สภาพอากาศร้อนจัดของบ้านเราในตอนนี้ อาจส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งอาการเจ็บป่วยที่ว่านี้ เกิดจากร่างกายสูญเสียเหงื่อจำนวนมาก จนทำให้เกิดอาการหงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย ปวดหัว เวียนหัว หน้ามืด เป็นลม หากร้ายแรงอาจถึงขั้นที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดความร้อนส่วนเกินได้ออกไปได้ ทำให้เป็นลม มีอาการชักเกร็งจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ง่าย ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นจากอุณหภูมิที่ร้อนจัดอาจส่งผลกระทบต่อทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะเกิดความเครียดจากความร้อนมากกว่าคนอายุน้อยกว่าเนื่องจากร่างกายของพวกเขาอาจไม่ปรับตัวได้ดีกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลันหรือนานเกินไป
และไม่ใช่แค่ในเมืองไทยเท่านั้นนะคะที่ต้องเผชิญกับอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด จากสถิติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) พบว่า ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2542 ถึง 2553 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 7,415 คนที่เกิดจากอาการเจ็บป่วยที่มีความเกี่ยวข้องกับอากาศร้อน และคลื่นความร้อนในฤดูร้อนในปากีสถานในปี 2558 มีคนเสียชีวิตมากกว่า 1,000 คนเลยทีเดียว
ผู้คนที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเนื่องจากอาการ้อนจัด
- ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่คนเดียวหรือไม่มีเครื่องปรับอากาศ
- ทารกและเด็กเล็ก
- คุณแม่ตั้งครรภ์
- คนที่ไม่สบายมีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคปอด
- คนที่ใช้ยารักษาอาการป่วยทางจิต
- คนที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ
อาการเจ็บป่วยที่มาพร้อมกับอากาศร้อนจัด
ตะคริว
อาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อที่เรียกว่าเป็นตะคริวนั้น เกิดจากร่างกายสูญเสียเกลือแร่และของเหลวในที่จำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่ทำงานหนัก หรือในช่วงที่อากาศร้อนจัดเมื่อระดับเกลือแร่ในร่างกายต่ำ ทำให้ร่างกายต้องเจ็บปวดไปกับกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว
ผดผื่น
อากาศร้อนทำใหัร่างกายขับความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อ เมื่อเหงื่อไหลมาผสมกับฝุ่นควันและเครื่องสำอางบนผิวหน้าที่อาจส่งผลทำให้เกิดการระคายเคืองจนทำให้เกิดผดผืนได้ง่าย ผดผื่นมักจะเกิดขึ้นกับคนที่ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อน
เป็นลมแดด
เมื่อเราอยู่กลางแจ้งในสถานที่ที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการวิงเวียน เริ่มมีปัญหาการมองเห็น เลือดและออกซิเจนไหลไปล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการสูญเสียสติชั่วคราวและวูบหมดสติไป เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการที่ศีรษะเกิดการกระแทกได้ง่าย ดังนั้นเมื่อรู้สึกตัวว่าเริ่มมีอาการเหงื่อออกมาก การมองเห็นเริ่มเบลอไม่ชัดเจน รู้สึกร่างกายเบาโหวง ให้รีบหาที่นั่งพักดื่มน้ำเย็นๆ ใช้ผ้าเย็นชัดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อระบายความร้อน ก่อนที่จะวูบหมดสติไป
วิธีป้องกันตัวเองจากสภาพอาการร้อนจัด
- เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรพกร่ม พัด หรือสวมหมวกที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่มาสัมผัสกับร่างกายโดยตรง
- ดื่มน้ำให้มากๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดให้ดื่มน้ำเย็นสองถึงสี่แก้วทุกชั่วโมง เพราะน้ำจะช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า อย่ารอที่จะดื่มเมื่อตอนกระหาย
- หลีกเลี่ยงการดื่มของเหลวที่มีแอลกอฮอลล์หรือน้ำตาลจำนวนมาก เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียของเหลวในร่างกายมากขึ้น
- ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอากาศร้อนจัด หากเลี่ยงไม่ได้ให้รีบเข้ามาพักในที่ร่มเมื่อพบว่าตัวเองมีอาการใจเต้นแรง มึนงง อ่อนเพลียจะเป็นลม
- อยู่ในอาคารและถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ในที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากบ้านของคุณไม่มีเครื่องปรับอากาศให้ไปที่ห้างสรรพสินค้าหรือห้องสมุดสาธารณะแม้กระทั่งการใช้เครื่องปรับอากาศเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถช่วยให้ร่างกายของคุณเย็นลงได้
- หากต้องออกกำลังกายให้ดื่มของเหลวเย็นและไม่มีแอลกอฮอล์สองแก้วสี่แก้วทุกชั่วโมง หรือดื่มเครื่องดื่มกีฬาที่สามารถแทนที่เกลือและแร่ธาตุที่สูญเสียไปกับเหงื่อได้
ข้อมูลจาก : osha.gov, betterhealth.vic.gov.au, cchealth.org
ภาพจาก : unsplash.com
สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 153 ฉบับเดือน มีนาคม
หรือดาวน์โหลด E-Book