๆ เวลาที่อยู่กับตัวเองหรือว่าอยู่กับคุณแม่ จะมีความคิดแบบที่คิดไปเอง มโนเก่ง มีความเป็นคอมเมดี้ซึ่งเราก็ต้องมีการปรับตัว แล้วก็คอยปรึกษากับผู้กำกับว่าต้องการคอมเมดี้ประมาณไหน ต้องเล่นใหญ่เลยไหม หรือว่าแค่ปานกลางแค่สนุกขำๆ ประมาณนี้”
ชอบอะไรในตัวชลันธรมากที่สุด
ชอบความปากไม่ตรงกับใจ แล้วก็ชอบเอาเรื่องไปคิดเอง เออเอง มโนเองมันก็เลยทำให้ตัวละครตัวนี้มีความน่าสนใจว่าความจริงแล้วตัวละครตัวนี้มันคิดอะไรอยู่
ซีนฟิน
“ในพราวมุกมันก็มีซีนฟินๆ มันก็ไม่ใช่ซีนที่กุ๊กกิ๊กธรรมดา มันเป็นซีนที่คนดูอาจจะฟิน แต่คนเล่นเหนื่อย (หัวเราะ) เพราะว่ามันต้องบู๊ อย่างตัวอย่างที่ออกไปมันก็มีล็อคคอ ก็เล่นกันจริงจังมาก ซึ่งถามว่ามันเหนื่อยไหม มันเหนื่อยครับเหมือนเป็นซีนบู๊อีกซีนหนึ่งเลยที่ค่อนข้างจะใช้พลังเยอะ แล้วมันเล่นด้วยความสมจริงมันเลยสนุก แล้วมันก็ทำให้คนดูชอบ ตบตีกันค่อนข้างเยอะครับ ใช้ทั้งคำพูดแล้วใช้ร่างกายก็มีครับ”
ถ้าในชีวิตจริงต้องมาแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดแบบในเรื่อง?
“ก็ต้องดูเหตุผลด้วยครับ แต่ถ้าถามว่าเชื่อไหมก็อาจจะมีส่วนเชื่อบ้าง ไม่ได้ไปลบลู่ แต่ต้องดูเหตุผลแล้วก็ต้องทำตามใจคุณพ่อคุณแม่ด้วย ถ้าต้องทำจริงๆ ก็อาจจะเป็นไปตามนั้น ถ้ามีคนหลายๆ คนพูดมากๆ แล้วเหตุผลมันหนามากกว่าจะปฏิเสธก็คงจะเป็นไปตามนั้น ถ้ามีใครพูดเตือนอะไรมาก็ระมัดระวังไม่ประมาทไว้ดีกว่า”
ข้อคิดดีๆ ที่ผู้ชมจะได้จาก “พราวมุก”
“พราวมุกมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักครับ ในเรื่องของความเข้าใจกันในครอบครัวก็มีครับ เพราะว่าชลันธรเป็นคนที่ถูกกดดัน ถูกดูถูกตั้งแต่เด็ก ซึ่งการให้กำลังใจกันในครอบครัวมันเป็นอะไรที่ดีกว่าการกดดัน มันทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้นได้ด้วยการให้กำลังใจกันครับ”
คลิปวิดีโอในอินสตาแกรมที่ชอบดู
“ผมจะชอบดูคลิปพวกสเก็ตบอร์ด แล้วก็เซิร์ฟ ก็เลื่อนไปจะเป็นคิลปพวกนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะว่าผมสนใจเรื่องนี้ไง ตอนนี้ผมอยากไปเล่นเซิร์ฟที่ภาคใต้ผมก็เลยสนใจ พอสนใจปุ๊บมันก็เลยขึ้นที่คลิปวิดีโอในอินสตาแกรมเยอะ มันไปเล่นเซิร์ฟเดือนตุลาคมปีที่แล้วก็อยากไปเล่นอีก เพราะตอนนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ได้เล่นเซิร์ฟหลังจากที่เล่นเซิร์ฟเสร็จก็ไปเล่นเซิร์ฟสเก็ต ผมก็มีเบสิคประมาณหนึ่งแล้วก็อยากไปลองอีกรอบหนึ่งว่าฟีลลิ่งมันเป็นยังไง”
กิจกรรมคลายเครียด
“ก็ดูหนัง ฟังเพลงแล้วก็เล่นเกมครับ หนังก็ชอบดูพวกคอมเมดี้คลายเครียด คือทุกวันนี้เราก็เครียดอยู่แล้วด้วยเหตุการณ์ต่างๆ คือผมชอบดูหนังแนวคอมเมดี้อยู่แล้วด้วย แล้วก็ชอบดูหนังแนวสืบสวนที่ต้องติดตามทุกตอน มีซีรีส์เกาหลีเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากเลยเรื่อง Flower of Evil ก็สนุกดีครับชอบ”
ใช้เวลาเล่นโซเชียลวันหนึ่งนานเท่าไหร่
“ไม่ได้นานครับ แต่จะเล่นถี่มากกว่ากว่า (หัวเราะ) ว่างๆ ก็จะหยิบมาดู คือผมไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาเล่นแล้วยิงยาว แต่จะเปิดประมาณแค่ 5 นาทีเต็มที่ แต่จะถี่ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ละครออนแอร์ก็ยาวเลยครับก็จะช่วยกันปั่น Twitter ปั่นจนมือหงิกแล้ว (หัวเราะ)
หน้าจอล็อคมือถือตั้งเป็นรูปอะไร?
“ผมว่าพี่น่าจะรู้ (รูป LISA BLACKPINK?) ใช่ๆ ครับ (ชอบอะไรในตัว LISA?) คือหนึ่งชอบความน่ารักของเขา ผมชอบคนที่ยิ้มแล้วน่ารักก็เลยชอบ แล้วก็เป็นคนที่มีความสามารถด้วย เป็นคนเก่ง”
ถ้าให้ฝากหนึ่งประโยคถึง LISA
“FC นะครับ (หัวเราะ) ผมก็ไม่รู้จะบอกว่าอะไรเหมือนกันถ้าผมเจอจริงๆ ผมก็คงจะสตั้นไปเหมือนกันทำตัวไม่ถูก แค่เห็นในรูปผมก็จะตายอยู่แล้วครับ” (ยิ้มเขิน)
ฝากผลงาน
“ก็ฝากผลงานละครเรื่อง “พราวมุก” ด้วยนะครับ กำลังออนแอร์อยู่ ก็เป็นผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตั้งใจทำมากๆ เป็นละครที่เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม ภาพสวยแล้วโลเคชันดี มีบินไปถ่ายทำที่เกาหลีด้วย ทั้งทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจกันอย่างเต็มที่ ก็ฝากทุกคนติดตามด้วยครับ แล้วก็มีเรื่อง “เก็บแผ่นดิน” เรื่องนี้ก็ถ่ายทำกันมาใช้เวลานานพอสมควรแล้ว ด้วยสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงสภาพอากาศแล้วก็ฤดูกาลต่างๆ ที่มันไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยเท่าไหร่เพราะเราต้องถ่ายเอ้าดอร์ตลอด เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่งและเป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งเหมือนกันเพราะว่าแสดงเป็นทหารให้คนดูเชื่อ ต้องคอยไปเวิร์กชอปคอยไปสังเกตบุคลิกของทหารก่อนที่จะมาถ่ายทำเรื่องนี้ (ต้องไปเรียนภาษากะเหรี่ยงด้วยไหมคะ) อ๋อ ของผมเป็นทหารไทยครับ ผมไม่ต้องไปเรียนอะไรขนาดนั้น เป็นทหารที่พอรู้เรื่องราวของกะเหรี่ยงอยู่บ้าง ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดกล้องครับเหลืออีก 6 คิวที่ยังถ่ายไม่ได้ เพราะมันต้องใช้ตัวละครเยอะมาก เหลื่อแต่ซีนใหญ่ๆ ก็เลยยังถ่ายไม่ได้ครับ จริงก็มีกำหนดออนแอร์แล้วครับแต่ยังปิดกล้องไม่ได้ จริงๆ ถ้าไม่มีโควิดรอบ 3 นี่ก็วันที่ 5 พ.ค.นี่คือปิดกล้องแล้ว แล้วก็มีเรื่อง “คู่เวร” ที่ผมรับบทเป็นนิคครับเป็นฝ่ายไอทีของบริษัททนายเรื่องนี้เล่นกับ แพทริเซีย กู๊ด มีความเป็นเพื่อนสนิทกันก็จะมีความตลกๆ กวนๆ หน้าตาย มีความเป็นคอมเมดี้และดราม่าด้วยครับ ก็ใกล้ปิดกล้องแล้วด้วยเหมือนกัน ก็ฝากด้วยครับสำหรับสองเรื่องนี้”
บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ
กระแสตอบรับของ “พราวมุก” ดีเกินคาด
“ก็ดีใจมากๆ ค่ะ ตอนแรกเราก็ลุ้นเหมือนกัน แล้วตอนนี้เราก็เป็นคนดูคนหนึ่งเลยที่รอลุ้นว่าละครจะเป็นยังไง แต่พอละครออนแอร์ไปแล้วได้รับฟีดแบคกลับมา ทุกคนบอกว่าคุ้มค่าสมการรอคอย เราก็รู้สึกโอเค แฮปปี้ ดีใจมากๆ ค่ะที่กระแสตอบรับดี”
กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฐานะคู่จิ้น
“บัวรู้สึกว่า 3 ปีที่ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเองทำให้เห็นว่ากลับมาแล้วเขาโตขึ้น แล้วความตั้งใจเขาก็ยังมีเหมือนเดิม วินัยเขาก็ยังมีเหมือนเดิม สิ่งที่ประทับใจก็คงเป็นความตั้งใจของเขา เพราะเราทั้งคู่มีความตั้งใจเหมือนกัน คืออยากทำให้ละครเรื่องนี้ออกมาดี แล้วก็ประสบความสำเร็จ เลยทำให้เรามีเป้าหมายเดียวกัน พอมาทำงานร่วมกันก็เลยรู้สึกว่ามันเข้ากันได้ง่าย”
พูดถึงคาแรกเตอร์ “พราวมุก”
“ต้องบอกว่าเรื่องนี้มีความไกลตัวบัวอยู่มากเหมือนกัน ในเรื่องเราจะต้องเป็นดีเจสาวสวยพราวเสน่ห์มากๆ มีความ sexy สำหรับบัวเลยมีความรู้สึกว่ามันยากประมาณหนึ่ง เพราะทุกคนก็จะเห็นว่าคาแรกเตอร์บัวจะเรียบร้อย หวานๆ แต่พอมาเรื่องนี้ได้พลิกคาแรกเตอร์ก็เลยแอบมีความกังวลตอนจะถ่ายเหมือนกัน ยิ่งพอเป็นดีเจและมีเต้นด้วย แฟนคลับบัวก็จะรู้ว่าความสามารถเกี่ยวกับดนตรีของบัวคือไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็ได้ไปเรียนเป็นดีเจค่ะ เพราะอย่างน้อยเราก็ต้องทำความรู้จักและใช้เครื่องมือให้เป็น สามารถทำได้เองจริงๆ แล้วเราเป็นคนงงกับร่างกายตัวเอง เวลาเต้นไม่รู้จะขยับร่างกายยังไง เลยมีไปเรียนเต้นด้วยเพื่อให้เรารู้จักกับร่างกายตัวเองมากขึ้น ก็คือทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะตั้งใจให้มันออกมาดีที่สุด”
ชอบอะไรในตัว “พราวมุก” มากที่สุด
“บัวชอบใจเขา เขาเป็นผู้หญิงที่แกร่งแล้วก็สู้มากๆ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรคือเขาพร้อมที่จะพุ่งชนและสู้กับปัญหา ไม่เคยยอมแพ้เลย ก็เลยรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนที่เก่งและอดทนมากๆ”
ถ้าในชีวิตจริงต้องมาแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดแบบในเรื่อง?
“เอาจริงๆ เป็นเราก็ไม่ยอมแต่งนะ ด้วยความที่เป็นสมัยนี้ เราคิดว่าเราต้องเลือกอะไรที่เป็นความสุขสำหรับเราได้ แต่ว่าถ้ามันเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ มันก็พูดยากนะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราต้องเจอเหตุการณ์อะไร ณ ตรงนั้น แต่ก็คงต้องค่อยๆ แก้ไขสถานการณ์ไป ให้ทุกอย่างมันโอเคที่สุด”
ถ้าเจอผู้ชายปากแข็งเหมือนในเรื่องจะมีวิธีเอาชนะใจเขาอย่างไร?
“ก็คงทำเหมือนพราวมุกนะคะ เพราะคิดว่าการที่จะทำให้ชลันธรรักพราวมุกได้ บัวคิดว่าพราวมุกเป็นคนที่ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ เขาไม่ได้คิดที่จะบังคับเพราะเขารู้ว่าชลันธรไม่ได้ชอบการถูกบังคับเท่าไหร่ เขาก็เลยทำทุกอย่างด้วยใจจริงๆ เลยทำให้เห็นว่าไม่ได้เข้าไปหลอกชลันธร”
ซีนฟิน
“ถือว่าเป็นเลิฟซีนที่ดุเดือดมากๆ (หัวเราะ) เล่นแต่ละซีนจบก็คือเหนื่อยเลย เพราะถ้าเป็นฉากกุ๊กกิ๊กปกติทั่วไปก็อาจจะเป็นรักกัน มีโมเมนต์น่ารักๆ แต่พอเป็นของพวกเราแล้ว เหมือนคนไม่ถูกกัน ตีกันแต่กลายเป็นฉากโรแมนติกขึ้นมาได้ มันต้องใช้พลังเยอะมาก เพราะพี่นายผู้กำกับเขาก็ละเอียดมาก แล้วก็อยากให้มันออกมาดี ออกมาน่ารักที่สุด มันก็เลยจะมีความต้องใช้แรงถีบกันตกเตียง ดึงขา กระชากหัว กระโดดถีบ (หัวเราะ) มันเลยดูไม่ใช่เลิฟซีนนะ ดูเป็นฉากบู๊มากกว่า หมดแรงจริงๆ เพราะเราก็เล่นกันเต็มที่จะได้ออกมาดีและไม่ต้องเล่นหลายเทค”
ข้อคิดดี ๆ ที่ผู้ชมจะได้จาก “พราวมุก”
“สำหรับพราวมุก บัวรู้สึกว่าถ้าสำหรับความรัก จะเหมือนคำพูดที่ว่าความรักมันไม่ใช่เกม เราไม่สามารถเอาความรักไปเปรียบเทียบได้ว่าใครจะแพ้หรือชนะ เพราะมันไม่มีคำนั้น สำหรับบัวรู้สึกว่าความรักมันต้องใช้หัวใจจริงๆ แล้วก็ในเรื่องของครอบครัว มันทำให้เรารู้ว่าไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าครอบครัวคอยอยู่ซับพอร์ตเราไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ มันก็จะทำให้เรามีแรงสู้ต่อไป”
คลิปวิดีโอในอินสตาแกรมที่ชอบดู
“ถ้าดูบ่อย ๆ คงเป็นคลิปที่เกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายรูป ถ่ายรูปยังให้สวย เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูป ปกติก็จะชอบหาไอเดีย วิธีการถ่ายรูป แล้วคิดว่าเราจะเอาไปทำยังไงต่อได้บ้าง”
ใช้เวลาเล่นโซเชียลวันหนึ่งนานเท่าไหร่
“ก็เล่นบ่อยนะคะ แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าต้องรู้ตัว ต้องไปทำอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่นั่งเล่นตลอดเวลา แล้วพอสังเกตตัวเองก็รู้ว่าตัวเองสมาธิสั้นขึ้น จากที่เรามีสมาธิกับสิ่งหนึ่งได้นานๆ แต่ตอนนี้เราอยู่ไม่ค่อยนิ่ง พอรู้ตัวเองเราก็พยายามหาอะไรทำเพื่อฝึกสมาธิ อย่างตอนอยู่บ้านบัวก็จะฝึกโดยการระบายสี เพราะมันทำให้บัวไม่จับโทรศัพท์ 2-3 ชั่วโมงได้เลย มันก็ดีเหมือนกันนะคะ”
ซีรีส์หรือหนังเรื่องโปรดที่อยากแนะนำ?
“ถ้าเรื่องที่บัวชอบก็คือมีหลายเรื่องมาก แต่ถ้าให้นึกตอนนี้ คงเป็นเรื่อง Hotel Del Luna เรื่องนี้บัวดูแล้วร้องไห้หนักมาก เพราะมันเป็นชีวิตหลังความตาย มีความสัมพันธ์ของครอบครัว คนรัก หรือปมต่าง ๆ พอดูแล้วก็ได้อะไรดี ๆ สอนเราให้รู้ว่าตอนที่มีชีวิตอยู่ เราควรทำอะไรเพื่อตัวเราเองและคนที่เรารักบ้าง”
หน้าจอล็อคมือถือตั้งเป็นรูปอะไร?
“ถึงกับต้องเปิดดูเลย (หัวเราะ) ก็เป็นรูปภาพสี ๆ แล้วเขียนว่า Slow Down ค่ะ (ทำไมถึงเลือกรูปนี้?) จริงๆ มันไม่ได้มีความหมาย แต่เป็นคนไม่ชอบใช้รูปคน แต่ชอบพวกรูปที่เป็นสี ๆ ให้ดูสบายตาค่ะ”
เมนูอาหารที่ชอบกินในช่วงนี้
“น่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำค่ะ จริงๆ เป็นคนชอบก๋วยเตี๋ยวต้มยำมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อก่อนตอนที่สามารถไปกินที่ร้านได้ ก็จะเป็นคนชอบหาร้านที่เขาบอกว่าอร่อยแล้วตามไปกินค่ะ”
ฝากผลงาน
“ก็ฝากละครเรื่องพราวมุกด้วยนะคะ เรื่องนี้ก็จะทำให้ทุกคนได้เห็นคาแรกเตอร์อีกบทบาทหนึ่งของบัว แล้วพวกเราทุกคนก็ตั้งใจกับเรื่องนี้มากๆ แล้วก็อยากจะบอกว่าตอนต่อไปจะสนุกแล้วก็เข้มข้นขึ้นอีกเยอะเลย ยังไงก็ฝากติดตามพราวมุกด้วยค่ะ”