พลอย ศรนรินทร์ นักแสดงวัยรุ่นที่ฝีมือมากประสบการณ์ และมีผลงานการแสดงทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ โฆษณา รวมถึงมิวสิควีดีโอเพลง ผลงานที่ทำให้พลอยเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากบทบาทของ ‘ฝ้าย’ในภาพยนตร์เรื่องอาปัติ กับการแสดงที่ท้าทายความสามารถของเธอเอง ล่าสุดพลอยมีภาพยนตร์เรื่อง ‘ผีโทรศัพท์’ให้ได้ชมกันไป และในวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ทุกโรงภาพยนตร์จะได้เจอพลอยในบทบาทของ ‘สร้อย’ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘สิงสู่’
‘พลอย ศรนรินทร์’ เติบโตมากับละครพื้นบ้าน
ใช่ค่ะ ก็ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เป็นละครพื้นบ้าน ช่วงนั้นคุณแม่จะเป็นคนรับงาน ทั้งจัดการงานและดูแลงานให้หมดเลยค่ะ
คิดว่าการแสดงมีความยากง่ายยังไงบ้าง
หนูว่ามันก็ยากในระดับหนึ่ง แต่มันเป็นสิ่งที่หนูชอบ หนูก็พยายามศึกษาไปเรื่อยๆ เวลาได้รับงานอะไรมาหนูก็จะพยายามตลอดค่ะ
เป็นหนึ่งในนักแสดงวัยรุ่นคนหนึ่งที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกยังไงบ้าง
หนูก็รู้สึกดีใจนะที่หนูมีงานมาเรื่อยๆ ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมีงานมาเรื่อยๆ ขนาดนี้ รู้สึกดีมากๆ ค่ะ ตอนนี้ก็จะขยันตั้งใจทำงานต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ
เสียดายช่วงเวลาของการเป็นวัยรุ่นไหม
ไม่เสียดายค่ะ จริงๆ แล้วเวลาที่เราไปทำงาน มันก็จะมีช่วงเวลาที่เราหยุดด้วยค่ะ หนูก็ใช้ช่วงเวลาหยุดตรงนั้นไปเที่ยวกับเพื่อน การไปเที่ยว ไปเรียน มันก็มีมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว สลับกับการทำงาน คือเราก็ไม่ได้สูญเสียช่วงเวลานั้นไปเลยซะทีเดียวค่ะ
ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแบบนี้ พลอยมีวิธีจัดสรรเวลายังไง
มันมีเวลาอยู่แล้วค่ะ เพราะแม่จะเคลียร์เวลาให้อยู่แล้วค่ะ แม่จะเป็นคนจัดตารางให้หมดเลยว่าวันนี้ต้องทำอะไร พรุ่งนี้ต้องทำอะไร เราก็จะไม่ห่วงตรงนี้มากเท่าไหร่ เพราะมีคนจัดการคิวให้อยู่แล้วค่ะ
คิดว่าตัวเองจะทำงานในวงการบันเทิงไปอีกนานแค่ไหน
ถ้ายังได้รับโอกาสแบบนี้เรื่อยๆ ก็อยากที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ
บท ‘ฝ้าย’ ในเรื่องอาปัติถือเป็นบทที่แจ้งเกิดของพลอย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หนูได้เป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกค่ะ เป็นหนังผี ในตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันค่ะว่าจะรับดีไหม เพราะด้วยเนื้อหากลัวว่ามันจะแรงเกินไป ซึ่งตอนนั้นเราอายุแค่สิบสี่เอง แต่พอเราได้อ่านบทจริงๆ เราก็คิดว่าถ้าเราเล่นมันจะดีต่อสังคมมากๆ เลยนะ เนื้อเรื่องคือสื่ออะไรได้เยอะมาก เลยรับเล่นค่ะ (เรื่องนี้มีความท้าทายยังไง?) ท้าทายมาก เพราะหนูต้องเล่นเป็นคนที่ชอบพระ ซึ่งชีวิตจริงหนูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เราจึงต้องทำความเข้าใจใหม่ โดยในเรื่องตัวฝ้ายจะเป็นคนที่ร้ายลึกนิดหนึ่ง เราก็ต้องทำการบ้านดีๆ แต่มันก็ยังคงมีความใสๆ เหมือนหนูปนอยู่ด้วย ก็เลยเอามาปรับมาผสมเข้าด้วยกันค่ะ
ภาพยนตร์เรื่อง ‘ผีโทรศัพท์’ รับบทเป็นใคร มีคาแรกเตอร์แบบไหน
เป็นนางเอกเหมือนเดิมค่ะ จะเป็นตัวละครที่ชื่อ แตง เป็นคาแรกเตอร์ที่โตกว่าตัวจริงหนูค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เป็นวัยรุ่นสาวแซ่บ สาวเปรี้ยว ทั้งที่ตัวจริงหนูยังเด็กมาก คำศัพท์ที่ใช้ในเรื่องก็จะดูโตขึ้น มีคำหยาบค่อนข้างเยอะเหมือนกัน มันก็พลิกคาแรกเตอร์หนูมากเหมือนกัน เพราะปกติหนูจะได้รับคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างเรียบร้อย พูดไม่เยอะ ไม่ได้เปรี้ยวเหมือนเรื่องนี้ค่ะ
อะไรเสน่ห์ของหนังผี และความแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่เคยเล่นมา
หนูรู้สึกว่าแทบทุกเรื่องเลยมันจะมีเสน่ห์และความน่าสนใจแตกต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้มันมีความน่าสนใจตรงที่หยิบยกเอาเรื่องราวที่เกี่ยวกับโทรศัพท์ เกี่ยวกับโซเชียล มาดำเนินเรื่องค่ะ ซึ่งมันน่าจะเข้าถึงกลุ่มคนในปัจจุบันได้มากและง่ายขึ้นค่ะ
เกิดมากับยุคที่โซเชียลเข้ามีบทบาทในชีวิต มีวิธีอยู่กับมันยังไงให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
จริงๆ หนูเป็นคนหนึ่งนะที่ติดโทรศัพท์มาก ตื่นเช้ามาก็ต้องเล่นเลย ซึ่งโทรศัพท์มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราก็ต้องจัดการเวลาให้ดี อย่าอยู่กับโทรศัพท์มากจนเกินไป เพราะว่ามันจะทำให้เราไม่สนใจคนรอบข้าง ละเลยสิ่งสำคัญอื่นๆ ในชีวิต ซึ่งเราก็แก้ปัญหาด้วยการพยายามหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง หรือถ้าจะใช้ก็ใช้มันอย่างสร้างสรรค์ อาจจะใช้หาข้อมูลนั่นนี่บ้าง ถ้าเป็นการเล่นโซเชียลก็ใช้แค่พอดีค่ะ
ถ้าวันหนึ่งเราเกิดกระแสด้านลบในโซเชียลจะมีวิธีการรับมือกับมันยังไง
เราก็คงจะจัดการอะไรมากไม่ได้ แต่ก็อาจจะใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ อาจจะใช้เป็นพื้นที่ในการอธิบายว่ามันไม่เป็นความจริงนะ เราไม่ได้เป็นเหมือนที่ข่าวว่า ก็อาจจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ
กระแสแฟนคลับเป็นยังไงบ้าง
ช่วงนี้แฟนคลับเยอะขึ้นค่ะ พอหนังเรื่อง 15+ iQ กระฉูด ฉายที่อินโดนีเซีย ก็มีแฟนคลับเข้ามาหาหนูเยอะมากขึ้น ช่วงนี้แฟนคลับคนไทยอาจจะน้อยหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นคนอินโดนีเซียค่ะ ก็มีเข้ามาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมด้วยค่ะ (คอมเมนต์ไหนที่เป็นพลังให้เรา?) ทุกคอมเมนต์เลยค่ะ แฟนคลับเขาก็จะบอกว่า “สู้ๆ นะ” ช่วงไหนที่หนูทำงานหนัก เขาก็จะให้กำลังใจดีมาก หลายๆ คนก็บอกว่าชอบการแสดง ชอบผลงานของพลอยมาก คำนี้ถือเป็นคำที่ช่วยเพิ่มพลังให้เราได้มากที่สุดเลยค่ะ เพราะเราก็ไม่กล้าคาดหวังว่าจะมีคนชอบผลงานเรา หรือคอยติดตามเรา (เคยเจอคอมเมนต์ด้านลบบ้างไหม?) เอาจริงๆ นะ หนูเป็นคนคิดมาก เป็นคนใส่ใจกับสิ่งรอบตัว แต่บางครั้งเราก็ต้องมองข้ามสิ่งไม่ดีไปบ้างค่ะ หนูจะพยายามไม่ไปคอมเมนต์หรือตอบกลับอะไร หนูรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคอมเมนต์ มีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นค่ะ หรือถ้าคอมเมนต์ไหนที่มันไม่ใช่ความจริง บางครั้งหนูก็เลือกที่จะลบมันค่ะ เพราะถ้าเราเห็นข้อความนั้นบ่อยๆ หนูก็คงปวดหัวค่ะ
เห็นมีคนชอบทักว่าพลอยหน้าคล้ายกับพี่แหม่ม จินตรา
ตื่นเต้นมาก (หัวเราะ) คือคำนี้หนูเจอแทบทุกวันเลย แล้วหนูก็รู้สึกดีใจมากๆ ตอนแรกหนูยังไม่เคยเห็นรูปพี่แหม่มตอนเป็นสาววัยรุ่น แต่พอมีคนทักบ่อยๆ หนูก็เลยไปหารูปดู พอเห็นแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองอยู่บ้างเหมือนกันนะ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นทรงผมหนูเหมือนพี่แหม่มด้วย มันเลยเพิ่มความคล้าย ยิ่งตอนเล่นเรื่องอาปัติมีคนทักเยอะมาก แต่หนูก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอพี่แหม่มเลยค่ะ ถ้าเจอก็คงต้องขอถ่ายรูปค่ะ หนูอยากเจอมาก
มีนักแสดงคนไหนเป็นไอดอลไหม
ถ้าจริงๆ คือไม่มี (หัวเราะ) หนูไม่ค่อยมีไอดอลทางด้านการแสดงเท่าไหร่ หนูชอบดูมากกว่า แต่ถ้าให้เลือก หนูเลือกพี่อั้ม พัชราภา แล้วกันค่ะ หนูรู้สึกว่าพี่เขาทำให้เราเชื่อได้ในทุกคาแรกเตอร์ หนูรู้สึกชอบ และเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เขามาแล้วด้วย รู้สึกว่าพี่เขาเป็นมืออาชีพมากๆ ค่ะ
ถ้าในอนาคตไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง อยากจะทำอาชีพอะไร
หนูไม่ได้คิดเลย แต่สิ่งที่หนูอยากทำอีกอย่างคือหนูอยากจะเป็นนักร้อง ซึ่งมันก็ยังอยู่ในวงการบันเทิงอยู่ดี ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงก็อยากจะเป็นนักร้องค่ะ (เคยทำเพลงไหม?) เคยคัฟเวอร์เพลงลงยูทูบเล่นๆ ค่ะ แล้วก็มีทางค่ายใหญ่ๆ เรียกไปเซ็นสัญญา คุยกันหลายครั้งเหมือนกัน แต่เราก็ยังไม่ได้รับโอกาสเหล่านั้นไว้ รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมค่ะ หนูรู้สึกว่าหนูถนัดด้านการแสดงมากกว่า แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ค่ะ เราอาจจะอยากร้องเพลงจริงจังขึ้นมาก็ได้ หรืออาจจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปทางด้านโน้นบ้างก็ได้ค่ะ
อัปเดตผลงานในช่วงนี้หน่อย
ตอนนี้มีภาพยนตร์เรื่อง ‘ผีโทรศัพท์’ และเรื่อง ‘สิงสู่’ เป็นหนังผีทั้งสองเรื่องเลยค่ะ โดยในเรื่อง สิงสู่ หนูเล่นเป็นเด็กอายุสิบสี่ คาแรกเตอร์ก็จะแตกต่างจากเรื่องผีโทรศัพท์มาก เพราะเรื่องนั้นเป็นสาวเปรี้ยวค่ะ ส่วนละครก็จะมีเรื่อง ‘เสียดาย’ ค่ะ น่าจะออนแอร์เร็วๆ นี้ และก็กำลังจะถ่ายทำซีรีส์ที่นำมารีเมคเป็นของญี่ปุ่นค่ะ
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 148 ฉบับเดือน ตุลาคม
หรือดาวน์โหลด E-Book