“เลือดออกในปอด” อาการตกเลือดเฉียบพลันจากปอด

จากกรณีการจากไปอย่างสงบของ “น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว” หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์5  ในช่วงเช้ามืดวันที่ 14 มิถุนายน 2562 เวลา 02.17 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช  โดยทางทีมแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต

น้ำตาล ป่วยอย่างกะทันหัน โดยมีอาการเลือดออกปากและจมูกเป็นจำนวนมาก จนญาติต้องนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน  ด้านคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำทีมแพทย์แถลงอาการป่วยของน้ำตาลเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน  2562  ที่ผ่านมาว่าพบเส้นเลือดแตกทำให้เลือดไหลเข้าไปในระบบทางเดินหายใจและหลอดลม

อย่างไรก็ตามอาการเลือดออกในปอด (pulmonary hemorrhage) คือการที่มีการตกเลือดอย่างเฉียบพลันจากปอด ทางเดินหายใจส่วนบน หลอดลม หรือถุงลม หากปรากฎให้เห็นอาการได้มักเป็นในรายที่มีเลือดออกมากแล้ว อาการแรกเริ่มที่พบบ่อยคือการไอเป็นเลือด หากเป็นรุนแรงจะมีอาการขาดออกซิเจน อาการเลือดออกในปอดพบได้หลายสาเหตุ

-อาการระคายเคืองจากการไอที่มากเกิน การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ เกิดอาการระคายเคืองและไอเป็นเลือดได้

-การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ สาเหตุของไอเป็นเลือดที่พบมากที่สุดคือ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) และการติดเชื้อในปอด หรือปอดบวม (Pneumonia) ผู้ป่วยจะมีไข้สูงร่วมด้วย อาการไอเป็นเลือดจะดีขึ้นและหายเป็นปกติเมื่อการติดเชื้อได้รับการรักษา

-หลอดลมพอง คือ ภาวะที่หลอดลมขยายตัวอย่างผิดปกติ และมีการผลิตเมือกมากในทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะไอเป็นเสมหะค่อนข้างมาก หากทางเดินหายใจอักเสบจะไอเป็นเลือดร่วมด้วย

-วัณโรค เป็นสาเหตุที่พบได้ในไทย ผู้ป่วยจะมีอาการไอเรื้อรังนานมากกว่า 3 สัปดาห์ มีเสมหะเป็นเลือด ไข้สูง นอกจากนี้ ยังมีอาการเหนื่อยง่าย น้ำหนักลด และมีภาวะเบื่ออาหารร่วมด้วย

-โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด คือ ภาวะที่มีการอุดกั้นของหลอดเลือดแดงในปอด ผู้ป่วยมักหายใจลำบากอย่างกะทันหัน เจ็บหน้าอก และในบางรายอาจไอเป็นเลือดร่วมด้วย

-ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด ภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรงเป็นสาเหตุทำให้มีน้ำในช่องปอด ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก อาจมีเสมหะเป็นฟองปนเลือด นอกจากนี้ ปัญหาหลอดเลือดต่าง ๆ อาจทำให้เลือดออกในทางเดินหายใจและปอดได้เช่นกัน แต่ภาวะนี้พบได้น้อยมาก

-มะเร็งปอด อาการไอเป็นเลือดหรือเสมหะเป็นเลือด เป็นอาการหนึ่งของมะเร็งปอด ส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 50 ปี โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่

-การรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin Dabitagran และ Rivaroxaban ทำให้เกิดภาวะเลือดออก และไอเป็นเลือดได้

-การอักเสบและความผิดปกติของเนื้อเยื่อ เป็นภาวะที่เกิดกับทางเดินหายใจหรือปอด ทำให้เลือดออกและเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยไอเป็นเลือด สาเหตุของภาวะนี้ เช่น  โรคระบบทางเดินหายใจที่มีภาวะเลือดออกในถุงลมและหลอดเลือดฝอยในปอด  (Pulmonary Haemosiderosis)  และอาการไอเป็นเลือดช่วงมีประจำเดือนเนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในปอด (Pulmonary Endometriosis) อย่างไรก็ตามสาเหตุนี้พบได้ไม่บ่อย

-การสูดสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูกและการบาดเจ็บของปอด การสูดสิ่งแปลกปลอมเข้าไป เช่น ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ หรือถั่วลิสงในเด็กเล็ก สามารถทำให้ทางเดินหายใจและปอดเสียหายได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไอเป็นเลือด

-ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ บางครั้งแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการไอเป็นเลือดได้ (Idiopathic Haemoptysis) ซึ่งอาจเกิดจากหลอดเลือดเล็ก ๆ ในทางเดินหายใจแตกและทำให้เลือดออก โดยแพทย์จะวินิจฉัยได้ก็ต่อเมื่อตรวจไม่พบสาเหตุอื่น ๆ บางครั้งอาการไอเป็นเลือดเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสาเหตุ และจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก  

ข้อมูลจาก วิกิพิเดีย ,pobpad.com

อินสตาแกรม numtarny

สั่งซื้อ Kazz Magazine เล่ม 155 ได้ที่