ในตอนนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตระหนกและเตรียมการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่าตัวเลขล่าสุดจากองค์การอนามัยโลกเผยว่ามีผู้ติดเชื้อเกือบ 300, 000 รายแล้ว สถานการณ์ในแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร วันนี้มาอัปเดตไปพร้อมๆ กันเลย…
Sadiq Khan นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนเรียกร้องให้ทุกคนอยู่กับบ้าน ไม่เดินทางออกไปข้างนอก ไม่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะหากไม่จำเป็น หลังจากมียอดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่า 2,000 คนในกรุงลอนดอน
คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จะจัดการประชุมพิเศษในวันที่ 22 เพื่อตอบสนองต่อการแพร่กระจายทั่วโลกของการติดเชื้อ coronavirus ใหม่ เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว โดยจะพิจารณามาตรการต่างๆ ตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่จะนำไปสู่ข้อสรุปภายในเวลาประมาณหนึ่งเดือน ว่าจะมีการเลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่
นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel มาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วยการห้ามการไม่ให้มีการชุมนุมมากกว่าสองคน ลดการติดต่อกับผู้คนให้มากที่สุด
Pedro Sánchez นายกรัฐมนตรีสเปนได้ประกาศว่ากระทรวงสาธารณสุขของประเทศกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 394 คนในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันมากถึง 1,720 คน และสเปนมีแผนที่จะขยายเวลาฉุกเฉินไปอีก 15 วัน
ในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐอเมริกามากกว่า 30,565 คน ตามรายงานของ CNN Health เสียชีวิตแล้ว 384 คน
เอธิโอเปียและรวันดาได้รับชุดทดสอบ COVID-19 ชุดแรกและหน้ากากอนามัยที่บริจาคโดยมหาเศรษฐีชาวจีน Jack Ma ให้กับ 54 ประเทศในแอฟริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในแอฟริกาในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสมากกว่า 1, 000 ราย นอกจากนี้ Jack Ma ได้บริจาคอุปกรณ์ฉุกเฉิน หน้ากากอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้น รวมถึงชุดทดสอบจำนวน 400,000 ชุดและพัดลมระบายอากาศจำนวน 104 ตัว ให้กับ 24 ประเทศ ละตินอเมริกา รวมถึงอาร์เจนติน่า, บราซิล, ชิลี, คิวบา, เอกวาดอร์ สาธารณรัฐโดมินิกันและเปรูอีกด้วย
ในขณะที่องค์กรอนามัยโลกเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัส KOVID-19 มีจำนวน 11, 201 คน และเชื้อได้แพร่กระจายไปยัง 185 ประเทศทั่วโลก มีผู้ยืนยันการติดเชื้อกว่า 267, 013 คน
Cr. Twitter BBC News, who, cnni, mainichi.jp, Jack Ma, cnn.com