สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ หลังจากสูญเสียตลกชื่อดัง “น้าค่อม ชวนชื่น” ซึ่งสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน หลายคนทั้งในและนอกวงการต่างโพสต์ข้อความแสดงความอาลัย ต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “น้าค่อม” หนึ่งในนั้นคือ เพจ “เก้ากระบี่เดียวดาย” ซึ่งได้เขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวของน้าค่อม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ตรงต่อเวลาในการทำงานมากที่สุด แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้ น้าค่อม ต้องไปทำงานสาย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับทำให้หลายคนประทับใจในตัวตลกดังยิ่งขึ้นไปอีก
ย้อนไปสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นข้าพเจ้ายังทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับละคร ซึ่งในละครโทรทัศน์เรื่องนั้นมีนักแสดงตลกหลายต่อหลายคน และน้าค่อมคือหนึ่งในนั้น ตอนนั้นเองน้าค่อมยังไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนปัจจุบันแต่ไปไหนมาไหน ก็เริ่มพอจะมีคนรู้จักแล้ว
สิ่งหนึ่งที่น้าค่อมเป็นที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง คือ การตรงต่อเวลา
ทุกครั้งที่นัดกองถ่าย ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน เช้าแค่ไหน เมื่อไปถึงกองถ่าย คนแรกที่เราจะพบก่อนใคร คือน้าค่อม ซึ่งมีหลายครั้งที่น้าค่อมมาก่อนทีมงานเสียอีก
อย่างเช่นมีครั้งหนึ่ง ทีมงานเราไปโลเคชั่นสาย เราก็คุยกันว่า เชื่อสิว่าน้าค่อมต้องไปถึงโลเคชั่นแล้ว แต่พอไปถึงโลเคชั่นกลับไม่เจอรถของแก เราก็แซวกันว่าสงสัยแกคงจะหลงทาง จนทีมงานเซตกล้อง จัดไฟ เตรียมซีนแรก จู่ๆน้าค่อมเดินมาด้วยความง่วงงุน แล้วบอกกับทีมงานว่า
“กูก็นึกว่ามาผิดที่เสียแล้ว”
ความจริงน้าค่อมแกมาถึงก่อนทีมงานสักพักแล้ว แต่แกเห็นยังไม่มีใครมา ด้วยความขี้เกรงใจแกเลยไม่ได้โทรหาใคร แล้วก็เลยขับรถไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ หลังบ้านที่จะถ่ายละครแล้วก็หลับ
ท้ายที่สุดแล้วน้าค่อมก็ยังคงตำแหน่ง ดาราที่มาเช้าที่สุดในกองถ่ายอยู่ดี แต่คราวนี้แกเล่นมาก่อนทีมงานและเจ้าของบ้านจะตื่นเสียด้วย
“เราไปเอาเงินเขา เราต้องตรงต่อเวลา ตรงต่อหน้าที่ สิ่งเหล่านี้คือดีที่สุด การเป็นนักแสดง” น้าค่อมบอกกับทีมงานและนักแสดงหน้าใหม่ๆเสมอ
หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้พบน้าค่อมอีกครั้งที่ สหมงคลฟิล์ม ตอนนั้นข้าพเจ้าเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แล้วน้าค่อมมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง 7 ประจัญบาน ชื่อเสียงในการมากองถ่ายตรงต่อเวลาของน้าค่อมก็ยังคงที่กล่าวถึงให้ได้ยินอยู่เสมอ
นอกจากเรื่องการตรงต่อเวลาแล้ว น้าค่อมยังมีเรื่องนึงที่สร้างความประทับใจแก่ข้าพเจ้าจนถึงปัจจุบัน คือ เหตุการณ์หนึ่งที่แกไปทำงานสาย
มีคิวหนึ่งในกองถ่ายละคร ซึ่งจริงๆคิวน้าค่อมแกหมดแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว โดยแกเผื่อเวลาไปอีกงานหนึ่งช่วงค่ำ ที่แกเผื่อเวลาไว้สองชั่วโมง กับการเดินทางไปยังอีกงานที่ต่อให้แกเดินเท้าไปอย่างไรก็ไม่สาย แต่วันนั้นแกไปทำงานสาย
ช่วงค่ำของวันนั้น ทีมงานกำลังสาละวนถ่ายละคร ฉากสุดท้ายจนจบ ผู้จัดการกองถ่ายก็บอกกับทีมงานว่า น้องเอ(นามสมมติ) ซึ่งทำงานหน้าที่ คอนตินิวส์ (ควบคุมความต่อเนื่องของฉาก) เกิดอาการชัก แต่ตอนแรกทีมงานบอกว่าโดนผีเข้า เพราะเรามาถ่ายละครแต่ยังไม่ได้ไหว้เจ้าที่ (เอ่อ…….) ข้าพเจ้าก็ตกใจ ถามไถ่ว่าอยู่ไหนเป็นอย่างไร
“น้าค่อมขับรถไปส่งน้องที่โรงพยาบาลแล้ว”
“อ้าว น้าค่อมแกคิวหมดแล้วนี่”
“ใช่ แกกำลังกลับพอดี พอน้องโดนผีเข้า (เอ่อออ…. ) แกเลยรีบพาไปโรงพยาบาล”
ทราบดังนั้นข้าพเจ้าและทีมงานเลยรีบตามไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็ไม่พบกับน้าค่อมแล้ว ในขณะที่รุ่นน้องคนดังกล่าวปลอดภัยเป็นปกติแล้ว เพราะอาการป่วยจากโรคประจำตัว ซึ่งน้าค่อมแกคงดูออกเช่นกันจึงพาตัวรุ่นน้องข้าพเจ้ามาโรงพยาบาลไม่ได้ไปวัด ให้หลวงพ่อไปรดน้ำมนต์
เมื่อถามเจ้าหน้าที่ก็พบว่าน้าค่อมนั้นอยู่รอจนอาการรุ่นน้องข้าพเจ้าปลอดภัย และมีทีมงานตามมาดูแลแล้ว แกจึงค่อยรีบเดินทางไปอีกงาน
นั่นอาจจะเป็นไม่กี่งานในชีวิตของน้าค่อมที่ไปทำงานสาย แต่สายด้วยน้ำใจที่แกมีต่อทีมงานเบื้องหลังเล็กๆคนหนึ่ง
ขอบคุณ ที่มา : เก้ากระบี่เดียวดาย , ค่อม ชวนชื่น , na.kom_